ผู้คนหลายหมื่นคนหลั่งไหลลงสู่ท้องถนนในกรุงบรัสเซลส์เพื่อประท้วงแผนรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงทั่วประเทศที่ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดให้บริการและระบบขนส่งสาธารณะต้องหยุดชะงัก

ผู้ประท้วงเดินขบวนเพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม (Photo by NICOLAS TUCAT / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า ประชาชนเบลเยียมหลายหมื่นคนหลั่งไหลลงสู่ท้องถนนในกรุงบรัสเซลส์เพื่อประท้วงแผนรัดเข็มขัดของรัฐบาล เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้เที่ยวบินต้องหยุดให้บริการและระบบขนส่งสาธารณะต้องหยุดชะงัก
รัฐบาลผสมซึ่งนำโดยบาร์ต เดอ เวเวอร์ กำลังเผชิญกับภาวะขาดดุลงบประมาณมหาศาลจนละเมิดกฎของสหภาพยุโรป และจำเป็นต้องมองหาทางปฏิรูปเงินบำนาญและการออมเงินในรูปแบบอื่นๆ ที่สร้างความโกรธแค้นให้กับสหภาพแรงงาน
ตามรายงานของตำรวจ การเดินขบวนที่กรุงบรัสเซลส์มีผู้เข้าร่วมประมาณ 80,000 คน
สนามบินบรัสเซลส์ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดเนื่องจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ประท้วงหยุดงาน ขณะที่สนามบินชาร์เลอรัวซึ่งเป็นศูนย์กลางหลักของสายการบินราคาประหยัดระบุว่าไม่สามารถให้บริการเที่ยวบินใดๆ ได้เนื่องจากขาดแคลนพนักงาน
การประท้วงครั้งนี้เป็นครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในเบลเยียม นับตั้งแต่เดอ เวเวอร์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ผู้ประท้วงเริ่มเดินขบวนไปทั่วเมืองในตอนเช้า โดยถือลูกโป่งหลากสี, เป่านกหวีด, จุดระเบิดควัน และปิดกั้นการจราจร
บางคนถือป้ายห้ามสีแดงที่มีหมายเลข 67 อ้างอิงถึงแผนการเพิ่มอายุเกษียณ
คนอื่นๆ ติดรูปของเดอ เวเวอร์ พร้อมคำบรรยายภาพว่า "ต้องสงสัยในข้อหาขโมยเงินบำนาญ"
ประชาชนหญิงวัย 59 ปีคนหนึ่งกล่าวว่า เธอเข้าร่วมการเดินขบวนเพราะรู้สึกไม่พอใจกับค่าครองชีพที่สูง และโอกาสที่จะสูญเสียเงินช่วยเหลือการว่างงาน
เนื่องจากบริการรถไฟใต้ดิน, รถราง และรถประจำทางของบรัสเซลส์เกิดความล่าช้าและการยกเลิก ตำรวจในเมืองหลวงจึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงย่านใจกลางเมืองและการขับรถ
"รัฐบาลนี้สัญญาว่าจะสร้างงานที่ยั่งยืนมากขึ้นและเพิ่มกำลังซื้อ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ทุกคนต้องจ่าย ยกเว้นคนรวย" สหภาพแรงงาน CSC กล่าว ขณะที่เรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมการประท้วง
การกระทำดังกล่าวจะเพิ่มแรงกดดันต่อพรรคร่วมรัฐบาลของเดอ เวเวอร์ ซึ่งไม่สามารถตกลงเรื่องงบประมาณได้ และบีบให้นายกรัฐมนตรีต้องเลื่อนการกล่าวสุนทรพจน์สำคัญต่อรัฐสภาที่กำหนดไว้ในวันอังคารออกไป
สหภาพแรงงานได้คัดค้านอย่างหนักต่อการปฏิรูปที่วางแผนไว้ ซึ่งรวมถึงการลดการเกษียณอายุก่อนกำหนดและการตรึงดัชนีค่าจ้างงาน
ขณะที่เบลเยียมซึ่งดูเหมือนจะมีเงินออมประมาณ 10,000 ล้านยูโร ก็ได้ให้คำมั่นที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนาโตในการส่งเสริมกำลังอาวุธ.


