พายุลูกใหม่ถล่มฟิลิปปินส์ อพยพประชาชน 400,000 คน เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

ฟิลิปปินส์อพยพประชาชนหลายแสนคนและยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย หลังพายุโซนร้อนรุนแรงพัดถล่มประเทศ ขณะที่ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นรากาซายังคงมีอยู่

ผู้คนกำลังดูความเสียหายที่เกิดจากพายุโซนร้อน "บัวลอย" ต่อโบสถ์ Immaculate Concepcion ในเมืองบาตวน จังหวัดมัสบาเต ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน (Photo by Handout / various sources / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568 กล่าวว่า ฟิลิปปินส์เผชิญพายุโซนร้อนรุนแรงลูกใหม่ที่พัดถล่ม ทำให้ต้องเร่งอพยพประชาชนหลายแสนคน

เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนในเขตบีโคล ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย เนื่องจากกำแพงพังทลายและต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนเพราะพายุโซนร้อน "บัวลอย (Bualoi)" ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วคงที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ผู้อพยพในจังหวัดหนึ่งซ่อนตัวใต้ม้านั่งในโบสถ์ที่พวกเขาหลบภัยจากการถูกพายุพัดจนหลังคาโบสถ์ฉีกขาด

"ประมาณ 04.00 น ลมพัดทำลายประตู, หน้าต่าง และเพดานโบสถ์" เจอโรม มาร์ติเนซ วิศวกรเทศบาลในจังหวัดมัสบาเต ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน กล่าวกับเอเอฟพี

"นั่นเป็นหนึ่งในลมแรงที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา" เขากล่าว พร้อมเสริมว่าเด็กๆ บางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจนต้องเย็บแผล

"ผมคิดว่าประชาชนจะต้องอพยพออกไปอีกมาก เพราะบ้านเรือนหลายหลังถูกทำลายและหลังคาบ้านหลายหลังปลิวหายไป ตอนนี้ถนนและทางเท้าถูกปิดกั้น" เขากล่าว

เบอร์นาร์โด อเลฮันโดร เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ประชาชนราว 400,000 คนได้รับการอพยพแล้ว

"เรากำลังเคลียร์ต้นไม้ใหญ่หลายต้นและเสาไฟฟ้าทึ่ล้มระเนระนาด เนื่องจากถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรได้" เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองมัสบาเต เขตบิโคล ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีทางโทรศัพท์

วิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียและได้รับการยืนยันจากเอเอฟพี แสดงให้เห็นผู้คนใช้เรือหรือลุยน้ำท่วมถึงเอวเพื่อนำทางไปตามถนนที่ถูกน้ำท่วมทางตอนใต้ของหมู่เกาะวิซายัส ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์

เจ้าหน้าที่เตือนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต โดยอาจสูงถึง 3 เมตร ท่ามกลางพายุลูกใหม่ที่กำลังจะมา"

ปัจจุบันประชาชนหลายพันคนยังคงต้องอพยพออกจากพื้นที่หลังเหตุพายุไต้ฝุ่นรากาซาพัดผ่านตอนเหนือสุดของประเทศและคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 9 รายเมื่อต้นสัปดาห์

พายุเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่อเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอมๆ ที่เชื่อว่าทำให้ประชาชนเสียเงินภาษีหลายพันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ทำให้ประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องตกอยู่ในภาวะยากจนอย่างต่อเนื่อง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงาน-จิตอาสา บริการตัดผมฟรีให้แก่ผู้อพยพชายแดน

ส่วนราชการ อาสาสมัครภาคประชาชน และจิตอาสา ให้บริการตัดผมชาย-หญิงฟรี แก่ประชาชนผู้อพยพหนีภัยสู้รบ และเจ้าหน้าที่ ยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ เพื่อสร้างรอยยิ้ม ความประทับใจ และผ่อนคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ชรบ.ชายแดน ทำหน้าที่แข็งขัน ให้อาหารสัตว์เลี้ยง รดน้ำต้นไม้ของชาวบ้านอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ ชรบ. พร้อมผู้นำชุมชนในหมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ นอกจากจะทำหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนผู้อพยพแล้ว ยังคงต้องหมั่นคอยไปเอาอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงด้วย

ตร.-ชรบ. จับสองผัวเมียตระเวนขโมยยางพาราในพื้นที่เสี่ยงภัย ซ้ำเติมผู้อพยพชายแดน

ตำรวจ สภ.หนองไม้งาม สนธิกำลัง ชรบ.อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สกัดจับสองผัวเมียตระเวนขโมยยางพาราพื้นที่เสี่ยงภัยสู้รบซ้ำเติมผู้อพยพ กรรมติดจรวดยางแตกหนีต่อไม่ได้โดนรวบพร้อมของกลาง สารภาพขโมยไปขายซื้อยาบ้าเสพ

ชรบ.ฝ่าเสียงระเบิด ทำหน้าที่เข้มแข็งในแนวหลัง ดูแลทรัพย์สิน-สัตว์เลี้ยงชาวบ้าน

ชรบ.ชายแดนบ้านกรวด ดูแลบ้าน ให้อาหารสัตว์เลี้ยงแทนชาวบ้าน ที่อพยพหนี ท่ามกลางเสียงปืนดังต่อเนื่อง

'วิโรจน์' ชี้กองทัพไทยตอบโต้เขมรได้สัดส่วน อพยพประชาชนทำได้ดี

"วิโรจน์" ชมทหาร-ฝ่ายปกครอง อพยพประชาชนทำได้ดีระดับหนึ่ง กองทัพการข่าวแม่นยำ ตอบโต้ได้สัดส่วน ทำลายแสนยานุภาพ เขมร ชี้ ต้องบี้แจงนานาชาติ แนะขุดภาพถ่ายทางอากาศ เอาหลักฐานทุกอย่างโชว์ให้เห็น ทำไม ไทย ต้องบึ้มตึกสแกมเมอร์ เชื่อ เป็นเหตุผลรับฟังได้

อ.เฉลิมพระเกียรติ ยังต้องอพยพประชาชนแม้อยู่ห่างชายแดน เหตุปะทะไทย-กัมพูชารุนแรงขึ้น

การปะทะรุนแรงต่อเนื่อง นายอำเภอสั่งอพยพเพิ่ม หวั่นประชาชนไม่ปลอดภัย เผยศูนย์อพยพยังขาดแคลนอาหาร แพมเพิสเด็ก นม ขณะชาวบ้านผู้อพยพต่างสาปแช่งเขมรขอให้ฉิบหาย ไม่คิดถึงในหลวง ร.9 ที่เคยช่วยเหลือมาโดยตลอดตอนที่เขมรลำบาก