ฟิลิปปินส์กล่าวหาเรือยามชายฝั่งของจีนว่าปฏิบัติการคุกคาม หลังจากขัดขวางเรือฟิลิปปินส์ลำหนึ่งที่ทำการส่งเสบียงให้กับชาวประมงบริเวณแนวปะการังพิพาทในทะเลจีนใต้
เรือประมงของฟิลิปปินส์แล่นผ่านเรือยามชายฝั่งของจีน (ด้านหลัง) ใกล้กับสันดอนสการ์โบโรห์ที่จีนอ้างสิทธิ์ ในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ (Photo by Ted ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า ความขัดแย้งในน่านน้ำทะเลจีนใต้คุกรุ่นอีกครั้ง หลังฟิลิปปินส์กล่าวหาเรือยามชายฝั่งของจีนว่าทำการคุกคามเรือฟิลิปปินส์ที่ปฎิบัติหน้าที่ส่งเสบียงให้กับชาวประมงบริเวณแนวปะการังพิพาท
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ใกล้กับสันดอนสการ์โบโรห์ที่จีนอ้างสิทธิ์และเป็นข้อพิพาทกับหลายประเทศ นับตั้งแต่รัฐบาลปักกิ่งยึดพื้นที่ดังกล่าวจากฟิลิปปินส์ในปี 2555
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จีนได้ส่งเรือยามฝั่งมาลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวอยู่บ่อยครั้งและกระทบกระทั่งกับเรือของฟิลิปปินส์ที่ประณามว่าจีนกีดกันไม่ให้ชาวประมงของตนเข้าถึงน่านน้ำซึ่งมีสัตว์ทะเลชุกชุม
ในเหตุการณ์ล่าสุด เรือของหน่วยยามฝั่งจีนได้แล่นมาใกล้เรือสังกัดสำนักประมงและทรัพยากรทางน้ำของฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังนำอาหารและเชื้อเพลิงไปให้ชาวประมงฟิลิปปินส์ที่ทำการจับสัตว์น้ำในบริเวณสันดอนดังกล่าว
เรือของทั้งสองฝ่ายได้ท้าทายกันทางวิทยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยแต่ละฝ่ายกล่าวหาว่าอีกฝ่ายรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำของตน
มีรายงานว่า เรือยามชายฝั่งของจีนได้พุ่งเข้าตัดหน้าทางหัวเรือของของฟิลิปปินส์ประมาณ 4 ครั้ง เป็นเวลาสั้นๆ และขวางทางไม่ให้เข้าใกล้สันดอน ซึ่งการแล่นตัดหน้าทางหัวเรือเป็นสิ่งต้องห้ามทางการเดินเรือเพราะเป็นการกระทำที่เสี่ยงต่ออันตรายอย่างมาก
หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวในการแถลงข่าวในกรุงมะนิลาว่า กระทำดังกล่าวอาจทำให้เรือชนกันอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เรือของฟิลิปปินส์ก็สามารถเข้าใกล้สันดอนได้อย่างปลอดภัย และจัดส่งน้ำมันดีเซลพร้อมเสบียงอื่นๆ ให้กับเรือประมง 19 ลำในบริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้ สันดอนสการ์โบโรอยู่ห่างจากเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ไปทางตะวันตก 240 กิโลเมตร และห่างจากเกาะไหหลำของจีน 900 กิโลเมตร
จีนอ้างสิทธิ์เหนือทะเลเกือบทั้งหมด และเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศที่ว่าคำกล่าวอ้างฝ่ายเดียวไม่สามารถใช้ยึดถือทางกฎหมายได้.
