กระทรวงกลาโหมไต้หวันเผย จีนส่งเครื่องบินรบ 39 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินขับไล่ และมีเครื่องบินทิ้งระเบิดด้วย 1 ลำ บินเข้าเขตป้องกันภัยอากาศของไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ เป็นการรุกล้ำครั้งใหญ่สุดในปีนี้และมากเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยบันทึกสถิติ

ยังไม่แน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้กองทัพจีนส่งเครื่องบินรบรุกล้ำเขตป้องกันภัยของไต้หวันในวันเดียวจำนวนมากขนาดนี้ แต่รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 กล่าวว่า วันก่อนหน้านี้กองทัพสหรัฐและญี่ปุ่นเพิ่งฝึกทางทะเลร่วมกันในทะเลฟิลิปปินส์ ที่รวมถึงน่านน้ำนอกฝั่งตะวันออกของไต้หวัน
กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมากล่าวว่า มีเครื่องบินรบของจีน 39 ลำรุกล้ำเข้าเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (เอดีไอซี) ของไต้หวัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะปราตัสที่ไต้หวันควบคุม โดยเป็นเครื่องบินขับไล่ เจ-16 จำนวน 24 ลำ และเจ-10 อีก 10 ลำ, เครื่องบินทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ 4 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถบรรทุกนิวเคลียร์ เอช-6 ด้วย 1 ลำ
คำแถลงกล่าวด้วยว่า กองทัพไต้หวันส่งเครื่องบินรบขึ้นประกาศเตือนเครื่องบินจีน และระบบมิสไซล์ป้องกันภัยทางอากาศได้เฝ้าติดตามเครื่องบินของจีน
การส่งเครื่องบินรุกล้ำในวันเดียว 39 ลำ เป็นจำนวนมากเป็นอันดับสอง เท่ากับเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 โดยสถิติมากที่สุดนั้นอยู่ที่ 56 ลำ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564
นับตั้งแต่ไต้หวันเริ่มเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการรุกล้ำทางอากาศของจีนเมื่อเดือนกันยายน 2563 เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาถือเป็นเดือนที่จีนส่งเครื่องบินรบรุกล้ำเอดีไอซีของไต้หวันมากที่สุด รวม 196 ครั้ง โดย 149 ครั้งเกิดภายในเวลา 4 วัน ที่ตรงกับการฉลองวันชาติจีน
การส่งเครื่องบินเข้าเขตเอดีไอซี ซึ่งเป็นเขตที่ไต้หวันกำหนดขึ้นเองและมีบางส่วนทับซ้อนกับเอดีไอซีของจีน ครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากกองทัพเรือสหรัฐและญี่ปุ่นฝึกซ้อมทางทะเลร่วมกันที่ทะเลฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 17-22 มกราคม โดยกองกำลังป้องกันภัยทางทะเลของญี่ปุ่นทวีตในวันจันทร์ว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ "การตอบสนองและการป้องปรามที่มีประสิทธิภาพ"
กองเรือแปซิฟิกของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอสคาร์ลวินสัน และยูเอสเอส อับราฮัมลินคอล์น เข้าร่วมการฝึกซ้อมเพื่อรักษาและปกป้องอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างครั้งนี้ด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
กระแสชื่นชม สมเด็จพระราชินี จากชาวจีนสะท้อนอะไร
ความคิดเห็นของชาวจีนจำนวนมากพูดตรง ๆ เลยว่า “งดงาม สง่างาม มีความสูงศักดิ์” และ “ดูจริงใจ ไม่ใช่การแสดง”
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา


