รัฐบาลทหารเมียนมากำลังพยายามดำเนินคดีกับประชาชนมากกว่า 200 คนในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น โดยอ้างอิงกฎหมายใหม่ที่มุ่งปราบปรามการต่อต้าน

ป้ายโฆษณาหาเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา ในเมืองปยินอูลวินของมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเตรียมใช้กฎหมายใหม่ที่ผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อปราบปรามการต่อต้าน ดำเนินคดีกับประชาชนมากกว่า 200 คนในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
คณะรัฐบาลทหารกำลังประกาศจัดการเลือกตั้งแบบแบ่งระยะโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม ว่าเป็นก้าวหนึ่งไปสู่การปรองดองในเมียนมาซึ่งตกอยู่ในสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 2021
แต่ฝ่ายตรงข้ามเตรียมที่จะขัดขวางการเลือกตั้งในพื้นที่ที่พวกเขาควบคุม และผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงหลายรายมองว่าการเลือกตั้งเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อรักษาอำนาจการปกครองของกองทัพต่อไป
คณะรัฐบาลทหารได้ออกกฎหมายในเดือนกรกฎาคมเพื่อปกป้องการเลือกตั้งจากการ "ขัดขวาง, ก่อกวน และทำลาย" โดยมีข้อกำหนดห้ามการวิพากษ์วิจารณ์หรือประท้วงการเลือกตั้ง และกำหนดบทลงโทษที่รุนแรง
รัฐมนตรีมหาดไทยของคณะรัฐบาลทหารกล่าวว่า มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 229 คนภายใต้กฎหมายดังกล่าว ในข้อหาพยายามก่อวินาศกรรมกระบวนการเลือกตั้ง
บางคดีเกี่ยวข้องกับนักเคลื่อนไหวและกลุ่มกบฏที่หลบหนี ซึ่งปฏิบัติการอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลทหาร ทำให้ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดจะถูกจับกุมในขณะนี้
ทั้งนี้ การตัดสินลงโทษภายใต้กฎหมายใหม่ในศาลที่ไม่โปร่งใสของเมียนมา อาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี และในบางกรณีเป็นข้อหาเพียงเล็กน้อย เช่น การโพสต์อิโมจิรูปหัวใจบนเฟซบุ๊กที่วิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้ง
กฎหมายนี้ยังห้ามการทำลายบัตรลงคะแนนและหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงการข่มขู่หรือทำร้ายผู้มีสิทธิเลือกตั้ง, ผู้สมัคร และเจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี
ทอม แอนดรูว์ส ผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติประจำเมียนมา เคยเรียกการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ""การหลอกลวง" โดยอ้างถึงข้อจำกัดด้านเสรีภาพในการพูดว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคหลายประการต่อการเลือกตั้งแบบเสรีและเป็นธรรม
รัฐบาลทหารประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังตามล่าจับกุมนักกิจกรรม 10 คนที่จัดการชุมนุมต่อต้านการเลือกตั้ง โดยโยนใบปลิวทางการเมืองขึ้นไปในอากาศในเมืองมัณฑะเลย์
ชายคนหนึ่งถูกจำคุก 7 ปีพร้อมใช้แรงงานหนักในเดือนกันยายน จากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ขณะที่ศิลปิน 3 คนถูกจับกุมในเดือนถัดมาในข้อหาบ่อนทำลายการเลือกตั้ง
สื่อของรัฐระบุว่า ทั้งสามคนนั้น ได้แก่ ผู้กำกับ, นักแสดง และนักแสดงตลก ถูกควบคุมตัวในข้อหาเผยแพร่คำวิจารณ์ที่เป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิดบนโซเชียลมีเดียต่อศิลปินคนอื่นๆ ที่สร้างภาพยนตร์สนับสนุนการเลือกตั้ง และอย่างน้อยหนึ่งคนถูกดำเนินคดีในข้อหาด่าทอ, ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายผู้จัดงานเลือกตั้ง
ผู้ที่ถูกจำคุกภายใต้กฎหมายนี้จะเข้าร่วมกับผู้คนมากกว่า 22,000 คนที่ถูกรัฐบาลทหารจำคุกด้วยเหตุผลทางการเมือง ตามข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมือง
หนึ่งในนั้นคือ ออง ซาน ซู จี ผู้นำประชาธิปไตยที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งถูกโค่นล้มอำนาจในปี 2021
พรรคของเธอชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดอย่างถล่มทลาย แต่ถูกกองทัพล้มล้างผลการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐาน และต่อมาได้ยุบพรรคของเธอ
แม้ในช่วงขณะของความพยายามปราบปรามการต่อต้านการเลือกตั้งในดินแดนของตน แต่กองทัพทหารยังคงเปิดฉากโจมตีเพื่อยึดครองพื้นที่เพิ่มเติมก่อนที่จะเริ่มการลงคะแนนเสียงระยะแรก
คาดว่าจะมีการประกาศผลการเลือกตั้งได้ในช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม 2026.

