
(จูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks ชูกำปั้นหลังการอภิปรายมุ่งเน้นไปที่การควบคุมตัวและการพิพากษาลงโทษของเขา รวมถึงผลกระทบที่น่าหวาดกลัวต่อสิทธิมนุษยชน ที่สภายุโรปในเมืองสตราสบูร์ก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นับเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกหลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัว – Photo by Frederick Florin / AFP)
ตามที่สภายุโรประบุ จูเลียน อัสซานจ์ เป็นนักโทษการเมือง ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในมติ ก่อนหน้านี้ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาได้รับการปล่อยตัว
สภายุโรปจัดประเภทจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks ให้เป็นนักโทษการเมืองในการลงมติ สมัชชารัฐสภาในเมืองสตราสบูร์กกล่าวถึงข้อกล่าวหาร้ายแรงที่สหรัฐฯ กระทำต่ออัสซานจ์ โดยอาจมีโทษจำคุกตลอดชีวิต “สำหรับการรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ข่าว”
มติในที่ประชุมเรียกร้องให้สหรัฐฯ สอบสวนข้อกล่าวหาเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่จูเลียน อัสซานจ์และ WikiLeaks นำมาเปิดเผย การจัดการกับอัสซานจ์ทำให้เกิด “ผลกระทบที่น่าหวาดกลัว” และเป็นการบ่อนทำลายการคุ้มครองของผู้สื่อข่าวและผู้แจ้งเบาะแสทั่วโลก
สมัชชาของสภายุโรปยังกล่าวหาทางการอังกฤษด้วยว่า ล้มเหลวในการปกป้องสิทธิของอัสซานจ์ ที่จะมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก แม้ว่าข้อกล่าวหาต่ออัสซานจ์จะมีลักษณะทางการเมือง แต่เจ้าหน้าที่รัฐก็ทำให้เขาต้องถูกจำคุกเป็นเวลานานอย่างไม่อาจยอมรับได้
สภายุโรป ซึ่งประกอบด้วย 46 ประเทศ และเป็นอิสระจากสหภาพยุโรป ได้จัดการกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของจูเลียน อัสซานจ์หลายครั้งในอดีต เมื่อวันอังคารอัสซานจ์ได้พูดคุยกับสภายุโรป ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เขาได้รับการปล่อยตัวอย่างน่าประหลาดใจเมื่อปลายเดือนมิถุนายน การลงมติของสภายุโรปเป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่ไม่มีผลบังคับหรือผูกพันทางกฎหมาย
ตั้งแต่ปี 2010 WikiLeaks ได้เผยแพร่เอกสารลับจากเชลซี แมนนิง ผู้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในอิรักและอัฟกานิสถาน สหรัฐฯ กล่าวหาว่าการกระทำของอัสซานจ์ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของผู้ให้ข้อมูลแก่สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามผู้สนับสนุนของอัสซานจ์มองว่า เขาเป็นนักข่าวผู้กล้าหาญที่กล้าเปิดเผยอาชญากรรมสงครามให้ชาวโลกได้รับรู้
จูเลียน อัสซานจ์ต้องซ่อนตัวอยู่ภายในสถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอนเป็นเวลา 7 ปี ก่อนถูกควบคุมตัวเพื่อรอการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในปี 2019 หลังจากได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาก็กลับไปยังบ้านเกิดของเขาในออสเตรเลีย ที่ซึ่งเขาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
ไม่พลาด ‘สว.นันทนา’ ฟาดนายกฯฝึกงานสื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ!
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “นายกฝึกงาน” สื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ
โบว์ เตือนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ต้องใช้เหตุผลรอบคอบทุกมิติ ไม่ใช่ตามกระแสอารมณ์
โบว์ ชี้การคิดเอาเองว่าประธานาธิบดีสหรัฐเข้าข้างกัมพูชา ประธานอาเซียนก็เข้าข้างกัมพูชา เป็นความคิดแบบมโนไปเอง
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา
อดีตรองอธิการบดี มธ. สะกิด 'สภาหอการค้า-สภาอุตฯ' หนุน 'นายกฯ' หาตลาดใหม่สู้สหรัฐ
อดีตรองอธิการบดี มธ. ขอเชียร์ให้นายกรัฐมนตรียึดมั่นในความถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวให้ประเทศมหาอำนาจ จัดการกับกัมพูชาให้จบให้ได้ หากทำได้โอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง จะเท่ากับ 100%
อดีตบิ๊กศรภ. ชี้เหตุผลสำคัญไม่ต้องกลัว 'สหรัฐ' ทิ้ง 'ไทย' แนะรัฐบาลมีจุดยืนมั่นคง
สำหรับพี่ไทยนั้น แม้จะไม่ยอมให้สหรัฐ เข้ามาตั้งฐานทัพ แต่สหรัฐ ก็หวงแหนประเทศไทยมาก เพราะภูมิศาสตร์ที่ตั้งของไทย สหรัฐยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลายเรื่อง


