คณะพระคาร์ดินัลจะประชุมลับเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่ วันที่ 7 พฤษภาคม

พระคาร์ดินัลนิกายโรมันคาทอลิกได้ข้อสรุปว่าจะเริ่มประชุมลับเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่ในวันที่ 7 พฤษภาคม และเน้นย้ำว่าการล่วงละเมิดทางเพศของนักบวชเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญที่ผู้สืบทอดตำแหน่งจากพระสันตะปาปาฟรานซิสต้องเผชิญ

คณะพระคาร์ดินัลกำลังประชุมคริสตจักรครั้งที่ 5 ในนครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 28 เมษายน (Photo by Mario Tomassetti / VATICAN MEDIA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 29 เมษายน 2568 กล่าวว่า คณะพระคาร์ดินัลได้ข้อสรุปว่าจะเข้าร่วมการประชุมแบบปิดลับเป็นการภายในหรือคอนเคลฟที่โบสถ์น้อยซิสทีนในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้

พระคาร์ดินัลที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปีจะมารวมตัวกันเพื่อเลือกผู้นำคนใหม่สำหรับชาวคาทอลิก 1,400 ล้านคนทั่วโลก ในพิธีกรรมลับที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคกลาง

วันที่กำหนดดังกล่าวได้รับการเห็นชอบในการประชุมของพระคาร์ดินัลทุกวัยในช่วงเช้าของวันจันทร์ หรือสองวันหลังจากพิธีปลงพระศพของพระสันตะปาปาฟรานซิสซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา

คณะพระคาร์ดินัลซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "เจ้าชายแห่งคริสตจักร"ได้กล่าวถึงความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของนิกายโรมันคาทอลิก ในด้านการเผยแผ่ศาสนา, ความสัมพันธ์กับศาสนาอื่น และปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ

สำนักวาติกันระบุว่า "มีการพูดถึงคุณสมบัติที่พระสันตะปาปาองค์ใหม่ต้องมีเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

พระคาร์ดินัล 252 องค์ของคริสตจักรถูกเรียกมายังกรุงโรมหลังการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาแห่งอาร์เจนตินา แม้ว่าจะมีเพียง 135 องค์เท่านั้นที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงในคอนเคลฟก็ตาม

พวกเขาต่างมาจากทุกมุมโลก และหลายคนไม่รู้จักกัน แต่พวกเขาได้ประชุมกันไปแล้วสี่ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเรียกว่า "การประชุมใหญ่" ที่ทำให้พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น

สำนักวาติกันได้ทำการปิดโบสถ์น้อยซิสทีนแล้ว เพื่อเตรียมการสำหรับพิธีลงคะแนนเสียงที่จะเกิดขึ้นภายใต้จิตรกรรมฝาผนังบนเพดานของไมเคิลแองเจโลในศตวรรษที่ 16

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเบาะแสมากนักว่าคณะพระคาร์ดินัลจะเทคะแนนให้ผู้ใด

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พิธีปลงพระศพของพระสันตะปาปาฟรานซิสมีผู้มาเข้าร่วมกว่า 400,000 คน โดยมีทั้งราชวงศ์, ผู้นำโลก และผู้แสวงบุญทั่วไป

หนึ่งวันถัดมา ผู้มาร่วมแสดงความอาลัยประมาณ 70,000 คนได้เดินแถวผ่านหลุมฝังพระศพหินอ่อนของพระองค์ในมหาวิหารซานตามาเรียมัจโจเรในกรุงโรม หลังจากที่พระสันตะปาปาแห่งคนยากไร้เลือกที่จะฝังพระบรมศพนอกกำแพงนครวาติกัน

ด้วยความขัดแย้งและวิกฤตทางการทูตที่ปะทุขึ้นทั่วโลก พระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน แห่งอิตาลีจึงถือเป็นตัวเต็งที่จะสืบตำแหน่งต่อจากพระสันตะปาปาฟรานซิส

ปาโรลินดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในสมัยของพระสันตะปาปาฟรานซิส, เป็นเลขาธิการแห่งรัฐวาติกัน และถือเป็นพระสันตะปาปาหมายเลขสองก็ว่าได้

มีการคาดการณ์ว่าปาโรลินมีภาษีดีกว่าหลุยส์ อันโตนิโอ ตาเกล อาร์ชบิชอปกิตติมศักดิ์ แห่งกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ตามมาด้วยพระคาร์ดินัลปีเตอร์ เทิร์กสัน แห่งกานา

ถัดมาคือแมตเตโอ ซุปปิ อาร์ชบิชอป แห่งโบโลญญา, พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ซาราห์ แห่งกินี และปิแอร์บัตติสตา พิซซาบัลลา อัครบิดรแห่งเยรูซาเลม

ผู้สืบทอดตำแหน่งจากพระสันตะปาปาฟรานซิสจะสืบทอดมาตรการต่างๆ ที่พระองค์นำมาใช้เพื่อปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศของนักบวช

แต่สมาคมเหยื่อกล่าวว่าพระองค์ยังทรงทำไม่เพียงพอ และเรื่องอื้อฉาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย

แอนน์ บาร์เร็ตต์ ดอยล์ จากเว็บไซต์ BishopAccountability.org กล่าวกับเอเอฟพีว่า การยุติวิกฤตการล่วงละเมิดต้องเป็นเรื่องเร่งด่วน

"คริสตจักรทั่วโลกดูแลเด็กๆ หลายสิบล้านคนผ่านเขตแพริช, โรงเรียน, โรงพยาบาล และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดังนั้นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระสันตะปาปาองค์ต่อไปคือการปกป้องพวกเขาเหล่านั้น" เธอกล่าว

ความท้าทายนี้มีความสำคัญ เพราะในหลายประเทศของทวีปแอฟริกาและเอเชีย หัวข้อนี้ยังคงเป็นเรื่องต้องห้าม

แม้แต่ในยุโรป อิตาลีก็ยังไม่ได้เริ่มการสอบสวนข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดอย่างเป็นอิสระ

แม้ว่าความพยายามของสันตะปาปาฟรานซิสในการสร้างคริสตจักรที่มีความเมตตากรุณามากขึ้นจะทำให้พระองค์ได้รับความรักและความเคารพอย่างกว้างขวาง แต่การปฏิรูปบางอย่างของพระองค์ทำให้กลุ่มอนุรักษนิยมของคริสตจักรไม่พอใจ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแอฟริกา

โรแบร์โต เรโกลี ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมคริสตจักรที่มหาวิทยาลัยปอนติฟิคัลเกรโกเรียนในกรุงโรม กล่าวกับเอเอฟพีว่า พระคาร์ดินัลกำลังมองหา "ผู้ที่รู้วิธีสร้างความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ขึ้น"

เขากล่าวว่า "เราอยู่ในช่วงที่นิกายโรมันคาทอลิกกำลังประสบกับความแตกแยกในหลากหลายรูปแบบ ดังนั้น ผมไม่คิดว่าการประชุมลับจะจบในระยะเวลาอันสั้น"

แม้ประมาณ 80% ของพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้รับการแต่งตั้งโดยสันตะปาปาฟรานซิส แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าพวกเขาจะเลือกผู้สืบทอดแบบพระองค์

พระคาร์ดินัลส่วนใหญ่ยังค่อนข้างอายุน้อย และสำหรับหลายๆ คน นี่เป็นการประชุมลับครั้งแรกของพวกเขา

การลงคะแนนเสียงครั้งนี้เป็นความลับอย่างยิ่งและจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และขั้นตอนพิธีการที่เคร่งครัด และกระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายวันหรืออาจจะนานกว่านั้น

จะมีการลงคะแนนเสียงวันละ 4 ครั้ง แบ่งเป็นช่วงเช้า 2 ครั้งและช่วงบ่าย 2 ครั้ง จนกว่าจะมีผู้ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3.