ประชาชนอย่างน้อย 1 รายเสียชีวิตจากความรุนแรงในการชุมนุมที่เมืองหลวงของเปรู แม้ประธานาธิบดีหญิงถูกถอดถอนแล้วแต่การประท้วงที่โกรธแค้นต่อชนชั้นทางการเมืองยังดำเนินต่อไป
ผู้ประท้วงใช้ดอกไม้ไฟโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลระหว่างการปะทะกันภายหลังการประท้วงในกรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม (Photo by CONNIE FRANCE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า การเมืองของเปรูยังคงเต็มไปด้วยความดุเดือดแม้ประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เตถูกถอดถอนจากตำแหน่งไปแล้วจากความล้มเหลวด้านการปราบอาชญากรรม
อดีตประธานรัฐสภาโฮเซ เฌรี โอเร เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการ แต่กระแสความไม่พอใจภาคประชาชนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเหตุจลาจลล่าสุด
การชุมนุมที่เมืองหลวงของเปรูเมื่อวันพุธกลายเป็นการปะทะรุนแรงระหว่างประชาชนและตำรวจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเปรูระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 102 คน รวมถึงพลเรือน 24 คน และตำรวจ 78 นาย โดยได้อัปเดตยอดผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้แล้ว
การประท้วงที่นำโดยกลุ่มเยาวชนทำให้ชาวเปรูหลายพันคนที่รู้สึกผิดหวังกับความล้มเหลวของทางการในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงลิมาและเมืองอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ผู้ประท้วงบางคนพยายามฝ่าแนวกั้นความปลอดภัยรอบรัฐสภาเมื่อพลบค่ำ และผู้ประท้วงคนอื่นๆ ในฝูงชนก็ขว้างปาก้อนหินและจุดพลุไฟเช่นกัน โดยตำรวจปราบจลาจลตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา
"ผมเสียใจกับการเสียชีวิตของเอดูอาร์โด รุยซ์ ซานซ์ พลเมืองวัย 32 ปี" ประธานาธิบดีรักษาการกล่าวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ประสานงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตชายรายดังกล่าวอาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบยิง
ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่า "การเดินขบวนโดยสันติถูกแทรกซึมโดยอาชญากรที่ต้องการก่อความวุ่นวาย"
ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ได้รับผลกระทบจากการประท้วงมาหลายสัปดาห์แล้ว และสมาชิกสภานิติบัญญัติได้ลงมติเมื่อวันศุกร์เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เตในขณะนั้น ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นต้นเหตุของอาชญากรรมที่พุ่งสูงขึ้นและถูกกล่าวหาว่าทุจริต
การประท้วงในวันพุธถูกเรียกร้องโดยกลุ่มเยาวชน, กลุ่มศิลปิน และสหภาพแรงงาน
กลุ่มสตรีนิยมได้เข้าร่วมในการเรียกร้องให้ชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดีคนใหม่ในข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ
มีการยื่นคำฟ้องร้องต่อโฮเซ เฌรี โอเร เมื่อปีที่แล้ว แต่อัยการได้ปิดคดีในเดือนสิงหาคมเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ การถอดถอนโบลูอาร์เตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกิดขึ้นหลังจากการประท้วงของบริษัทขนส่ง, พ่อค้า และนักศึกษา เกี่ยวกับการข่มขู่คุกคามโดยแก๊งอาชญากรและการโจมตีผู้ที่ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินค่าคุ้มครอง
การกรรโชกทรัพย์และการฆ่าตามใบสั่งเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันทั่วเปรู
แก๊งต่างๆ เช่น แก๊ง Los Pulpos และแก๊ง Tren de Aragua ในเวเนซุเอลา ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในละตินอเมริกา ได้กักขังผู้คนจากทุกสาขาอาชีพเพื่อเรียกค่าไถ่
โฮเซ เฌรี โอเรให้คำมั่นว่าจะประกาศสงครามกับกลุ่มอาชญากรรม เพื่อพยายามบรรเทาความตึงเครียดจากการประท้วง ก่อนส่งต่ออำนาจหลังการเลือกตั้งเดือนเมษายนปีหน้า.
