กลุ่มตอลิบันปากีสถานอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีที่นองเลือดในหลายเขตทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเสียชีวิต 20 ราย และพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและผู้ไว้อาลัยยืนเคียงข้างโลงศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกสังหาร ในพิธีศพที่เมืองเดราอิสมาอิลข่าน ในแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โรงเรียนฝึกตำรวจแห่งหนึ่งในปากีสถาน (Photo by MOHAMMAD KASHIF / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า ความรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นในหลายเขตทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเสียชีวิต 20 ราย และพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย
ล่าสุด กลุ่มตอลิบันปากีสถานอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีที่นองเลือดดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการวางระเบิดฆ่าตัวตายที่โรงเรียนฝึกอบรมตำรวจในหลายเขตของแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา ซึ่งอยู่ติดกับอัฟกานิสถาน
สถานการณ์ความรุนแรงในภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่การถอนทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานในปี 2021 และการกลับมาของรัฐบาลตอลิบันในกรุงคาบูล
มีเจ้าหน้าที่กึ่งทหารเสียชีวิต 11 นายในเขตชายแดน ขณะที่ตำรวจ 7 นายเสียชีวิตหลังจากมือระเบิดฆ่าตัวตายขับรถบรรทุกวัตถุระเบิดพุ่งชนประตูโรงเรียนฝึกตำรวจในเขตเดราอิสมาอิลข่าน ซึ่งต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ยิงปะทะขึ้น
"เจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 นายเสียชีวิต และ 13 นายได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้ ขณะที่ผู้ก่อการร้าย 6 รายเสียชีวิตเช่นกัน" มูฮัมหมัด ฮุสเซน ตำรวจอาวุโสประจำท้องถิ่น กล่าวกับเอเอฟพี
ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 5 รายรวมถึงพลเรือน 3 รายในการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธและกองกำลังกึ่งทหารในเขตบาจาอูร์
กลุ่มตอลิบันปากีสถาน หรือเตห์รีก-อี-ตอลิบัน (TTP) อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวผ่านข้อความบนโซเชียลมีเดีย แม้กลุ่มนี้แยกตัวจากกลุ่มตอลิบันอัฟกานิสถานแต่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด
การโจมตีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลตอลิบันของอัฟกานิสถานกล่าวหาว่าปากีสถานละเมิดดินแดนอธิปไตยของพวกเขา หนึ่งวันหลังจากที่ได้ยินเสียงระเบิดสองครั้งในเมืองหลวง
ปากีสถานไม่ได้ระบุว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในกรุงคาบูลหรือไม่ แต่ระบุว่ามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองจากกลุ่มติดอาวุธที่เพิ่มจำนวนขึ้นตามแนวชายแดน
สำนักนายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าวในแถลงการณ์ระบุว่า "นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีเมื่อวันศุกร์ และการกระทำอันขี้ขลาดของผู้ก่อการร้ายไม่สามารถสั่นคลอนความมุ่งมั่นของประเทศในการต่อต้านการก่อการร้ายได้ และเรามุ่งมั่นที่จะกำจัดการก่อการร้ายให้หมดสิ้นไป"
รัฐบาลอิสลามาบัดกล่าวหาอัฟกานิสถานว่าล้มเหลวในการขับไล่กลุ่มติดอาวุธที่ใช้ดินแดนอัฟกานิสถานเพื่อโจมตีปากีสถาน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ทางการในกรุงคาบูลปฏิเสธ
กลุ่ม TTP และกลุ่มพันธมิตรอยู่เบื้องหลังความรุนแรงส่วนใหญ่ ซึ่งมักมุ่งเป้าไปที่กองกำลังรักษาความปลอดภัย
รวมถึงการโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีทหารปากีสถานอย่างน้อย 32 นายและพลเรือน 3 รายเสียชีวิตในสัปดาห์นี้เพียงสัปดาห์เดียวในพื้นที่ชายแดน ขณะที่กลุ่มติดอาวุธหลายสิบรายก็ถูกสังหารเช่นกัน
โฆษกกองทัพกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีมากกว่า 500 ราย รวมถึงทหาร 311 นายและตำรวจ 73 นาย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึง 15 กันยายน
เมื่อต้นปีนี้ รายงานของสหประชาชาติระบุว่า กลุ่ม TTP ได้รับการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และการปฏิบัติการอย่างมากจากหน่วยงานโดยพฤตินัย ซึ่งหมายถึงรัฐบาลตอลิบันในกรุงคาบูล
รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถานกล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ความพยายามหลายครั้งในการโน้มน้าวให้ตอลิบันอัฟกานิสถานหยุดสนับสนุนกลุ่ม TTP นั้นล้มเหลว
เขายังเตือนว่าการตอบสนองใดๆ ก็ตามอาจก่อให้เกิดความเสียหายตามมา และทุกคนจะต้องรับผลที่ตามมา รวมถึงผู้ที่จัดหาที่หลบซ่อนด้วย พร้อมเสริมว่า ความอดทนของรัฐบาลปากีสถานและกองทัพหมดลงแล้ว.


