หมายจับ ICC มีผลบังคับใช้กับ 'เบนจามิน เนทันยาฮู' หรือไม่?

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลถูกขู่ด้วยหมายจับ แต่มีข้อสงสัยในฝรั่งเศสว่า เขาจะถูกดำเนินการตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศจริงหรือไม่?

กระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศสตั้งข้อสงสัยว่า จะสามารถบังคับใช้หมายจับที่ออกโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ต่อเบนจามิน เนทันยาฮูได้หรือไม่? เป็นที่สังเกตว่าอิสราเอลไม่ได้ให้สัตยาบันต่อธรรมนูญกรุงโรมของศาล กระทรวงกล่าวในแถลงการณ์ เรื่องนี้อาจนำไปสู่การได้รับความคุ้มครองของเนทันยาฮู และโยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งมีหมายจับเช่นกัน

“ฝรั่งเศสจะปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เนื่องจากธรรมนูญกรุงโรมกำหนดไว้ ให้ต้องร่วมมืออย่างเต็มที่กับศาลอาญาระหว่างประเทศ” กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าว แต่ในเวลาเดียวกัน ฝรั่งเศสไม่จำเป็นต้องดำเนินการ “ขัดแย้งกับพันธกรณีของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวกับความคุ้มกันของรัฐที่ไม่ใช่ภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศ ความคุ้มกันเหล่านี้ใช้กับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และจะต้องนำมาพิจารณา หากศาลอาญาระหว่างประเทศร้องขอให้มีการจับกุมและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน”

ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส ได้ประกาศไปแล้วว่าประมุขแห่งรัฐบางคนจะได้รับความคุ้มกันจากศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามสื่ออย่างชัดเจนว่า เนทันยาฮูจะถูกจับกุมหรือไม่หากเดินทางเข้าไปในดินแดนฝรั่งเศส

ฝรั่งเศส “มุ่งมั่นอย่างแข็งขันต่อความยุติธรรมระหว่างประเทศ และจะใช้กฎหมายระหว่างประเทศบนพื้นฐานของพันธกรณีในการร่วมมือกับศาลอาญาระหว่างประเทศ” เขากล่าว ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงยังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหานี้

ฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ Haaretz ของอิสราเอล คำแถลงที่ได้รับการตีพิมพ์ในขณะนี้กล่าวกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อเรียกร้องของอิสราเอลในการเจรจา

ภายหลังรับทราบหมายจับแล้ว ฝรั่งเศสได้ประกาศในเบื้องต้นว่าจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่หลังจากนั้นไม่นาน กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับเปลี่ยนจุดยืน และประกาศว่า “คำตัดสินของศาลเป็นเพียงการตั้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการเท่านั้น”

ฝรั่งเศสตั้งใจที่จะ “ทำงานอย่างใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูและหน่วยงานอื่นๆ ของอิสราเอลต่อไป เพื่อบรรลุสันติภาพและความมั่นคงสำหรับทุกฝ่ายในตะวันออกกลาง” นี่เป็นเนื้อหาในถ้อยแถลงล่าสุด และเป็นการยืนยันที่สอดรับกับมิตรภาพอันยาวนานระหว่างฝรั่งเศสและอิสราเอล.