ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวหาสหรัฐและโลกตะวันตกว่า จงใจสร้างสถานการณ์เพื่อลากรัสเซียเข้าสู่สงคราม โดยไม่นำพาต่อความกังวลใจด้านความมั่นคงของรัสเซียกรณียูเครน ที่หวังจะเข้าเป็นสมาชิกนาโต

รายงานรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 กล่าวว่า ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเปิดเผยทัศนะของเขาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ เกี่ยวกับวิกฤติที่สืบเนื่องจากการวางกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายพร้อมยุทโธปกรณ์ตามแนวชายแดนยูเครน ที่ทำให้สหรัฐและนาโตกล่าวหารัสเซียว่ากำลังเตรียมการรุกรานเพื่อนบ้านที่เป็นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตแห่งนี้ แต่รัสเซียยืนกรานปฏิเสธ
ผู้นำรัสเซียไม่มีทีท่าว่าจะยอมทำตามข้อเรียกร้องของตะวันตกที่ให้เขาถอนกำลังทหารพ้นจากชายแดน โดยกล่าวว่า "เห็นได้ชัดเจนแล้วว่า ความห่วงกังวลพื้นฐานของรัสเซียถูกเพิกเฉย" ปูตินกล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกฯ วิกตอร์ ออร์บาน ของฮังการี ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกนาโตที่พยายามเป็นสะพานเชื่อมความปรองดอง
รัสเซียมีความกังวลว่านาโตจะรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และต้องการหลักประกันจากโลกตะวันตก แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ปูตินกล่าวถึงสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ หากนาโตยอมรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก แล้วพยายามจะทวงคืนคาบสมุทรไครเมีย ที่รัสเซียผนวกดินแดนเป็นของตนเมื่อปี 2557
"ลองจินตนาการดูว่า หากยูเครนเป็นสมาชิกนาโตและเริ่มปฏิบัติการทางทหารเหล่านี้ เราควรจะทำสงครามกับกลุ่มนาโตหรือไม่? มีใครคิดถึงเรื่องนี้บ้างไหม? ชัดเจนว่าไม่มี" ปูตินกล่าว
เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียต้องการให้ตะวันตกเคารพข้อตกลงปี 2562 ที่ว่า ไม่มีประเทศใดสามารถเสริมสร้างความมั่นคงของตนเองโดยแลกกับความมั่นคงของประเทศอื่น ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของวิกฤติครั้งนี้
ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ลัฟรอฟได้กล่าวถึงกฎบัตรที่ลงนามไว้กับสมาชิกองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งสหรัฐและแคนาดาร่วมลงนามด้วย โดยเขาบอกว่า บลิงเคนยอมรับถึงความจำเป็นในการหารือประเด็นนี้เพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ข่าวจากทางสหรัฐกลับระบุว่า สหรัฐเน้นถึงความจำเป็นที่รัสเซียต้องถอนทหารออกจากชายแดนยูเครน "ท่านรัฐมนตรีได้แจ้งต่อรัฐมนตรีต่างประเทศลัฟรอฟไปว่า หากประธานาธิบดีปูตินไม่มีเจตนาทำสงครามหรือเปลี่ยนแปลงระบอบจริงๆ ขณะนี้ก็ถึงเวลาที่จะถอนทหารและอาวุธหนัก แล้วเข้าร่วมในการหารืออย่างจริงจัง" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปูตินพบกับวิตคอฟฟ์และคุชเนอร์ในมอสโก ผู้นำเครมลินขู่ยุโรป
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้การต้อนรับ สตีฟ วิตคอฟฟ์-ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ที่กรุงมอสโกเมื่อเย็นวันอังคาร ภาพที่ออกอากาศทางทีวีของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า จาเร็ด คุชเนอร์-ลูกเขยและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าร่วมการประชุมที่เครมลินด้วย
เซเลนสกีและแอร์โดอัน พยายามจะรื้อฟื้นการเจรจา
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรเกีย ประชุมหารือกันเมื่อวันพุธ เพื่อพยายามรื้อฟื้นการเจรจาหยุดยิงในสงครามยูเครน
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
ไม่พลาด ‘สว.นันทนา’ ฟาดนายกฯฝึกงานสื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ!
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “นายกฝึกงาน” สื่อสารจนพังไปทั้งประเทศ
โบว์ เตือนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ต้องใช้เหตุผลรอบคอบทุกมิติ ไม่ใช่ตามกระแสอารมณ์
โบว์ ชี้การคิดเอาเองว่าประธานาธิบดีสหรัฐเข้าข้างกัมพูชา ประธานอาเซียนก็เข้าข้างกัมพูชา เป็นความคิดแบบมโนไปเอง
ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ
ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา


