ไทยก้าวใหม่ : ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง เดินหน้าขับเคลื่อนธนู4 ดอก กับโอกาสปักธง แจ้งเกิดเลือกตั้ง 69

หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ให้นโยบายว่า มันน่าจะหมดไปได้แล้วเรื่องขั้วสีการเมืองต่าง ๆ ที่ผ่านมาประเทศไทยเราจมปลักกับขั้วการเมืองและการแบ่งสีทางการเมืองมานานร่วมยี่สิบปี ที่ผ่านมาเราบอบช้ำมาพอสมควรแล้ว  เราคิดว่า เราพร้อมจะร่วมงานกับทุกฝ่าย

“พรรคไทยก้าวใหม่”ที่มี ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนักการศึกษาชื่อดัง-อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหัวหน้าพรรคถือเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองใหม่ที่เปิดตัวมาก่อนการยุบสภาฯ12 ธ.ค. 2568 ได้ไม่นานก็ต้องเข้าสู่สนามเลือกตั้ง 8 ก.พ. 2569 บนการจับตามองทางการเมืองไม่น้อยว่า พรรคไทยก้าวใหม่ ที่มีสโลแกนพรรคว่า ไทยก้าวใหม่ : ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง จะได้รับการตอบรับจากประชาชนผ่านผลการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน -จะได้ส.ส.กี่คนหลังการเลือกตั้ง และหลังจากนี้เมื่อเข้าสู่การหาเสียงเต็มตัว ไทยก้าวใหม่ จะมีอะไรเป็นจุดขายทางการเมืองที่จะไปสู้กับพรรคการเมืองอื่นได้

เพื่อเช็คความพร้อมของพรรคไทยก้าวใหม่กับการลงทำศึกเลือกตั้ง”อนุพงษ์ มาคำ รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่”หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ ให้ข้อมูลและความเห็นกับเรา โดยลำดับแรกได้เล่าถึงการเข้ามาทำงานการเมืองกับพรรคไทยก้าวใหม่ว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็นอดีตผู้สมัครส.ส.เขต1 จังหวัดพะเยา พรรคประชาธิปัตย์ ตอนเลือกตั้งปี 2562 โดยลงแข่งขันชนกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งขณะนั้นลงสมัครพรรคพลังประชารัฐ โดยหลังการเลือกตั้งปี 2562 ผมก็ถอยจากจากการเมืองมานานพอสมควร แต่ก็ยังช่วยพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เลยทำให้รู้จักกับดร.เอ้ สุชัชวีร์ ที่เข้ามาอยู่กับพรรคปชป.(ตอนช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.) และเมื่อดร.เอ้ ลาออกจากพรรคปชป. ไปตั้งพรรคการเมือง สร้างพรรคไทยก้าวหน้า ทางดร.เอ้ ก็มาชวนให้ไปร่วมสร้างพรรคด้วยกัน จึงตัดสินใจออกจากพรรคปชป.มาร่วมสร้างพรรคไทยก้าวหน้า

การที่ตัดสินใจมาร่วมทำพรรคไทยก้าวใหม่กับคณะทีมงานผู้ก่อตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ ก็เพราะเห็นว่า นโยบายพรรคไทยก้าวใหม่ เป็นนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา -การเข้าถึงการศึกษา

โดยหากพูดถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมืองที่ประกาศออกมา หากเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์โดยเฉพาะถ้าพูดเรื่องการศึกษา ดร.สุชัชวีร์ ไม่น้อยหน้าใคร จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคไทยก้าวใหม่ เพราะเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกับทุกคน อย่างผมเองมาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะการศึกษาจากที่จบรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจบปริญญาโทที่นิด้าด้านการบริหารงานภาครัฐและเอกชน เลยคิดว่าจะนำความรู้ความสามารถที่มีมาช่วยพัฒนาประเทศชาติได้เพราะเป็นคนที่สนใจเรื่องการศึกษา-นโยบายการศึกษาเป็นพิเศษอยู่แล้ว จึงคิดว่าที่เข้ามาร่วมงานกับไทยก้าวใหม่ จะช่วยทำประโยชน์อะไรให้กับพรรคได้ ซึ่งทางพี่เอ้ ก็ให้เกียรติ ให้เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค

