สหรัฐฯ เร่งอพยพเจ้าหน้าที่ หลังเหตุรุนแรงบานปลายในเฮติ

เมืองหลวงของเฮติเกิดการปะทะระหว่างกลุ่มอาชญากรและตำรวจรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สหรัฐฯเร่งอพยพเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันบางส่วนออกจากสถานทูตของตนในปอร์โตแปรงซ์

นักข่าวได้รับบาดเจ็บหลังถูกลูกหลงจากแก๊สน้ำตาซึ่งยิงโดยตำรวจ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม (Photo by Clarens SIFFROY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2567 กล่าวว่า กลุ่มอาชญากรยังคงก่อความรุนแรงในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ มาตลอดสัปดาห์ แม้จะมีการประกาศเคอร์ฟิวแล้วก็ตาม ขณะที่ตำรวจใช้กำลังเข้าระงับเหตุแต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ กลายเป็นการปะทะรายวันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ประชาชนต่างพากันหลบหนีเอาตัวรอดกันเองจากเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ร้อนถึงองค์การสหประชาชาติที่เตือนสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเมืองที่ถูกปิดล้อมด้วยอันตรายรอบด้าน

กลุ่มอาชญากรซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองหลวง รวมไปถึงเส้นทางมุ่งสู่พื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ได้ก่อความรุนแรงตามท้องถนนเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีอารีแยล อองรี และขยายผลการโจมตีแบบติดอาวุธไปยังทำเนียบประธานาธิบดีและสำนักงานตำรวจ

กองทัพสหรัฐฯ กล่าวเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า ได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มความมั่นคงของสถานทูตสหรัฐฯ ในเมืองปอร์โตแปรงซ์ และอนุญาตให้ภารกิจสถานทูตของดำเนินต่อไป หลังเปิดทางให้บุคลากรบางส่วนอพยพออกจากประเทศ

"การเคลื่อนย้ายบุคลากรเข้าและออกจากสถานทูตนี้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติมาตรฐานของเราในการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของสถานทูต" คำแถลงของกองทัพสหรัฐฯ ระบุ ภายใต้ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายด้วยเฮลิคอปเตอร์ก่อนรุ่งสาง

ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สถานทูตในเฮติยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่จำกัดการดำเนินงานเนื่องจากจำนวนบุคลากรลดลง

"ความรุนแรงของกลุ่มอาชญากรที่เพิ่มสูงขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับสถานทูตสหรัฐฯ และใกล้สนามบิน ทำให้กระทรวงการต่างประเทศตัดสินใจจัดการให้เจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากเฮติเพิ่มเติม" โฆษกฯกล่าวเสริม

แคริคอม (CARICOM) หรือประชาคมและตลาดร่วมแคริบเบียน ได้เรียกทูตจากสหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, แคนาดา และสหประชาชาติ เข้าร่วมการประชุมด่วนที่จาเมกาในวันจันทร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเฮติ

เหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าวทำให้ชาวเฮติต้องพลัดถิ่นภายในประเทศแล้ว 362,000 คน ตามรายงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ระบุว่า ชาวเฮติกำลังมีชีวิตด้วยอยู่ด้วยความหวาดกลัว และความบอบช้ำทางจิตใจจากความอันตรายที่เกิดขึ้นรายชั่วโมง

สหภาพตำรวจเฮติระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตำรวจได้ไล่ล่ากลุ่มอาชญากร ซึ่งรวมถึงในทำเนียบประธานาธิบดี และมีสมาชิกของกลุ่มดังกล่าวถูกสังหารไปหลายคน

เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มอาชญากรติดอาวุธได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงเรือนจำ 2 แห่ง ส่งผลให้นักโทษส่วนใหญ่จากทั้งหมด 3,800 คนหลบหนีไปได้

กลุ่มอาชญากรเหล่านี้กำลังพยายามกดดันนายกรัฐมนตรีอองรีซึ่งควรหมดวาระไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่กลับทำข้อตกลงแบ่งปันอำนาจกับฝ่ายค้านแทน และรักษาตำแหน่งไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่

ทำเนียบขาวขอให้นายกฯเฮติออกกฎหมายปฏิรูปการเมืองโดยด่วน แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับติดอยู่ในดินแดนเปอร์โตริโก หลังเดินทางไปทำภารกิจในเคนยา และไม่สามารถกลับเข้าประเทศได้เพราะเกิดความไม่สงบ

ปัจจุบัน กรุงปอร์โตแปรงซ์และพื้นที่เฮติตะวันตกได้รับการประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลาหนึ่งเดือน และเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนยังคงมีผลจนถึงวันจันทร์

สนามบินของเฮติยังคงปิดให้บริการ ในขณะที่ท่าเรือหลักซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับการนำเข้าอาหาร มีรายงานการปล้นสะดมและทรัพย์สินตั้งแต่วันพฤหัสบดี ทำให้สถานการณ์ความหิวโหยเริ่มเป็นปัญหาต่อประชาชนในพื้นที่ปะทะ.

เพิ่มเพื่อน