ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่ถล่มอัฟกานิสถานตะวันออกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นมากกว่า 2,200 รายแล้ว ทำให้เป็นแผ่นดินไหวที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ

ชายชาวอัฟกานิสถานนั่งอยู่ท่ามกลางซากบ้านที่พังเสียหาย หลังเกิดแผ่นดินไหวที่เขตดาราอีนูร์ จังหวัดนันการ์ฮาร์ เมื่อวันที่ 3 กันยายน (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูดบริเวณพื้นที่ภูเขาที่ติดกับปากีสถานเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ มียอดสะสมแล้วที่ 2,205 ราย และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 3,700 คน
การเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดถูกขัดขวางด้วยถนนที่ชำรุดอยู่แล้ว รวมทั้งเหตุดินถล่มที่ยังคงดำเนินต่อไปจากผลกระทบของอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง
เมื่อคืนวันพฤหัสบดี เกิดแผ่นดินไหวระดับตื้นขนาด 5.6 แมกนิจูดบริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งแรก ใกล้เมืองจาลาลาบัดในจังหวัดนันการ์ฮาร์ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือนไปไกลถึงกรุงคาบูลและกรุงอิสลามาบัดของปากีสถาน
นี่เป็นอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงครั้งที่ 7 ที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ บันทึกได้ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับผู้รอดชีวิต
"อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัฟกานิสถานตะวันออกสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็กๆ ที่สูญเสียครอบครัวและบ้านเรือนในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศในรอบเกือบ 30 ปี" องค์กรพัฒนาเอกชน Save the Children กล่าว
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 700 ราย ตามรายงานของทางการตอลิบัน และตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในซากปรักหักพัง
ฮัมดุลเลาะห์ ฟิฏรัต รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า "มีหลายร้อยศพถูกกู้ขึ้นมาจากบ้านเรือนที่ถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยที่ยังคงดำเนินต่อไป"
แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำลายบ้านเรือนกว่า 6,700 หลังในจังหวัดคูนาร์เพียงแห่งเดียว ซึ่งทำให้ผู้รอดชีวิตต้องอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้แทนและปัจจุบันแทบไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ
"เราต้องการเต็นท์, น้ำ, อาหาร และยาอย่างเร่งด่วน" ซาฮีร์ ข่าน ซาฟี วัย 48 ปี ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีจากทุ่งข้าวโพดที่ครอบครัวของเขาและคนอื่นๆ อีกหลายร้อยคนกำลังเบียดเสียดกันอยู่ใต้ผืนผ้าใบเล็กๆ และไม่แน่ใจว่าจะหาอาหารกินได้จากที่ไหน
หลายประเทศได้ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยจีนได้ให้คำมั่นว่าจะให้งบช่วยเหลือฉุกเฉินประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเต็นท์, ผ้าห่ม และอาหาร
แต่โครงสร้างพื้นฐานที่ย่ำแย่ในประเทศยากจนแห่งนี้ซึ่งยังคงเปราะบางจากสงครามที่ดำเนินมายาวนานกว่าสี่ทศวรรษ ได้เป็นอุปสรรคต่อการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน
"วิธีเดียวที่จะส่งความช่วยเหลือไปยังหมู่บ้านที่ยังคงถูกตัดขาดจากดินถล่มได้คือการขนส่งทางถนนเท่านั้น ซึ่งการเดินทางมักใช้เวลาหลายชั่วโมงในการฝ่าดงหินถล่มไปตามเส้นทางดินแคบๆ ที่ตัดเข้าไปในไหล่เขา" องค์กร Save the Children กล่าว
ขณะที่องค์การอนามัยโลกเตือนว่าบริการด้านสาธารณสุขในท้องถิ่นกำลังเผชิญกับความตึงเครียดอย่างมหาศาล เนื่องจากขาดแคลนเวชภัณฑ์, ยา และบุคลากรทางการแพทย์
หน่วยงานได้ร้องขอเงินทุน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือด้านสุขภาพ, การช่วยชีวิต, การขยายบริการสุขภาพเคลื่อนที่ และการกระจายสิ่งของช่วยเหลือ
การหยุดช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่ออัฟกานิสถานตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ ได้สร้างความตึงเครียดให้กับองค์กรบรรเทาทุกข์ซึ่งกำลังเผชิญกับเงินทุนที่ลดลงอยู่แล้ว แม้ว่าประเทศนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ตาม
ฟิลิปโป กรันดี ผู้อำนวยการสำนักงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า แผ่นดินไหวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 500,000 คนในอัฟกานิสถานตะวันออก
หลังจากความขัดแย้งมานานหลายทศวรรษ ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับปัญหาความยากจนเรื้อรัง, ภัยแล้งรุนแรง และการอพยพของชาวอัฟกานิสถานหลายล้านคนที่ถูกปากีสถานและอิหร่านซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านผลักดันให้กลับประเทศ นับตั้งแต่กลุ่มตอลิบันเข้ายึดครองประเทศในปี 2021.