"อนุพงษ์-รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่"ย้ำว่าจุดแข็งที่สำคัญของพรรคไทยก้าวใหม่ ก็คือนโยบายพรรค ในเรื่อง ธนู 4 ดอก ซึ่งธนูดอกแรก ก็คือเรื่องการศึกษา-การพลิกโฉมการเปลี่ยนการศึกษา เพราะการศึกษาคือที่มาของทุกคน อย่างตัวคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานพรรคไทยก้าวใหม่  ท่านพูดตลอดว่าเป็นสาวโคราช เป็นคนธรรมดา เป็นเด็กเลี้ยงหมู แต่มาถึงวันนี้ได้ก็เพราะการศึกษาไปจบการศึกษาจากต่างประเทศ -ดร.เอ้ ก็เช่นกัน ก็เป็นเด็กระยอง ที่ฝักใฝ่เรื่องการศึกษา ซึ่งดร.เอ้ เคยไปบรรยายตอนที่ผมเข้าอบรมหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้า โดยเล่าว่า เคยนั่งรถเมล์ไม่ต่ำกว่า 21 รอบ เพื่อไปพบ ร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา (อดีตผู้ว่าฯกทม.-อดีตคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เพื่อให้ท่านเซ็นรับรองให้เพื่อไปศึกษาต่อที่ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือMIT) ซึ่งร้อยเอกกฤษฎา เห็นความตั้งใจของดร.เอ้ ก็เซ็นรับรองให้

ทั้งหมดทำให้พรรคไทยก้าวใหม่เห็นว่า ธนูดอกแรก คือเรื่องการศึกษา สนับสนุนให้คนเข้าถึงการศึกษา ซึ่งไม่ได้มุ่งหวังเฉพาะมหาวิทยาลัยอย่างเดียว ทางพรรคไทยก้าวใหม่ยังมองว่า อาชีวะเป็นหน่วยการศึกษาที่สำคัญเพราะเราอยากให้เด็กอาชีวะที่จบมามีงานทำตรงกับสายงานที่เรียนมา เราทำBusiness Matching หรือ การจับคู่ธุรกิจ โดยดีลกับการนิคมอุตสาหกรรมฯ กับสถาบันอาชีวะต่าง ๆ เพราะนักศึกษาอาชีวะ เราเรียกเตรียมวิศวะ เรามีช่างกล-ช่างไฟ อย่างช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เราก็มีการนำคนลงไปช่วย ไม่ว่าจะเป็นที่อยุธยาฯ หรือหาดใหญ่ ที่ต้องบอกว่า ปัจจุบันตลาดแรงงาน ขาดแคลนแรงงานสายอาชีวะ ทุกวันนี้ อย่างในหมู่บ้าน จะหาช่างประปา-ช่างไฟสักคนยังหายากเลย ยิ่งช่างกลยิ่งไม่ต้องพูดถึง

อย่างตัวผมเองทำธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ผมทราบดี เด็กที่จบอาชีวะมาเช่นปวส.แล้วไปต่อปริญญาตรี จนจบวิศวะฯ พวกนี้หน้างานจะแข็งมาก ส่วนวิชาการทุกคนได้อยู่แล้ว แต่การทำงาน ประสบการณ์หน้างาน คนที่จบอาชีวะ จบปวช.-ปวส. จะแข็งมาก สู้งาน  อยู่หน้างานทน

พรรคไทยก้าวใหม่จึงให้ความสำคัญกับเรื่อง อาชีวะจบมามีงานทำหรือเตรียมวิศวะฯ ไม่จำเป็นที่คนจะต้องมุ่งเน้นมาสายปริญญาตรี สายสามัญอย่างเดียว เพราะว่าสายสามัญบางครั้งจบมาทำงานโดยทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา อย่างที่เห็นก็มีค่อนข้างเยอะ ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน โลกมันเปลี่ยน อาชีวะมันพลิกได้

..ตอนนี้ที่เราดีลกับวิทยาลัยอาชีวะต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อย่างในต่างจังหวัด ก็เช่นที่ระยอง ชลบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมฯ อยู่ ในสถานการศึกษาที่เป็นอาชีวะ เราก็จะไปโคกับการนิคมอุตสาหกรรม ฯที่ดูแลรับผิดชอบนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ก็จะไปดูว่าบริษัทหรือกิจการรายใดเช่น โรงงานที่ทำเครื่องปรับอากาศ หรือขายโซลาร์เซลล์ โซลาร์ฟาร์ม ที่ต้องมีการรับสมัครพนักงาน ทั้งวิศวะไฟฟ้า-วิศวะเครื่องกลหรือปวช.-ปวส. ที่เรียนด้านนี้ ซึ่งคนที่จบปวช.เองก็ยังเข้าไปทำงานในโรงงานได้ แล้วพรรคมีนโยบายเรื่องทุนการศึกษาต่อเนื่องให้ เราจะส่งเสริมด้านนี้ เช่นนิคมอุตสาหกรรมบางจังหวัดขาดแรงงานด้านใด ก็จะส่งเสริม-สร้างคนให้เหมาะกับแรงงานที่ต้องการ ผลิตนักศึกษาให้เรียนจบออกมาตรงกับความต้องการของนิคมอุตสาหกรรมฯในจังหวัดต่างๆ เพื่อไม่ให้ว่า มีการผลิตออกมาเยอะเกินไปโดยที่ไม่ตรงกับความต้องการของแรงงานในพื้นที่

...ส่วนธนูดอกที่ 2 คือพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนธนูดอกที่  3 คือสร้างคุณภาพชีวิตให้คนไทยปลอดภัยและมีสุขภาพดี มีความสุข ที่ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะหัวหน้าพรรคไทยสร้างชาติ ก็มาจากสายวิศวกร -วิศวกรรม อย่างเช่นที่ประเทศไทยเจอเรื่องตึกสตง.ถล่ม-อุโมงค์ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินถล่ม-สะพานถล่ม ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องชีวิตและความปลอดภัยของคนไทย ยังมีอยู่น้อยมาก บางอย่างไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น อย่างอุโมงค์ถล่ม มันเป็นความผิดพลาดตรงไหน ต้องมาเริ่มตั้งแต่ต้นทางเลยว่ามันเกิดจากอะไร หากความปลอดภัยตรงนี้ยังทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไม่รู้จะอยู่ยังไงเหมือนกัน อย่างแผ่นดินไหวแล้วตึกสตง.ถล่ม ก็เห็นแล้วว่ามีตึกถล่มแค่ตึกเดียว ก็ต้องไปตรวจสอบว่ามันเกิดจากอะไร มีการทุจริตอะไรต่างๆ หรือไม่ ส่วนธนูดอกที่ 4 คือ สร้างค่านิยมใหม่คนดีต้องมีที่ยืน ซึ่งคนดีของเราคือ ไม่ใช่คนที่สร้างนิยามให้ตัวเองว่าเป็นคนดีอย่างเดียว แต่ต้องเป็นคนดีที่เสียสละเพื่อส่วนร่วมเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง

"อนุพงษ์-รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่"กล่าวต่อไปว่า พรรคไทยก้าวใหม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการเข้าถึงการศึกษา -เทคโนโลยี ซึ่งด้วยยุคปัจจุบันที่เรื่องของAI มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องยอมรับว่ามันเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีเอไอจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราและกับหลายวงการสาขาอาชีพ ซึ่งพรรคไทยก้าวใหม่ก็ให้ความสำคัญกับการใช้เอไอในการทำงานและวางแผนแก้ปัญหาต่างๆ

...เช่น ล่าสุดที่พรรคเข้าไปทำก็คือ ที่เกิดน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาฯ เราใช้เทคโนโลยีการสแกนแผ่นดินเพื่อtest ว่าพื้นที่ตรงส่วนใดเป็นพื้นที่รับน้ำ พื้นที่ตรงไหนเป็นที่ทราย เหมาะสำหรับการรับน้ำ เทคโนโลยีเอไอ จะช่วยวางแผนแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านไล่ลงมาเลย ก็คือสามารถใช้ดาวเทียมสแกนพื้นที่ต่าง ๆ ว่าถ้าน้ำท่วมจากจังหวัดนครสวรรค์ เราจะพร่องน้ำ(การระบายน้ำ)ไปทางไหนที่มันเป็นจุดรับน้ำได้ จากที่เราtest ก็ได้มีการไปอธิบายให้ชาวบ้านที่อยุธยาฯฟัง เพราะบางครั้งหากเราไปอธิบายให้ชาวบ้านในช่วงน้ำท่วมแล้วได้รับผลกระทบเขาอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เทคโนโลยีเหล่านี้ต้องสร้างเป็นภาพรวมให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน ซึ่งกระทรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญเพราะว่าบางพื้นที่อย่าง อยุธยาฯ เราเข้าใจมาตลอดว่าเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องใช้บ้านเขา พื้นที่ของเขามาเป็นพื้นที่รับน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำท่วมปทุมธานี-กรุงเทพมหานคร เรามองว่ามันมีวิธีที่ทำให้น้ำไม่ท่วมพื้นที่อยุธยาฯได้

