โรดริโก ดูเตอร์เตกล่าวว่าเขาขอรับผิดชอบเองทั้งหมด กรณีศาลอาญาระหว่างประเทศควบคุมตัวเขาไปดำเนินคดีในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

เครื่องบิน Gulfstream G550 ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครื่องบินของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลลิปปินส์ถูกพบเห็นหลังจากลงจอดที่สนามบินรอตเตอร์ดัม-เดอะ-เฮก เมื่อวันที่ 12 มีนาคม หลังจากเขาถูกจับกุมตามหมายศาลอาญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด (Photo by JOHN THYS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2568 กล่าวว่า จากกรณีโรดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ถูกตำรวจจับกุมในกรุงมะนิลาตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศที่ฟ้องร้องเขากรณีใช้ความรุนแรงในสงครามต่อต้านยาเสพติด ล่าสุดเขาถูกควบคุมตัวขึ้นเครื่องบินและเดินทางถึงเนเธอร์แลนด์แล้วเพื่อขึ้นศาลที่นั่น
ศาลอาญาระหว่างประเทศซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเฮก เชื่อว่ามีเหตุผลอันสมควรที่จะตั้งข้อหาดูเตอร์เตในฐานะผู้ร่วมก่อเหตุโดยอ้อมกรณีฆาตกรรมต่อมนุษยชาติระหว่างการรณรงค์ปราบปรามยาเสพติดในฟิลิปปินส์ ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนประเมินว่าคร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นราย
"ผมเป็นผู้นำการบังคับใช้กฎหมายและกองทหารของเรา ผมจะปกป้องพวกคุณและผมจะขอรับผิดชอบทั้งหมดนี้เอง" ดูเตอร์เตกล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนเพจเฟซบุ๊ก
"ผมบอกกับตำรวจและกองทหารแล้วว่านี่คือหน้าที่ของผมและผมต้องรับผิดชอบ" ชายวัย 79 ปีซึ่งเป็นอดีตประมุขแห่งรัฐชาวเอเชียคนแรกที่ขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศกล่าว
โฆษกของศาลฯยืนยันว่าดูเตอร์เตถูกควบคุมตัวไว้ในอาคารศาล หลังจากเดินทางมาถึงเมืองรอตเตอร์ดัมด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
มีรายงานพบเห็นรถยนต์ที่คาดว่าดูเตอร์เตโดยสารมา ขับเข้าไปในศูนย์กักขังของศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยมีผู้สนับสนุนหลายสิบคนมารอให้การสนับสนุนด้วยการโบกธงชาติแล้วร้องตะโกนว่า "นำตัวเขากลับมา"
"นี่ไม่ใช่กระบวนการทางกฎหมายใดๆ นี่คือการลักพาตัวด้วยการนำเขาขึ้นเครื่องบินแล้วพามาที่นี่" หนึ่งในผู้มาให้การสนับสนุนกล่าวกับเอเอฟพี
ศูนย์กักขังดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลเหนือ, มีห้องขังส่วนตัวพร้อมคอมพิวเตอร์ให้กับนักโทษแต่ละคนเพื่อใช้ในคดีของพวกเขา รวมถึงพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง
ดูเตอร์เตจะถูกคุมขังที่นั่นจนกว่าจะขึ้นศาลครั้งแรก ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทนายความที่เป็นตัวแทนของเหยื่อสงครามยาเสพติดกล่าวกับเอเอฟพีนอกศาลอาญาระหว่างประเทศว่า "ลูกความของผมขอบคุณพระเจ้ามากที่คำอธิษฐานของพวกเขาได้รับการตอบสนอง"
"การจับกุมโรดริโก ดูเตอร์เตเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาระหว่างประเทศ นั่นหมายความว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย" ทนายความกล่าวเสริม
ก่อนที่พ่อของเธอจะออกเดินทาง รองประธานาธิบดีซารา ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์กล่าวว่า เขาถูกพาตัวไปที่กรุงเฮกโดยใช้กำลังด้วยการกดขี่และการข่มเหง จากนั้นเธอจึงบินตามมาจากมะนิลาเพื่อมาอยู่เคียงข้างเขา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารมวลชนของรองประธานาธิบดีกล่าวกับเอเอฟพีว่า ซาราเดินทางถึงอัมสเตอร์ดัมแล้ว และวางแผนจะแถลงข่าวที่กรุงเฮกในวันศุกร์
ซาราเองก็พัวพันกับการถูกพิจารณาคดีในวุฒิสภาจากข้อกล่าวหาหลายข้อ รวมถึงการทุจริตและการวางแผนลอบสังหารประธานาธิบดีมาร์กอส
โวลเกอร์ เติร์ก หัวหน้าหน่วยงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ว่าเป็น "ก้าวสำคัญยิ่งในการแสวงหาความรับผิดชอบต่อเหยื่อของการสังหารนับพันคน"
อย่างไรก็ตาม จีนได้ออกโรงเตือนศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับความโปร่งใสทางการเมือง และการเลือกปฎิบัติแบบสองมาตรฐาน โดยกล่าวว่าจีนกำลังติดตามคดีของดูเตอร์เตอย่างใกล้ชิด
คดีที่มีชื่อเสียงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรจากโดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่พอใจศาลแห่งนี้ซึ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2002 เพื่อดำเนินคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากกรณีที่ศาลได้ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล
คาริม ข่าน อัยการสูงสุดของศาลอาญาระหว่างประเทศ กล่าวว่า การที่ศาลได้ออกหมายจับดูเตอร์เตนั้นมีความสำคัญต่อเหยื่อ และเป็นหลักฐานว่ากฎหมายระหว่างประเทศไม่ได้อ่อนแออย่างที่บางคนคิด
ฟิลิปปินส์ได้ลาออกจากสมาชิกศาลอาญาระหว่างประเทศในปี 2019 ตามคำสั่งของดูเตอร์เต
แต่ศาลอ้างว่าศาลมีอำนาจเหนือคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งรวมถึงคดีในเมืองดาเวาทางตอนใต้ในสมัยที่ดูเตอร์เตดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี
ศาลอาญาระหว่างประเทศระบุในหมายจับว่า "มีเหตุผลอันสมควรที่จะเชื่อได้ว่ามีคนอย่างน้อย 19 คนถูกสังหารในเมืองดาเวา โดยสมาชิกของหน่วยสังหารดาเวาซึ่งมีดูเตอร์เตเป็นหัวหน้า"
นอกจากนี้ ผู้พิพากษายังเชื่อว่ามีผู้คนอย่างน้อย 24 คนถูกตำรวจฟิลิปปินส์สังหารในสถานที่ต่างๆกัน
ทั้งนี้ ดูเตอร์เตยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนฟิลิปปินส์ที่สนับสนุนแนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างรวดเร็วของเขา และเขายังคงมีพลังทางการเมืองที่เข้มแข็ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สม รังสี' กระตุก 'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' แก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ จี้ให้นำขึ้น ICJ-ICC
สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เผยแพร่คำแถลง ของ รัฐบาลกัมพูชาอิสระ ว่าด้วยการดำเนินการทางกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย มีใจความดังนี้
'วิโรจน์' ชำแหละ MOU44 ซับซ้อนมาก แนะยื่น ICC สอบสวน 'ฮุน เซน' อาชญากรสงคราม
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง [ MOU44 เป็นข้อตกลงที่จัดทำขึ้นตามกฎหมายทะเลสากล ซึ่งมีความซับซ้อนมาก หากประชาชนยังเข้าไม่ถึงข้อมูลที่ครบถ้วน จะทำประชามติได้อย่างไร ] มีใจความดังนี้
กมธ.ความมั่นคง เชิญ 'บิ๊กเล็ก-กองทัพ' หารือใช้ศาล ICC สร้างสันติภาพระยะยาว
กมธ.มั่นคงฯ เชิญรัฐบาล-กองทัพ หารือแนวทางใช้ ICC สร้างสันติภาพระยะยาว “โรม” ชี้ชายแดนยังตึงเครียด มองยื้อกันไปมาทำปัญหาถูกแช่แข็ง ย้ำสุดท้ายทุกอย่างจบที่โต๊ะเจรจา
'หมอวรงค์' ซัด 'ภูมิธรรม' เล่นปาหี่ฟ้องแพ่ง-อาญากัมพูชา แทนที่จะฟ้อง 'อาชญากรสงคราม'
นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ภูมิธรรมเล่นปาหี่หรือไม่
กังขา 'ภูมิธรรม' เล่นละคร ท้ายื่น 'ICC' ฟ้อง 'ฮุนเซน ฮุนมาเนต' ข้อหาอาชญากรสงคราม
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เห็นทำท่าขึงขังสั่งจะฟ้องเขมร แต่ไม่รู้เอาจริงมั้ย หรือ แค่เล่นละคร
ชำแหละ 73 ปี 'ฮุน เซน' ก่อ 6 อาชญากรรมใหญ่ จึงกลัว 'ICC' เหมือน 'เนทัน ยาฮู'
ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า


