โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวยกย่องวันอันยิ่งใหญ่สำหรับตะวันออกกลาง ขณะที่เขาและบรรดาผู้นำในภูมิภาคได้ลงนามในปฏิญญาซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันการหยุดยิงในฉนวนกาซา หลังจากที่อิสราเอลและฮามาสแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โชว์เอกสารที่ลงนามแล้วระหว่างการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับฉนวนกาซาที่เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม (Photo by SAUL LOEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า หลังจากการดำเนินการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเสร็จสิ้นไปอย่างเรียบร้อยตามข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เดินทางเยือนอิสราเอลทันที พร้อมชื่นชมนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาอิสราเอล ก่อนที่จะบินไปยังอียิปต์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดซึ่งเขาและผู้นำจากอียิปต์, กาตาร์ และตุรเคียได้ลงนามในปฏิญญาในฐานะผู้ค้ำประกันข้อตกลงกาซา
"นี่เป็นวันอันยิ่งใหญ่สำหรับโลก เป็นวันอันยิ่งใหญ่สำหรับตะวันออกกลาง" ทรัมป์กล่าว ขณะที่ผู้นำโลกกว่าสองโหลนั่งหารือกันที่รีสอร์ทชาร์มเอลชีค
ต่อมาเขาประกาศว่าผู้นำที่มาร่วมประชุมได้บรรลุสิ่งที่ทุกคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้
"ในที่สุด เราก็มีสันติภาพในตะวันออกกลาง" ทรัมป์กล่าวในสุนทรพจน์
ตามเอกสาร ผู้ลงนามให้คำมั่นที่จะมุ่งสู่วิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสันติภาพ, ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในภูมิภาค และยังยินดีกับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในการจัดทำข้อตกลงสันติภาพที่ครอบคลุมและยั่งยืนในฉนวนกาซา
ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์กล่าวว่า ข้อตกลงกาซาได้ปิดฉากบทที่เจ็บปวดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และปูทางไปสู่การแก้ปัญหาแบบสองรัฐ
"สำหรับหลายครอบครัวทั่วดินแดนนี้ หลายปีแล้วที่พวกคุณไม่ได้รู้จักวันแห่งสันติภาพที่แท้จริงแม้แต่วันเดียว" ทรัมป์กล่าวในช่วงเช้าของวันเดียวกันระหว่างการปราศรัยต่อรัฐสภาอิสราเอล ซึ่งเขาได้รับเสียงปรบมือกึกก้อง
"ไม่เพียงแต่สำหรับชาวอิสราเอลเท่านั้น แต่สำหรับชาวปาเลสไตน์และคนอื่นๆ อีกมากมาย ฝันร้ายอันยาวนานและเจ็บปวดในที่สุดก็สิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์กล่าว
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง กลุ่มฮามาสมีกำหนดส่งคืนร่างของตัวประกัน 27 รายที่เสียชีวิตหรือถูกสังหารระหว่างการถูกกักขัง รวมถึงร่างของทหารที่เสียชีวิตในปี 2014 ระหว่างความขัดแย้งในฉนวนกาซาครั้งก่อน
กองทัพกล่าวว่าศพของตัวประกัน 4 ศพที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา ได้ถูกกลุ่มฮามาสส่งมอบให้กับหน่วยงานกาชาดสากลและถูกนำกลับคืนสู่อิสราเอลแล้ว ที่สถาบันนิติเวชแห่งชาติในกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลต่อไป
การส่งมอบศพเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เป็นคนกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่รอดชีวิตทั้งหมด 20 คนซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว
ในทางกลับกัน อิสราเอลได้ปล่อยตัวนักโทษและผู้ถูกคุมขัง 1,968 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวปาเลสไตน์ ตามรายงานของกรมราชทัณฑ์
แต่ฮามาสยังคงกักขังศพตัวประกันที่เสียชีวิต 24 ราย ซึ่งพวกเขาจะทยอยส่งคืนให้แก่อิสราเอลตามข้อตกลงหยุดยิง
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า "ฮามาสจำเป็นต้องรักษาข้อตกลงนี้และดำเนินขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อส่งคืนตัวประกันที่เสียชีวิตทั้งหมด"
การเยือนตะวันออกกลางของทรัมป์มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกย่องบทบาทของเขาในการไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังคงมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเจรจา
ประเด็นที่อาจยังไม่ลงตัว ได้แก่ การปฏิเสธของฮามาสที่จะปลดอาวุธ และความล้มเหลวของอิสราเอลในการให้คำมั่นว่าจะถอนกำลังออกจากดินแดนที่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขามั่นใจว่าการหยุดยิงจะคงอยู่
เขาได้พบกับประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์เป็นเวลาสั้นๆ ในการประชุมสุดยอดซึ่งตัวแทนของอิสราเอลและฮามาสไม่ได้เข้าร่วม จากนั้นทรัมป์จึงเดินทางกลับสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ฮาเซม กัสเซม โฆษกกลุ่มฮามาสเรียกร้องให้ทรัมป์และผู้ไกล่เกลี่ยข้อตกลงกาซา ติดตามพฤติกรรมของอิสราเอลต่อไป และให้แน่ใจว่าจะไม่กลับมารุกรานประชาชนปาเลสไตน์อีก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ร่วมหารือแผนสันติภาพกาซาระยะที่ 2
ผู้ไกล่เกลี่ยในตะวันออกกลางอย่าง อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ได้พบปะกันที่กรุงไคโรเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพกาซาระยะที่สองของสหรัฐฯ การประชุมมีหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอียิปต์และตุรเกียเข้าร่วมด้วย ตามรายงานของสถานีข่าวอัล-คาเฮรา นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อัลดุลเราะห์มาน อัล-ธานี แห่งกาตาร์ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน


