สีจิ้นผิงเดินทางเยือนกัมพูชา ปิดท้ายทริปอาเซียน

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อปิดท้ายการเยือน 3 จุดสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน (ซ้าย) และกษัตริย์นโรดม สีหมุนีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เดินผ่านกองเกียรติยศที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ เมื่อวันที่ 17 เมษายน (Photo by POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา เพื่อปิดท้ายการเยือน 3 พันธมิตรสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สีจิ้นผิงเดินทางไปยังเวียดนามและมาเลเซียมาก่อนหน้านี้ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าในภูมิภาคและชดเชยผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรมหาศาลที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำหนด

เมื่อผู้นำจีนเดินทางถึงกรุงพนมเปญ กษัตริย์นโรดม สีหมุนี ทรงเสด็จมาต้อนรับเขาด้วยพระองค์เองพร้อมพิธีทางการทหาร

สีจะไปเข้าเฝ้ากษัตริย์นโรดมอีกครั้งที่พระราชวังในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี หลังจากนั้นจะเข้าพบกับอดีตผู้นำฮุน เซน และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ตามกำหนดการอย่างเป็นทางการ

ในบทความของผู้นำจีนที่เผยแพร่โดย Fresh News ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลกัมพูชาเมื่อวันพฤหัสบดี เขากล่าวว่าจีนสนับสนุนให้กัมพูชาเลือกเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับประเทศ รวมทั้งปกป้องอธิปไตย, เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดน

เขากล่าวว่าทั้งสองประเทศควรคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อกองกำลังภายนอกที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และทำลายความสัมพันธ์กับพันธมิตร

จีนเป็นหุ้นส่วนการค้าและแหล่งลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา และหนี้ต่างประเทศของกัมพูชามูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าหนึ่งในสามมาจากผู้สนับสนุนอย่างจีน ตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

รัฐบาลพนมเปญเป็นหนึ่งในพันธมิตรเอเชียที่เชื่อถือได้มากที่สุดของจีน และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวเมื่อวันพุธว่าการเยือนของสี จิ้นผิงเป็นการแสดงมิตรภาพที่แน่นแฟ้น

ในวิดีโอที่โพสต์เมื่อวันพุธ ผู้นำกัมพูชากล่าวว่าทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกันโดยยึดหลักความเคารพในอำนาจอธิปไตย, ความเท่าเทียม และการไม่แทรกแซงกิจการภายใน

เขายังกล่าวอีกว่าจีนมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา

ในปีนี้ จีนและกัมพูชาเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 67 ปี และในวันพฤหัสบดี ราชอาณาจักรแห่งนี้ยังรำลึกครบรอบ 50 ปีนับตั้งแต่พนมเปญถูกเขมรแดงยึดครอง

เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากกัมพูชา 49% ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีนำเข้าระดับสูงมาก

จากนั้น เขาก็พักการเรียกเก็บภาษีสำหรับประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน โดยกลับไปใช้อัตราภาษีพื้นฐาน 10%

ต่อกรณีนี้ ฮุน มาเนตเคยเขียนจดหมายถึงรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อแสดงความจริงใจของกัมพูชาในการเจรจาหาทางออกร่วมกัน และให้คำมั่นว่าจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 19 ประเภท

ขณะที่จีนคือเป้าหมายโดยตรงของทรัมป์ เนื่องจากสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีสินค้าหลายรายการโดยรวมสูงถึง 145% และไม่ได้รับการพักดำเนินการ 90 วัน เหมือนประเทศอื่นๆ

รัฐบาลปักกิ่งประณามการกำหนดภาษีดังกล่าวว่าเป็น "เรื่องตลก" และเรียกเก็บภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐฯ สูงถึง 125%.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง