ตำรวจอินโดนีเซียจับกุมชาวไต้หวันมากกว่า 100 คนที่บ้านพักหลังหนึ่งในบาหลี ฐานก่ออาชญากรรมไซเบอร์

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของอินโดนีเซียโชว์หนังสือเดินทางและอุปกรณ์สื่อสารที่ยึดได้จากกลุ่มชาวไต้หวันที่ถูกจับกุมในข้อหากระทำอาชญากรรมทางไซเบอร์ ระหว่างการแถลงข่าวที่ศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในจิมบารันบนเกาะบาหลี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน (Photo by SONNY TUMBELAKA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า การแพร่กระจายของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นประเด็นกังวลที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และหน่วยงานในประเทศต่างๆ รวมถึงจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ได้เพิ่มความพยายามในการปราบปรามอย่างหนัก
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบาหลีซึ่งได้รับแจ้งจากหน่วยงานตำรวจอินโดนีเซีย ได้บุกเข้าไปในบ้านพักหลังหนึ่งในเขตปกครองตาบานันเมื่อวันพุธ และจับกุมกลุ่มผู้หญิง 12 คนและผู้ชาย 91 คนพร้อมโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อีกหลายร้อยเครื่อง
"พวกเขาถูกกล่าวหาว่าละเมิดใบอนุญาตเข้าเมืองและก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์โดยมุ่งเป้าไปที่ชาวมาเลเซีย" ซาฟาร์ มูฮัมหมัด โกดัม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซีย กล่าว
เขาเสริมว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนิคดีกับกลุ่มผู้ถูกจับกุมได้ เนื่องจากอาชญากรรมที่ถูกกล่าวหาอยู่นอกเขตอำนาจศาลอินโดนีเซีย แต่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานในมาเลเซียด้วย
"กิจกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่บุคคลภายนอกประเทศ ทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะปฏิบัติตามองค์ประกอบของความผิดทางอาญาในกรณีเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้น พวกเขาเข้าข่ายความผิดภายใต้การดำเนินการตรวจคนเข้าเมือง ทำให้เราจำเป็นต้องเนรเทศชาวต่างชาติทั้ง 103 คน" โกดัมกล่าวในการแถลงข่าว
ขณะนี้กลุ่มคนเหล่านั้นถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในบาหลี เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
อินโดนีเซียเคยเผชิญหน้ากับเครือข่ายอาชญากรไซเบอร์ระหว่างประเทศที่มุ่งเป้าหมายต่อบุคคลในจีน
โดยในปี 2561 ตำรวจบาหลีจับกุมชาวจีน 103 คน พร้อมด้วยชาวอินโดนีเซีย 11 คน ฐานดำเนินการเครือข่ายอาชญากรรมทางไซเบอร์มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ที่มุ่งเป้าไปที่นักธุรกิจและนักการเมืองที่ร่ำรวยในจีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ผิดฟอร์ม! เทียบกับยุคนั่ง 'มท.1-รมว.สธ.'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "อนุทิน เป็นได้แค่รัฐมนตรี" โดยระบุว่า
นายกฯอนุทิน เซ็นตั้ง 'ซูเปอร์บอร์ด' ปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 341/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี


