ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงในภาคกลางของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 72 ราย ขณะที่การค้นหาผู้สูญหายสิ้นสุดลง และหน่วยกู้ภัยได้มุ่งความสนใจไปที่ผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนและผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายพันคน

ผู้คนเดินผ่านซากปรักหักพังในเมืองโบโก จังหวัดเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม หลังเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 นอกชายฝั่งตอนกลางของฟิลิปปินส์ในช่วงปลายเดือนกันยายน (Photo by Ted ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า สถานการณ์ของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในภาคกลางของฟิลิปปินส์เริ่มเข้าสู่ภาวะคลี่คลาย โดยหน่วยกู้ภัยยุติการค้นหาผู้สูญหายและได้มุ่งความสนใจไปที่ผู้บาดเจ็บหลายร้อยรายและผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายพันคน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 72 รายในวันพฤหัสบดี โดยศพล่าสุด 3 รายถูกดึงออกมาจากซากปรักหักพังของโรงแรมที่พังถล่มในเมืองโบโกใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 6.9 แมกนิจูดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร
"เราไม่พบผู้สูญหายเพิ่มเติม ดังนั้นคาดว่าทุกคนจะปลอดภัย" จูนี กัสติโย โฆษกสภาลดความเสี่ยงและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติกล่าว พร้อมเสริมว่าหน่วยกู้ภัยบางหน่วยในจังหวัดเซบูได้รับคำสั่งให้ยุติภารกิจ
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสเดินทางไปยังโบโกพร้อมกับผู้ช่วย และให้คำมั่นว่าจะสร้างที่พักพิงชั่วคราวขึ้นเพื่อรองรับผู้ประสบภัยกว่า 600 คน
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประสบภัยอีกหลายพันคนที่บ้านเรือนยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อกที่ยังคงแผ่ขยายไปทั่วภูมิภาค
รัฐบาลมะนิลาระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 294 คน และประมาณ 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในพื้นที่ทางตอนเหนือของเซบู ขณะที่หลายคนต้องนอนอยู่บนท้องถนน
ประชาชนกว่า 110,000 คนใน 42 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวต้องการความช่วยเหลือในการสร้างบ้านและฟื้นฟูวิถีชีวิตของพวกเขา ตามรายงานของสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนประจำภูมิภาค โดยหลายพื้นที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และผู้ป่วยหลายสิบคนต้องหลบภัยอยู่ในเต็นท์นอกโรงพยาบาลประจำจังหวัดเซบูที่ได้รับความเสียหาย
มาร์กอสกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผลกระทบหลักของแผ่นดินไหวคือโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับสภาพของศูนย์อพยพ ซึ่งหมายความว่ายังไม่มีที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวพลัดถิ่น
"เราตัดสินใจจัดหาเต็นท์ขนาดยักษ์ เราจะสร้างเมืองเต็นท์ที่สามารถกางได้อย่างรวดเร็วและจะปกป้องผู้คนจากฝน" เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมให้คำมั่นว่าจะจัดหาอาหาร, น้ำ และไฟฟ้าให้อย่างเพียงพอ
เขายังให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูไฟฟ้าให้กับเมืองโบโก ซึ่งมีประชากร 90,000 คน ภายในสิ้นวันนี้ และจะมอบเหรียญที่ระลึกมูลค่า 10,000 เปโซ (172 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับแต่ละครอบครัวที่สูญเสียบ้าน
มาร์กอสยังได้เยี่ยมชมโครงการบ้านพักอาศัยที่ได้รับความเสียหายบางส่วนในเมืองโบโก ที่สร้างขึ้นสำหรับผู้รอดชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในปี 2013 ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของฟิลิปปินส์.


