อินโดนีเซียยกย่องยุคใหม่กับสหรัฐฯ หลังบรรลุข้อตกลงการค้ากับทรัมป์

ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวชื่นชมยุคใหม่ของความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าให้ จาก 32% เหลือ 19%

ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย (Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซียยกย่องความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการค้าและภาษีศุลกากรกับโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมนำพาความสัมพันธ์ของสองชาติเข้าสู่ยุคใหม่

รัฐบาลทรัมป์อยู่ภายใต้แรงกดดันให้สรุปข้อตกลงการค้ากับหลายประเทศที่พยายามเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ไว้เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนสิงหาคม

"ผมได้สนทนากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างชื่นมื่น เราได้ตกลงร่วมกันและสรุปว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอินโดนีเซียและสหรัฐอเมริกาสู่ยุคใหม่แห่งผลประโยชน์ร่วมกัน" ปราโบโว ซูเบียนโต เขียนในโพสต์อินสตาแกรม

อดีตนายพลผู้นิยมลัทธิประชานิยมรายนี้ยังได้โพสต์ภาพตัวเองกำลังหัวเราะทางโทรศัพท์กับทรัมป์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับข้อตกลงนี้

ฮัสซัน นาสบี โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซียยืนยันอัตราภาษีนำเข้าใหม่ 19% ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาโดยตรงระหว่างผู้นำอินโดนีเซียและทรัมป์

"นี่เป็นการเจรจาพิเศษที่ประธานาธิบดีของเราดำเนินการโดยตรงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" นาสบีกล่าว พร้อมเสริมว่าข้อตกลงนี้เป็นความก้าวหน้าที่ไม่อาจเรียกได้ว่าเล็กน้อย

นาสบีกล่าวว่า ปราโบโวมีกำหนดเดินทางกลับอินโดนีเซียในบ่ายวันพุธหลังสิ้นสุดภารกิจเยือนยุโรป และจะออกแถลงการณ์หลังจากนั้น

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขาได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวเพื่อแลกกับคำมั่นสัญญาการจัดซื้อที่สำคัญจากรัฐบาลจาการ์ตาหลังการเจรจา ซึ่งรวมถึงคำมั่นสัญญาที่จะซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 50 ลำ

เพื่อแลกกับการลดภาษีศุลกากร อินโดนีเซียได้ให้คำมั่นที่จะใช้จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มการนำเข้าพลังงาน, เกษตรกรรม และสินค้าจากสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์และปราโบโวพัฒนาความสัมพันธ์อันดีนับตั้งแต่ผู้นำสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกเมื่อปลายปี 2016

รัฐบาลชุดแรกของเขาได้ยกเลิกการห้ามออกวีซ่าสหรัฐฯ โดยพฤตินัยสำหรับปราโบโวที่เผชิญข้อกล่าวหาอาชญากรรมซึ่งเกิดขึ้นในสมัยอดีตผู้นำเผด็จการซูฮาร์โต และยังเชิญปราโบโวไปวอชิงตันในปี 2020 ขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย

ปราโบโวได้ส่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจระดับสูงของเขาไปวอชิงตัน และรัฐบาลของเขาได้รับข้อตกลงที่ดีกว่า 20% ซึ่งทรัมป์มอบให้กับเวียดนาม อีกหนึ่งชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อย่างไรก็ตาม ทั้งอินโดนีเซียและเวียดนามเป็นตลาดสำคัญสำหรับการขนถ่ายสินค้าจีน ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าข้อตกลงกับอินโดนีเซียจะรวมถึงบทลงโทษสำหรับสินค้าที่ผ่านแดนจากจีนเพื่อสวมสิทธิ์ส่งออกจากอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ การขู่ขึ้นภาษีครั้งแรกในเดือนเมษายนของทรัมป์อาจกำลังช่วยเหลือรัฐบาลจาการ์ตาให้ทบทวนการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสินค้ากับอินโดนีเซียอยู่ที่ 17,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อนหน้า

แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าข้อตกลงนี้ดูเหมือนจะเป็นไปเพียงฝ่ายเดียว

"ภาษีนำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซียไปยังสหรัฐฯ ที่ 19% ในขณะที่สหรัฐฯ ส่งออกมายังอินโดนีเซียที่อัตรา 0% ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อดุลการค้าของอินโดนีเซีย" ภีมะ ยุธิษฐิระ อาธิเนการา ผู้อำนวยการบริหารศูนย์การศึกษาเศรษฐกิจและกฎหมายกล่าว

"รัฐบาลไม่ควรพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มากเกินไป เพราะผลของการเจรจาภาษียังคงเป็นอันตรายต่อสถานะของอินโดนีเซียอยู่ดี" เขากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SCB EIC ชี้ปี69อุตฯอาหารทะเลไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งภาษีทรัมป์-แข่งขันรุนแรง

SCB EIC มองอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยในปี 2569 มีแนวโน้มเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านลบสูงขึ้น ทั้งจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ภาษีทรัมป์ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น