"อนุพงษ์-รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่"กล่าวว่าหากพูดถึงจุดแข็งของพรรคไทยก้าวใหม่ ก็คือตัวหัวหน้าพรรค ดร.สุชัชวีร์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของไทยก้าวใหม่ ซึ่งหากกล่าวถึงผู้นำเรื่องการศึกษา ตัวหัวหน้าพรรคอยู่ในวงการการศึกษามานานพอสมควร เป็นศาสตราจารย์ตั้งแต่ก่อนอายุ 40 ปี เคยเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุสี่สิบกว่าปี คลุกคลีกับวงการการศึกษามานาน อีกทั้งบุคลากรของพรรคอย่างเช่น คุณหญิงกัลยา ก็ผ่านตำแหน่งสำคัญๆมาแล้ว เช่น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งก็มีทีมงานที่เป็นรองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่หลายคนที่คลุกคลีอยู่กับวงการการศึกษา ส่วนจุดแข็งเรื่องที่สองของพรรคไทยก้าวใหม่ ก็คือนโยบายพรรค โดยเฉพาะนโยบายธนู 4 ดอก ทำให้คนที่เรียนจบมาแล้ว มีอาชีพมีงานทำ  การให้ความสำคัญกับเรื่อง นโยบายด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน และนโยบายอื่นๆ ที่แตกแขนงออกมาซึ่งก็จะสอดรับกับนโยบายธนูสี่ดอก ที่ยืนยันได้ว่าทุกนโยบายของพรรคไทยก้าวใหม่ผ่านการศึกษาวิจัยมาก่อนแล้วว่าทำได้จริง หากพรรคไทยก้าวใหม่ได้มีโอกาส เข้าไปทำเข้าไปผลักดันนโยบายพรรค

สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการรณรงค์หาเสียง มองว่าเราจะไปโฟกัสทุกกลุ่มก็ยังไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบันเรายังไม่ใช่พรรคใหญ่ เรายังเน้นเรื่องการศึกษาเพราะเรื่องการศึกษามันครอบคลุมทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคนในเมือง ชนบทต่างจังหวัดหรือพื้นที่ชายขอบ  ทุกคนต้องมีการศึกษา หากประชาชนที่เป็นผู้ปกครองมีลูกหลานได้เรียนฟรี  ไม่ต้องมีภาระต้องมาแบกส่งลูก เรียนหนักๆ หากภาครัฐมีสวัสดิการ มีการซัพพอร์ตเรื่องการศึกษา ก็จะแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองลงได้ ก็ทำให้เกิดผลต่างๆเช่น  เศรษฐกิจจะดีขึ้น เพราะผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายน้อยลง จะส่งผลให้ฟันเฟืองในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไปได้ เพราะประชาชนไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือชนบท ต่างก็มีลูกมีหลาน ต้องฝากความหวังไว้กับการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ความคิดใหม่ๆ ถ้าเรายังย่ำอยู่กับที่ ทุกวันนี้เราก็เห็นอยู่ จากที่ไทยเคยจะเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชียเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ทุกวันนี้กลายเป็นว่า เราเดินตามคนอื่นไม่ทัน ไม่ต้องไปแข่งกับมาเลเซีย สิงคโปร์แล้ว เวียดนามเราแข่งกับเขาให้ได้ก่อน

..ส่วนเรื่องความคาดหวังกับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ก็หวังสูงพอสมควร แต่เนื่องจากระยะเวลาการเตรียมตัว เรื่องของกระแสอะไรต่างๆ เพราะไทยก้าวใหม่ไม่อยากทำการเมืองที่ต้องใช้บ้านใหญ่ที่ต้องใช้กระสุน ต้องใช้คอนเน็คชั่นต่างๆ เพราะเราอยากทำการเมืองที่คนเห็นนโยบายเรามากกว่า ก็ยังหวังอยู่ว่าผลการเลือกตั้งที่จะออกมา จำนวนส.ส.ของพรรคก็น่าจะได้มากพอที่จะผลักดันให้กับทางหัวหน้าพรรค-ทีมผู้บริหารพรรคได้มีโอกาสเข้าไปดูแลกระทรวงที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคไทยก้าวใมห่ ที่เราก็ยังเน้นเรื่องการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงอุดมศึกษาฯ เราสามารถใช้ความรู้ความสามารถของทีมงานพรรคไทยก้าวใหม่เข้าไปผลักดันตรงนั้นได้ หากมีโอกาส

