ดูกังหันลมชมดอกทิวลิป ‘อัมสเตอร์ดัม’ในฤดูใบไม้ผลิ

ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า ฮอลแลนด์ คือหนึ่งในประเทศโซนยุโรปที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะคนไทยและชาวเอเชีย ยิ่งคนที่ชอบดอกไม้ ชอบสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คน เนเธอร์แลนด์คือประเทศที่นักท่องเที่ยวจะนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ ที่สำคัญเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่สามารถไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูจะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป

ฤดูใบไม้ผลิ จะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ไฮไลต์อยู่ที่การชมความงามของดอกไม้ โดยเฉพาะที่ เคอเคนฮอฟ สวนพฤกษศาสตร์ และสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เทศบาลลิสเซอ ภายในสวนจะมีทุ่งทิวลิปกว่า 800 สายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งดอกลิลลี่ ดอกแดฟโฟดิล ดอกไฮยาซินธ์ ให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉม และถ่ายรูปสวยๆ กันอย่างจุใจได้ทั่วทุกมุมของสวนแห่งนี้

และไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่นิยมไป คนเนเธอร์แลนด์เองก็ไปที่นั่นกัน เพราะสถานที่แห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมปีละครั้ง จากนั้นจะตัดดอกไม้ กว่าจะได้เดินเข้ามาในสวนแห่งนี้อีกต้องรออีก 1 ปี โชคดีที่เราไปกันก่อนวันที่เขาจะปิดเพียง 5 วันเท่านั้น

โดยที่เมืองอัมสเตอร์ดัมจะมีตลาดดอกไม้ลอยน้ำเก่าแก่ Bloemenmarkt ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ค.ศ.1862 ตลาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์จำหน่ายหลักของดอกไม้ใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม สามารถไปซื้อดอกไม้และเดินเยี่ยมชมบรรยากาศการซื้อขายได้ ซึ่งที่นี่ยังมีแผงขายของที่ระลึกให้ซื้อกลับมาฝากคนที่บ้านด้วย

แต่หากอยากดูระบบการประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถไปที่ Flora Holland Aalsmeer ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าดอกไม้และพืชต้นจากทั่วโลก มีการจัดทำระบบประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ประกอบการและผู้ค้าสามารถซื้อขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบขนส่งที่ใหญ่และเชื่อถือได้สำหรับการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทางทั่วโลก

ที่เนเธอร์แลนด์ไม่ได้มีเพียงความงามของดอกไม้เท่านั้น แต่ยังมีการวิจัยและพัฒนาการปลูกพืชสวนเรือนกระจกระดับนานาชาติให้ไปศึกษาดูงาน เพื่อนำมาต่อยอดในประเทศไทยได้อีกด้วย

โดยที่ World Horti Center (WHC) แห่งนี้เป็นศูนย์นวัตกรรมชั้นนำในภาคส่วนพืชสวนเรือนกระจกระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทนวัตกรรมกว่า 100 แห่งจากภาคส่วนพืชสวนและเรือนกระจก

นอกจากพืชผลทางการเกษตรและดอกไม้ วิถีชีวิตของผู้คนเนเธอร์แลนด์ยังน่าสนใจ พวกเขาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ปรับตัวอยู่กับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จากประเทศที่เผชิญน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล วันนี้กลายเป็นประเทศที่มีการบริหารจัดการน้ำได้เป็นเบอร์ต้นๆ ของโลก

หากใครอยากเยี่ยมชมวิถีชีวิตคนเนเธอร์แลนด์ในอดีต ซึ่งยังมีการอนุรักษ์อยู่ที่ หมู่บ้านกังหันซานส์สคันส์ ตอบโจทย์ได้ เพราะเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์กังหันลมเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นสถานที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของกังหันลม ซึ่งความลงตัวของหมู่บ้านนี้อยู่ที่สร้างขึ้นในสไตล์ไม้

อีกจุดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้คือ ชีส ที่มีการสาธิตกระบวนการผลิต รวมถึงจัดจำหน่ายขนมที่ทำจากชีสให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย ไปหมู่บ้านกังหันซานส์สคันส์แล้ว อีกจุดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ หมู่บ้านกีธูร์น ที่เมืองซโวลเลอ และสตีนวิก หมู่บ้านแห่งสายน้ำอันแสนสงบ กีธูร์นได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านไร้ถนน เพราะผู้คนที่นี่ยังใช้การสัญจรทางเรือเป็นหลัก มีคูคลองเล็กๆ ให้นั่งเรือลัดเลาะรอบหมู่บ้าน 

ระหว่างนั่งเรือบริการนักท่องเที่ยว เยี่ยมชมวิถีชีวิตรอบๆ หมู่บ้าน จะเห็นเรือแต่ละครัวเรือนจอดอยู่หน้าบ้านแทบจะทุกหลัง บ้านของคนที่นี่ตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปตะวันตก ขณะเดียวกันมีการตกแต่งหน้าบ้านด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม และเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดให้ความร่มรื่นสำหรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ จิบชา กาแฟ เคียงด้วยวาฟเฟิล ขนมขึ้นชื่อของคนเนเธอร์แลนด์ 

ตลอดคูคลองเล็กๆ ที่เพียงพอสำหรับให้เรือสองลำวิ่งสวนกันได้ จะมีสะพานไม้เล็กๆ กว่า 100 สะพาน เชื่อมกันระหว่างบ้านเรือนเพื่อให้ข้ามไปมาหาสู่กัน หากใครสนใจประวัติศาสตร์ ที่หมู่บ้านกีธูร์นมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานโบราณวัตถุ บอกเล่าประวัติความเป็นมาไม่ต่ำกว่า 100 ปี

สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนชานเมืองและวิถีเกษตรกรแล้ว กรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นอีกแห่งที่ควรเข้าไปซึมซับบรรยากาศ โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่ยังคงเสน่ห์และวิถีชีวิตในอดีตเอาไว้ เริ่มที่ จัตุรัสดัมสแควร์ ศูนย์กลางของเมืองอัมสเตอร์ดัม ย่านนี้เราสามารถเดินเล่น ซื้อขนม และนั่งคาเฟ่ ขณะเดียวกันยังเหมาะแก่สายช็อปปิ้ง มีตั้งแต่สินค้าแบรนด์เนมระดับโลก และแบรนด์ชั้นนำมากมายให้เลือกสรร ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมกันมากบริเวณรอบๆ

ไฮไลต์สำคัญของกรุงอัมสเตอร์ดัมคือ กิจกรรมล่องเรือชมเมือง โดยจะล่องเรือในช่วงเช้า บ่าย หรือค่ำ ล้วนเพลิดเพลิน และได้เสน่ห์ของเมืองในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ผ่านสถานที่สำคัญอย่างพิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์ และสะพานสกินนี และตลอดเส้นทางเราจะได้รู้จักประวัติศาสตร์ของเมืองอัมสเตอร์ดัมและสถานที่ต่างๆ ผ่านระบบบรรยายเสียงถึง 19 ภาษา

โดยจุดสิ้นสุดของการล่องเรือจะอยู่ที่ House of Gassan โรงงานเจียระไนเพชรแบบไอน้ำเก่าในกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการเจียระไนเพชร การขายส่ง การขายปลีกเพชรแท้ เพชรทองคำ และนาฬิกา ซึ่งเดิมเป็นธุรกิจของครอบครัว

สำหรับ การเดินทางไปเนเธอร์แลนด์นั้นเดี๋ยวนี้ไม่ยากเย็น มีทั้งสายการบินที่บินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัมโดยตรง หรือแบบเปลี่ยนเครื่อง จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปต่อเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม

เนเธอร์แลนด์ มหาเสน่ห์แห่งยุโรปที่รอท่านไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชวนปักหมุดเที่ยวอุทยานฯ สัมผัสอากาศหนาว-เดินเส้นทางธรรมชาติ

รัฐบาลเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั่วประเทศในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย

“อรรถวิท รักจำรูญ” ผุดโปรแกรมเอาใจสายมู ชวนนั่งรถ บขส.เที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ

หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะต่างหากลยุทธ์ในการปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อจูงใจให้ผู้โดยสารมาใช้บริการ เช่นเดียวกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)