กระแสโลกเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่าโดนัลด์ ทรัมป์และสีจิ้นผิงของจีนจะยุติสงครามการค้าที่บอบช้ำในการเจรจาสัปดาห์นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงโตเกียวแล้วในช่วงล่าสุดของการเยือนเอเชีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ณ พระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม (Photo by Kazuhiro NOGI / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงโตเกียวแล้วในช่วงล่าสุดของการเยือนเอเชีย หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในอาเซียนที่กัวลาลัมเปอร์
ทรัมป์กล่าวระหว่างเดินทางไปญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ว่า เขาหวังจะบรรลุข้อตกลงเมื่อพบกับสีจิ้นผิงในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะเดียวกันก็ระบุว่าเขายินดีที่จะขยายเวลาการเดินทางเพื่อพบกับคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
"ผมเคารพประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมาก และผมคิดว่าเรากำลังจะบรรลุข้อตกลงได้" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน พร้อมเสริมว่าเขาตั้งเป้าที่จะเดินทางไปจีนในช่วงต้นปี 2026
ความเชื่อมั่นดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้น โดยดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นพุ่งทะลุ 50,000 จุดเป็นครั้งแรก
ขณะที่ผู้คนหลายสิบคนมารวมตัวกันที่สนามบินฮาเนดะเพื่อถ่ายภาพเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งมาพร้อมกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศและสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง
ทรัมป์สวมเนคไทสีทองและขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อพาเขาเข้าสู่แสงไฟสว่างไสวของมหานครญี่ปุ่น ทันเวลาเข้าเฝ้าจักรพรรดิในตอนเย็น
"บุรุษผู้ยิ่งใหญ่" ทรัมป์กล่าวในเวลาต่อมา
ในวันอังคาร คาดว่าทรัมป์จะได้พบกับซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีสายอนุรักษนิยมคนใหม่ และกล่าวสุนทรพจน์บนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน ของอเมริกา ซึ่งจอดอยู่ที่ฐานทัพเรือโยโกสุกะ
"ผมได้ยินเรื่องเหลือเชื่อมาก ทาคาอิจิเป็นพันธมิตรและเพื่อนที่ดีของชินโซ อาเบะซึ่งเป็นเพื่อนของผม" ทรัมป์กล่าว โดยหมายถึงอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผู้ถูกลอบสังหาร
การเดินทางเยือนเอเชียของทรัมป์ซึ่งเป็นการเยือนภูมิภาคนี้ครั้งแรกนับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่ง เริ่มต้นขึ้นที่มาเลเซียในวันอาทิตย์ พร้อมกับข้อตกลงมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
เขายังได้เสนอให้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล แต่ไม่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดา โดยตัดความเป็นไปได้ที่จะพบปะกันในเร็วๆ นี้
"แคนาดาโกงกินเรามานานแล้ว และพวกเขาจะไม่สามารถโกงกินเราได้อีกต่อไป" ทรัมป์กล่าว
ทั้งนี้ รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทรัมป์และสำหรับตลาดโลก ยังคงเป็นข้อตกลงกับจีน
ทรัมป์มีกำหนดพบกับสีจิ้นผิงในวันพฤหัสบดีนี้ที่เกาหลีใต้ เพื่อหารือแบบตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขากลับสู่ทำเนียบขาวอีกวาระ
ก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางถึงมาเลเซีย เบสเซนต์และเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้จัดการเจรจาการค้าเป็นเวลาสองวัน ในการหาข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 100% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน
หลี่ เฉิงกัง รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า ได้บรรลุ "ฉันทามติเบื้องต้น" แล้ว
เบสเซนต์กล่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้ตกลงในกรอบการทำงานสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่จะตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า "มันจะดีสำหรับจีน และสำหรับเรา"
เมื่อวันศุกร์ ผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่นประกาศในสุนทรพจน์นโยบายครั้งแรกของเธอว่า ญี่ปุ่นจะใช้จ่าย 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไปกับการป้องกันประเทศในปีงบประมาณนี้
แต่รัฐบาลวอชิงตันซึ่งมีกำลังทหารประจำการอยู่ในญี่ปุ่นราว 60,000 นาย ต้องการให้รัฐบาลโตเกียวใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งอาจเท่ากับ 5% ของ GDP ที่สมาชิกนาโตให้คำมั่นไว้เมื่อเดือนมิถุนายน
ปัจจุบัน สินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถูกเก็บภาษี 15% ซึ่งน้อยกว่า 25% ที่ทรัมป์เคยขู่ไว้ในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังต้องการให้ญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าจากอเมริกามากขึ้น เช่น ข้าว, ถั่วเหลือง และรถยนต์ รวมถึงรถกระบะฟอร์ด F-150 รุ่นยอดนิยม
ยังมีคำถามเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นที่จะลงทุน 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสหรัฐฯ ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงการค้าเดือนกรกฎาคม
ทรัมป์มีกำหนดเดินทางไปเกาหลีใต้ในวันพุธเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) และจะเข้าพบประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของประเทศเจ้าภาพ
ทรัมป์ยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเขาอาจพบปะกับคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือแบบตัวต่อตัวระหว่างที่อยู่บนคาบสมุทรเกาหลี โดยผู้นำทั้งสองพบกันครั้งสุดท้ายในปี 2019 ที่เขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่กั้นระหว่างสองเกาหลี
"ผมอยากพบเขามากถ้าเขาอยากพบ ผมเข้ากันได้ดีกับคิมจองอึน ผมชอบเขา และเขาชอบผม" ทรัมป์กล่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน
เมื่อถูกถามว่าเขาจะขยายเวลาการเดินทางเพื่อให้สามารถพบปะกันได้หรือไม่ เขาตอบว่า "ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าคำตอบน่าจะเป็น ใช่ ผมจะทำ ผมจะทำแน่นอน".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ศุภจี’ ยํ้า ดีลเจรจาภาษีทรัมป์ ยังไม่เปลี่ยนแปลง สหรัฐฯยังไม่ปรับเงื่อนไข
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีการค้าสหรัฐฯ ว่า ยัง