ไทยก้าวใหม่ พร้อมร่วมงานกับทุกฝ่าย

-ในช่วงการเลือกตั้ง เวลานี้ก็มีการมองว่าเป็นศึกการแข่งขันของสามพรรคใหญ่สามสีคือน้ำเงิน ส้ม แดง มีการมองว่าพรรคการเมืองไหนอยู่ขั้วอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิย แล้วพรรคไทยก้าวใหม่มีการวางตำแหน่งทางการเมืองของพรรคไว้หรือไม่ว่าจะอยู่ปีกไหนหรือมีแบนด์พรรคทางการเมืองอย่างไร?

คำถามนี้เคยมีคนถามหัวหน้าพรรคตอนที่มีการเปิดพรรคไทยก้าวใหม่ตั้งแต่วันแรก ซึ่งหัวหน้าพรรคให้นโยบายว่า มันน่าจะหมดไปได้แล้วเรื่องขั้วสีการเมืองต่าง ๆ ที่ผ่านมาประเทศไทยเราจมปลักกับขั้วการเมืองและการแบ่งสีทางการเมืองมานานร่วมยี่สิบปี ที่ผ่านมาเราบอบช้ำมาพอสมควรแล้ว  เราคิดว่า เราพร้อมจะร่วมงานกับทุกฝ่าย เราไม่ได้มองว่าเราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรอกเพราะว่าเราเป็นพรรคที่เพิ่งเกิด แต่ว่าถ้าเรามีโอกาสได้เข้าร่วมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน แต่หากเราสามารถนำนโยบายหลักของเราคือธนู 4 ดอกหรือว่าเรื่องการศึกษา หากพรรคเข้าไปร่วมงานด้วยแล้วสามารถที่จะผลักดันนโยบายหลักของพรรคได้ เราก็พร้อมยินดีที่จะร่วมกับมือกับทุกฝ่าย

 เราไม่อยากให้มองว่าจะเป็นอนุรักษ์นิยม เสรีนิยมประชาธิปไตย หรือหัวก้าวหน้าอะไรต่างๆ เรามองว่าทุกคนเป็นคนไทยมากกว่า อยากจะให้ทุกคนเดินไปด้วยกันจับมือด้วยกันคือเราต้องเป็นทีมไทยแลนด์ ซึ่งทีมไทยแลนด์ของเราตาม ซึ่ง motto ของพรรคเราก็คือ ไทยก้าวใหม่-ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง  เราเป็นคนไทยต้องเป็นทีมไทยแลนด์ต้องไปด้วยกัน

-หากหลังเลือกตั้ง ถ้าไทยก้าวใหม่ได้ส.ส.มาสักจำนวนหนึ่ง แล้วมีพรรคการเมืองจากสามพรรคใหญ่ (ภูมิใจไทย-ประชาชน-เพื่อไทย) เขาชวนให้ไปร่วมรัฐบาล ก็คือไม่ได้มีกำแพงทางการเมือง?

เราก็คุยกับทุกพรรค เราไม่ได้โจมตีพรรคไหนหรือว่า ปิดกั้นตัวเอง เพราะว่าเรามองว่าเราหาเสียงกับนโยบายมากกว่า ถ้านโยบายของพรรค สามารถถูกนำไปใช้ผลักดันเพื่อให้การศึกษาการเปลี่ยนแปลงได้ เราก็ยินดี

-ที่ผ่านมา พรรคการเมืองไทย ก็จะมีพรรคที่ตั้งขึ้นมาในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งหากไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะแยกย้าย ไม่เดินไปต่อหรือแม้แต่บางพรรคการเมืองตั้งพรรคขึ้นมา พอผ่านการเลือกตั้งสัก 1-2 สมัย ก็ไม่ไปต่อแล้ว เลิกทำแยกย้าย คล้ายพรรคเฉพาะกิจ ในส่วนของไทยก้าวใหม่ เคยคุยกันในพรรคหรือไม่ว่าตั้งพรรคขึ้นมาแล้ว จะมีความมั่นคง หากเลือกตั้งไม่ประสบความสำเร็จก็แยกย้าย หรือใช้วิธีไปรวมหรือพรรคอื่น?

ที่ผ่านมาเราก็เห็นหลายพรรคการเมือง ตั้งขึ้นมาแล้ว สักระยะก็ไปควบรวมอะไรต่างๆ ที่มีทั้งข้ามขั้วหรือขั้วเดียวกันบ้าง แต่ว่าไทยก้าวใหม่เราอยากทำพรรคการเมืองให้เป็นสถาบัน เพราะคนที่เข้ามาที่พรรคไทยก้าวใหม่มาด้วยจุดมุ่งหมายที่ตรงกัน ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ ที่จะเน้นนโยบายเรื่องการศึกษา เปลี่ยนชีวิตพลิกโฉมเศรษฐกิจให้ทันสมัย ก็คือเรามองว่าทุกคนมาด้วยใจ เราไม่ได้มีทุนจากไหน ทุกคนมาด้วยอุดมการณ์ที่อยากเปลี่ยนแปลงประเทศชาติ

ผมคุยกับหัวหน้าพรรค ดร.เอ้ หลายครั้ง ทางหัวหน้าพรรคบอกตลอดว่า หากวันหนึ่งข้างหน้า ไม่มีพี่เอ้ วันหนึ่งก็ต้องมีน้องๆ ทีมงานรุ่นใหม่ขึ้นมา ผมเองเห็นถึงความตั้งใจของหัวหน้าพรรค  เราสร้างพรรคกันมาเองจริงๆ กับมือ เราหาที่ทำการพรรคมาหลายที่ จนมีโอกาสได้ไปดูที่ ตึกไอ-ทาวเวอร์ ชั้น 14 ซึ่งเรารีโนเวททั้งชั้น ห้องทุกมุมหัวหน้าพรรคที่เป็นวิศวกรอยู่แล้ว ก็เขียนแบบออกแบบกันเอง เราใช้เวลาไม่ถึง 1 เดือน เราสร้างเสร็จทั้งหมดรวมถึงการวางระบบต่างๆ เราทุ่มกันทุกสรรพกำลัง เราจึงเห็นความตั้งใจของหัวหน้าพรรค เห็นถึงความตั้งใจของทีมงาน มองว่า ไม่ว่าจะได้ส.ส.หรือไม่ได้ส.ส. จะได้ร่วมงานเป็นรัฐบาลหรือจะเป็นฝ่ายค้าน หากอุดมการณ์ยังอยู่พรรคไทยก้าวใหม่ก็ยังคงอยู่ พรรคไทยก้าวใหม่จึงไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแน่นอน

โดยวรพล กิตติรัตวรางกูร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จบเลือกตั้ง 8ก.พ.2569 อนุทิน นายกฯรอบสอง

รายการ ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด สัมภาษณ์พิเศษซินแสชื่อดังที่ทุกคนรู้จักกันดี ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย-อดีตสมาชิกวุฒิสภา

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล

กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี

'อนุทิน' อ้อนชาวนครปฐม ยัน 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ใช่ประชานิยม

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่นครปฐมให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส. 6 เขต ย้ำทำงานเพื่อประชาชน ไม่หวังผลตอบแทน พร้อมแจงเหตุไม่เข้าร่วมดีเบต เพราะต้องลงพื้นที่คารวะทหารกล้า และเผยคนชายแดนได้กลับบ้านฉลองปีใหม่

เชียงใหม่คึกคัก 'มาดามหยก' นำทีมก้าวอิสระ สมัครสส. ลุยเปลี่ยนเมือง

นางสาวกชพร เวโรจน์ (มาดามหยก)หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ (Indy) นำทีมผู้สมัครสส.ของพรรคมาสมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยเขต 2 เบอร์

วันแรกคึกคัก 'ลูกหมี' นำทัพภูมิใจไทย ล้นห้องประชุมชุมพร

วันแรกรับสมัคร สส.ชุมพร เขต 1-3 “ลูกหมี” บ้านใหญ่ชุมพร นำทีมภูมิใจไทยลงครบทั้ง 3 เขต ท่ามกลางกองเชียร์แห่ให้กำลังใจแน่นห้องโถง ขณะ