บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของญี่ปุ่นอย่างฮอนด้าและนิสสันจะเข้าสู่การเจรจาควบรวมกิจการเพื่อช่วยให้พวกเขาเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับเทสลาและผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ ได้

แฟ้มภาพ มาโกโตะ อุชิดะ (ซ้าย) ประธานและซีอีโอของผู้ผลิตรถยนต์นิสสัน จับมือกับโทชิฮิโระ มิเบะ (ขวา) ประธานผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหารตัวแทนของผู้ผลิตรถยนต์ฮอนด้า หลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในภาคส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม (Photo by Richard A. Brooks / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ฮอนด้า มอเตอร์ และนิสสัน มอเตอร์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของญี่ปุ่น จะเข้าสู่การเจรจาควบรวมกิจการเพื่อช่วยให้องค์กรมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นในการแข่งขันกับบริษัทเทสลาและผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ ได้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นิกเคอิ
บริษัททั้งสองกำลังมองหาวิธีดำเนินงานภายใต้บริษัทโฮลดิ้งเดียว และจะลงนามในบันทึกความเข้าใจสำหรับการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ในไม่ช้านี้
มีรายงานว่าฮอนด้าและนิสสันจะพิจารณานำมิตซูบิชิ มอเตอร์สซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งดังกล่าวเพื่อสร้างกลุ่มยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ฮอนด้าและนิสสันออกแถลงการณ์ที่เกือบจะเหมือนกัน โดยระบุว่าทั้งสองบริษัทกำลังสำรวจความเป็นไปได้ต่างๆ สำหรับความร่วมมือในอนาคต และจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกันและกัน
ในเดือนมีนาคม ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองและสามของญี่ปุ่น รองจากโตโยต้า ได้สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อตกลงที่จะสำรวจความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อไล่ตามคู่แข่งจากจีน เช่น บีวายดี (BYD) ที่เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะที่บริษัทญี่ปุ่นเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปโดยมุ่งเน้นไปที่ยานยนต์ไฮบริดมากขึ้น
จีนแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากความโดดเด่นด้านยานยนต์ไฟฟ้า
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ประกาศแผนการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสองเท่าด้วยมูลค่า 65,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายอันทะเยอทะยานที่ตั้งไว้เมื่อ 3 ปีก่อนในการบรรลุเป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2583
นิสสันได้ส่งสัญญาณถึงความทะเยอทะยานที่คล้ายคลึงกัน โดยระบุในเดือนมีนาคมว่ารถยนต์รุ่นใหม่ 16 รุ่นจาก 30 รุ่นที่วางแผนจะเปิดตัวภายใน 3 ปีข้างหน้าจะเป็นแบบ "ไฟฟ้า"
ทั้งนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของโลกให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากลับชะลอตัวลงเนื่องจากผู้บริโภคกังวลเรื่องราคาที่สูง, ความน่าเชื่อถือ รวมทั้งการจำกัดของระยะทาง และจุดชาร์จที่ไม่เพียงพอ
ปัจจุบันรถยนต์ไฮบริดที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และเครื่องยนต์สันดาปภายในได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่น โดยคิดเป็น 40% ของยอดขายในปี 2565
แต่การที่บริษัทญี่ปุ่นมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฮบริดทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องชะลอการตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
ในปี 2565 รถยนต์ที่ขายในญี่ปุ่นมีเพียง 1.7% เท่านั้นที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวเลขตลาดที่น้อยมากเมื่อเทียบกับ 15% ในยุโรปตะวันตกและ 5.3% ในสหรัฐอเมริกา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัมผัส จูนเหยา JY AIR รถไฟฟ้า 100% ช่วงล่างดี กว้างสบาย
หลังจากที่ได้เปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกในเมืองไทย ในงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา จูนเหยา เปิดตัว “JY AIR” ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นแรก
โชว์ต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ลดฝุ่นอากาศสะอาดทุกลมหายใจ
"อากาศบริสุทธิ์ใน กทม.เป็นจริงได้ ด้วยจุดเปลี่ยนร่วมมือร่วมใจ ให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้" ด้วยแนวคิดข้างต้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)