พล.ต.อ.อดุลย์ นำคณะ กมธ.แรงงาน วุฒิสภา หารือ รมว.พิพัฒน์ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ มุ่งขับเคลื่อนนโยบายแรงงานให้มีประสิทธิภาพ

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปและหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องด้านการแรงงาน โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ภารกิจของ
วุฒิสภา มีอำนาจหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งแต่งตั้งบุคคลตามรัฐธรรมนูญ และในวันนี้ผมพร้อมคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา จึงมาหารือกับกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับนโยบายด้านแรงงานเพื่อขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพ

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า การมาเยี่ยมคารวะและหารือประเด็นด้านแรงงานกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ในครั้งนี้ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะไปยังกระทรวงแรงงานในประเด็นต่าง ๆ ทั้งการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อให้พี่น้องแรงงานสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ สอดคล้องกับค่าครองชีพ ต้องเปรียบเทียบกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศต่างๆ ในประชาคมอาเซียน เพื่อไม่ให้ไทยสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุน และที่สำคัญการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต้องผ่านกลไกของคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อจะได้ทบทวบสถานการณ์และความเหมาะสมในทุกมิติอย่างรอบด้าน ส่วนการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการประกันสังคมนั้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานประกันสังคมอยู่ระหว่างการจัดเตรียมการเลือกตั้งเพื่อให้ได้ผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการบริหารด้านการเงินการลงทุนของคณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งในส่วนนี้ต้องมองถึงความคุ้มค่าของระบบการเลือกตั้งดังกล่าว และแนวทางการจัดทำประมวลกฎหมายแรงงานที่ปัจจุบันยังกระจัดกระจายอยู่ 13 ฉบับ รวมแล้วกว่า 1,146 มาตรานั้น ต้องนำมาปรับปรุงให้เป็นฉบับเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเกิดประโยชน์กับผู้ใช้กฎหมาย

“ผลจากการหารือในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านแรงงานให้สอดคล้องตามเป้าหมายที่กำหนด ที่สำคัญจะช่วยให้การดำเนินการเกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องภาคแรงงานอีกด้วย”พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวท้ายสุด

ในการนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ และคณะกรรมาธิการการแรงงานยังได้เยี่ยมชมการให้บริการของศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างอาคารกระทรวงแรงงาน โดยศูนย์แห่งนี้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่แรงงานไทยที่กลับมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลเพื่อยื่นขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับมาตรการรองรับแรงงานไทยที่กลับมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลนั้น ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้หาตลาดใหม่ให้แรงงานไทย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับอิสราเอล เช่น เกาหลี ออสเตรเลีย โดยเจรจากับนายจ้างเจ้าของฟาร์ม เพื่อจัดส่งแรงงานไปทำงานในประเทศอื่นๆ แทน เป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้น นอกจากนี้ จะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาตำแหน่งงานให้แรงงานไทยที่กลับมาจากอิสราเอลซึ่งมีทักษะสูงให้ได้มีงานทำ ทั้งนี้ เพื่อนำพากระทรวงแรงงานให้เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สิรภพ"ประธาน มอบบ้านหลังที่ 2ให้น้องปอเนาะ

นายสิรภพ ดวงสอดศรี. ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารหอพักนักเรียนหญิง โรงเรียนอัลยามีอะห์อัลอิสลามียะห์

'พิพัฒน์' รุดเยี่ยมครอบครัวแรงงาน เสียชีวิตจากอิสราเอล กำชับแรงงานจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ทายาทให้ครบถ้วน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายนิพล อัครศรี และนางอมร อัครศรี บิดาและมารดาของนายสนธยา อัครศรี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการไปทำงานที่รัฐอิสราเอล

“พิพัฒน์” มอบโอวาท 256 แรงงานไทย “จดจำสิ่งที่ดีกลับมาพัฒนาตนเอง พัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย” ย้ำโอกาสแรงงานไทยในต่างประเทศยังมีสูง

วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบโอวาทแก่แรงงานไทย 256 คน ที่เข้ารับการอบรมก่อนเดินทางไปทำงานไต้หวัน ญี่ปุ่น และกรีซ โดยมีนายสมชาย

"ศุภชัย-ณัฏฐ์ชนน" ยืนยันจุดยืนพรรคภูมิใจไทย ออกกฎหมายควบคุม เพื่อใช้กัญชาทางการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ เรียกร้องทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมทำตามนโยบายรัฐบาล ให้บรรลุผลสำเร็จ

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกพรรคภูมิใจไทย และ นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ร่วมแถลงข่าวถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องกัญชากัญชง โดยนายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยคือ กัญชาทางการแพทย์ สุขภาพ และการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ

"ภูมิใจไทย" แจงแนวทางการควบคุมกัญชา คือการสนับสนุนกฎหมายกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ที่ได้นำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร แล้ว ตั้งแต่สมัยประชุมที่ผ่านมา

วันที่ 16 พ.ค.2567 นางสาว แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย และนางสาวผกามาศ เจริญพันธ์ รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังการประชุมพรรคภูมิใจไทย ถึงเรื่องการที่จะนำกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติด ว่า เข้าใจในประเด็นของนายเศรษฐา ทวีสิน