ชาวเกาหลีใต้ 80 คน สูญหายในคดีศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา

ชาวเกาหลีใต้ 80 คนที่อาจตกเป็นเหยื่อของงานปลอมหรือศูนย์หลอกลวง หายตัวไปในกัมพูชา ต่อเนื่องเหตุการณ์นักศึกษาที่เสียชีวิตจากการถูกทรมานอันสร้างความตกตะลึงให้กับสาธารณชน

โช ฮย็อน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ (Photo by ISSEI KATO / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้เปิดเผยข้อมูลที่ชาวเกาหลีใต้ 80 คนหายตัวไปในกัมพูชาและอาจตกเป็นเหยื่อของงานปลอมหรือศูนย์หลอกลวง หลังเกิดเหตุการณ์นักศึกษาเสียชีวิตจากการถูกทรมานที่สร้างความตกตะลึงให้กับสาธารณชน

เจ้าหน้าที่กระทรวงฯระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงสิงหาคมปีนี้ มีรายงานว่าชาวเกาหลีใต้ 330 คนสูญหายหรือถูกกักขังโดยไม่สมัครใจหลังจากเดินทางเข้ากัมพูชา และจนถึงเดือนสิงหาคม ยังไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยของผู้คนได้ประมาณ 80 คน

กระทรวงฯ เสริมว่ากำลังตรวจสอบตัวเลขกับข้อมูลของตำรวจในประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน

แม้ว่าจะมีกรณีการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชาประมาณ 21 กรณีในปี 2023 แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 15 เท่าในเดือนสิงหาคมปีนี้

ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การลักพาตัวเมื่อเร็วๆ นี้ในกัมพูชาก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากต่อชาวเกาหลีใต้

อีกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "ตัวเลขเหล่านี้ไม่น้อย และประชาชนของเราหลายคนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนที่ถูกกักขังในกัมพูชา"

"รัฐบาลควรดำเนินมาตรการทั้งหมดที่มีอยู่โดยทันทีเพื่อรับรองความปลอดภัยของพลเมืองของเรา" เขากล่าวเสริม

สำนักงานประธานาธิบดีกล่าวว่าจะส่งคณะทำงานร่วมไปยังกัมพูชาในวันพุธ นำโดยรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ

คิม นัมจุน โฆษกประธานาธิบดีกล่าวว่ารัฐบาลกำลังพิจารณายกระดับคำแนะนำการเดินทางสำหรับปลายทางกัมพูชาด้วย

การเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีในกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งมีรายงานว่าถูกลักพาตัวและถูกทรมานโดยกลุ่มอาชญากรในท้องถิ่น สร้างความตกตะลึงให้กับเกาหลีใต้

แถลงการณ์ของศาลกัมพูชาระบุว่า การสืบสวนของตำรวจและการชันสูตรพลิกศพแสดงให้เห็นว่านักศึกษาซึ่งถูกพบศพในรถกระบะเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 8 สิงหาคมนั้น เสียชีวิตจากการถูกทรมานอย่างรุนแรง, มีรอยฟกช้ำและบาดแผลหลายแห่งทั่วร่างกาย

ศาลกัมพูชาระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 3 คนซึ่งทั้งหมดเป็นชาวจีน ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและฉ้อโกงทางออนไลน์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และถูกควบคุมตัวก่อนการพิจารณาคดี

กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาแถลงเมื่อวันอังคารว่า นักศึกษาผู้นี้เดินทางมาถึงกัมพูชาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม

"ตำรวจกำลังตามหาผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่ และกำลังขยายการสืบสวนโดยร่วมมือกับสถานทูตเกาหลีใต้" แถลงการณ์ระบุ

รัฐบาลโซลระบุว่า ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากถูกโน้มน้าวด้วยข้อเสนองานหลอกลวงที่ให้เงินเดือนสูง

เมื่อถูกจับตัวไป เหยื่อจะถูกบังคับให้เข้าร่วมการฉ้อโกงออนไลน์, โรแมนซ์สแกม และการหลอกลวงการลงทุนแบบ "ฆ่าหมู"

หากเหยื่อไม่ปฏิบัติตามหรือทำยอดได้ไม่ดี เหยื่อจะถูกทุบตีและทรมาน

แอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนในศูนย์หลอกลวงของกัมพูชาเกิดขึ้นในระดับมวลชน และมีศูนย์หลอกลวงอย่างน้อย 53 แห่งในประเทศที่กลุ่มอาชญากรก่ออาชญากรรมค้ามนุษย์, บังคับใช้แรงงาน, ทรมาน, ลิดรอนเสรีภาพ และถูกปฏิบัติแบบทาส.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา

"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

'อนุทิน' รับรู้จัก 'เบน สมิธ' แต่ไม่สนิท ชี้ภาพเก่า 10 ปี รู้อยู่แล้วใครปล่อย

“อนุทิน” รับรู้จัก “เบนสมิท” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน ชี้ภาพที่เห็นออกเป็นรูปเก่า10ปี บอกสื่อก็รู้ว่าใครปล่อย ยันถ้าสนิททำไมไม่ได้สัญชาติ ไทย รับเป็นเหตุต้องพ้น มท. 1 โต้ “โรม” รู้จักผมน้อยไป หลังวิจารณ์ไม่ตั้งใจปราบสแกมเมอร์

เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง