เรือรบญี่ปุ่นจอดเทียบท่าที่ฐานทัพเรือปรับปรุงใหม่ของกัมพูชา

เรือรบญี่ปุ่น 2 ลำเข้าเทียบท่าที่ฐานทัพเรือปรับปรุงใหม่ของกัมพูชาซึ่งสร้างความกังวลให้กับสหรัฐฯเพราะได้รับการสนับสนุนจากจีน

เรือตรวจการณ์ทุ่นระเบิด JS Bungo (ซ้าย) และเรือกวาดทุ่นระเบิดชั้นอวาจิ JS Etajima ของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น เดินทางมาถึงฐานทัพเรือเรียมซึ่งตั้งอยู่บริเวณนอกชายฝั่งทางใต้ของกัมพูชาในจังหวัดพระสีหนุ เมื่อวันที่ 19 เมษายน (Photo by Handout / Ream Naval Base / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 กล่าวว่า เรือรบญี่ปุ่น 2 ลำเดินทางมาเทียบท่าที่ฐานทัพเรือเรียมในกัมพูชา ถือเป็นเรือลำแรกที่จอดยังท่าเรือที่ได้รับการปรับปรุงใหม่แห่งนี้

ท่าเรือดังกล่าวที่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้สนับสนุนหลัก ได้สร้างความกังวลให้กับสหรัฐอเมริกามาตลอด โดยรัฐบาลวอชิงตันเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนอกชายฝั่งทางใต้ของกัมพูชาอาจทำให้จีนมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์สำคัญในอ่าวไทยใกล้กับทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งอ้างสิทธิ์เกือบทั้งหมด

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าฐานทัพแห่งนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับให้มหาอำนาจต่างชาติใช้งาน แต่ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ ในปี 2022 ระบุว่าสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ที่ฐานทัพเรือเรียมซึ่งเดิมสร้างด้วยเงินทุนบางส่วนของสหรัฐฯ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกองทัพเรือจีนเท่านั้น

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาและคณะผู้แทนจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเพิ่งทำพิธีเปิดฐานทัพแห่งนี้ร่วมกันเมื่อต้นเดือน

ฮุน มาเนตกล่าวระหว่างพิธีเปิดว่า ฐานทัพแห่งนี้ไม่มีอะไรต้องปิดบัง และปฏิเสธว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหม่และดีขึ้นนี้จะถูกใช้เฉพาะกองทัพจีนเท่านั้น โดยระบุว่าเรือจากประเทศอื่นจะได้รับอนุญาตให้จอดเทียบท่าได้เช่นกัน

กระทั่งล่าสุด สื่อมวลชนบางส่วนสามารถเข้าถึงฐานทัพดังกล่าวได้ในวันเสาร์ เมื่อเรือญี่ปุ่นชื่อ 'บุงโก' และ 'เอตาจิมะ' จากกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (JMSDF) เดินทางเข้าเทียบท่า

สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงพนมเปญระบุในแถลงการณ์ที่ส่งถึงสื่อมวลชนว่า "เรายินดีที่ได้มาเยี่ยมเยือนฐานทัพเรือเรียมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่" และเสริมว่านี่เป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์

"เราทราบดีว่ารัฐบาลกัมพูชามีความเต็มใจที่จะเปิดฐานทัพให้กับทุกประเทศ และการเยือนครั้งนี้จะเพิ่มความไว้วางใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน" สถานทูตฯระบุ

กัมพูชาเป็นพันธมิตรอาเซียนที่มั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งของจีนมาอย่างยาวนาน และรัฐบาลปักกิ่งได้ขยายอิทธิพลเหนือรัฐบาลพนมเปญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ภายใต้การนำของอดีตผู้นำฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต จีนทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สวนทางความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับพนมเปญที่เสื่อมถอยลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเช่นกัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนปิดฉากการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กัมพูชาในสัปดาห์นี้ โดยเขามุ่งหวังที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าในภูมิภาค.

เพิ่มเพื่อน