แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 เขย่าภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร ส่งผลให้อาคารพังถล่มและคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 19 รายบนเกาะเซบู ท่ามกลางความกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานตลอดทั้งคืน

พนักงานบริษัทรวมตัวกันหน้าอาคารสำนักงาน หลังเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะเซบู ทางตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 30 กันยายน (Photo by Alan TANGCAWAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 1 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 แมกนิจูดนอกชายฝั่งตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร ส่งผลให้ถนนและอาคารพังเสียหาย รวมถึงไฟฟ้าดับในบางพื้นที่
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวระดับตื้นเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะเซบู ใกล้กับเมืองโบโกที่มีประชากร 90,000 คน และใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 14 รายในเขตเมืองเซบูและโบโก ขณะที่ตำรวจท้องถิ่นในเขตเทศบาลซานเรมิจิโอที่อยู่ใกล้เคียงยืนยันพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย
รัฐบาลจังหวัดเซบูได้โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการเพื่อขอความช่วยเหลือด้านการแพทย์หลังเกิดแผ่นดินไหว
"อาจมีคนติดอยู่ใต้อาคารที่พังถล่ม" วิลสัน รามอส เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำจังหวัดกล่าวกับเอเอฟพี โดยอ้างถึงความพยายามกู้ภัยที่กำลังดำเนินการอยู่ในซานเรมิจิโอและโบโก ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีผู้สูญหายกี่คน
ความพยายามในการฟื้นฟูถูกขัดขวางด้วยความมืดมิดและอาฟเตอร์ช็อกซึ่ง USGS บันทึกขนาดไว้ได้ 5.0 แมกนิจูดหรือสูงกว่า ในพื้นที่นี้แล้ว 4 ครั้งหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก
ถนนในหมู่บ้านหลายแห่งได้รับความเสียหายเช่นกัน
บริษัทเนชั่นแนลกริดคอร์ปของฟิลิปปินส์ระบุในประกาศเตือนภัยว่า แผ่นดินไหวทำให้สายไฟฟ้าเสียหาย ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั่วเซบูและเกาะใกล้เคียง และเสริมว่าบริษัทกำลังประเมินความเสียหายอยู่
รัฐบาลจังหวัดเซบูรายงานว่าอาคารพาณิชย์และโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านบันตายันพังถล่ม ขณะที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่งในย่านโบโกได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ในข้อความวิดีโอสดบนบัญชีเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ พาเมลา บาริกัวโตร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯได้เรียกร้องให้ประชาชนตั้งสติและเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่โล่ง, หลีกเลี่ยงกำแพงหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจพังถล่ม และเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก
เธอกล่าวว่ารัฐบาลจังหวัดกำลังประเมินสถานการณ์และติดต่อเจ้าหน้าที่เทศบาล
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯรายงานในตอนแรกว่าแผ่นดินไหวมีขนาด 7.0 ก่อนปรับลดขนาดลงในเวลาต่อมา ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกระบุว่าไม่มีภัยคุกคามจากสึนามิ
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเกือบทุกวันในฟิลิปปินส์ซึ่งตั้งอยู่บน "วงแหวนแห่งไฟ" อันเป็นแนวแผ่นดินไหวรุนแรงที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และข้ามแอ่งแปซิฟิก.

