
ประกาศตัวไปอีกคนสำหรับ "เดอะจั้ม" นายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.ปชป. อดีตแกนนำ กปปส. อดีตสมาชิกพรรค พปชร. และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ยุค พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่จะร่วมชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ที่คาดการณ์วันเลือกตั้งจะมีขึ้นไม่วันที่ 22 หรือ 29 พ.ค.65 นี้
นายสกลธีมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นๆ ของวันที่ 24 มี.ค.65 นี้ ณ ร้านบางรัก ริเวอร์วิว ย่านบางรัก โดยชูสโลแกนว่า "กทม.More >" อันหมายถึงกรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้ ภายใต้นโยบาย 6 ด้านที่ครอบคลุมวิถีความเป็นอยู่ของชาวกรุงเทพฯ
อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ในนามอิสระ โดยตัวเขาเผยว่า ไม่อยากให้ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นี้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในภาพใหญ่ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง คนสีเสื้อต่างๆ มาเป็นเวลานานแล้ว
"สาเหตุลงเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แห่งนี้ เพราะว่าหลังจากที่ชิมลางงานทั้ง ส.ส.กทม.และรองผู้ว่าฯ กทม.แล้ว เห็นว่าการทำหน้าที่บริหาร กทม.สามารถช่วยเหลือชาวกรุงเทพฯ ได้มากกว่าและรวดเร็วกว่าตำแหน่ง ส.ส.กทม. เพราะส่วนมากเป็นงานด้านนิติบัญญัติมากกว่า"
สำหรับนายสกลธี ในวัยย่าง 45 เป็นบุตรคนโตของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตเลขาธิการ คมช. ยุค พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ปี 49 จบปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ปริญญาโทด้านกฎหมาย 2 ใบที่มหาวิทยาลัยอินดีแอนา และมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน
คนส่วนมากรู้จัก คือเป็นแกนในกลุ่ม 4 ทหารเสือ กปปส. ร่วมชุมนุมประท้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในปี 56 และ 57 และในเดือนเมษายนปี 61 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ของชุดผู้ว่าฯ กทม. อัศวิน ขวัญเมือง โดยเจ้าตัวบอกได้รับความไว้วางใจจาก “ผู้ใหญ่” ในทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่การทาบทามจาก พล.ต.อ.อัศวิน
ต่อมาเขาเข้าสังกัดสมาชิกพรรค พปชร. และสุดท้ายกราบลา "ลุงตู่" "ลุงป้อม" และยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. เพื่อชิงพ่อเมืองเสาชิงช้า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.65 ที่ผ่านมา
“ได้คุยเรื่องการสมัครผู้ว่าฯ กทม.กับคุณพ่อ และท่านก็เป็นห่วง อีกทั้งยังถูกปรามาสว่าจะชนะหรือ แต่ตัวผมบอกไปว่า เมื่อตั้งใจกระทำสิ่งใดแล้ว จะทำให้ดีที่สุด ไม่มีสิ่งใดที่ดูแล้วจะได้มา 100% หรอกครับ ต้องสู้ให้ถึงที่สุดก่อนจึงจะทราบ” นายสกลธีกล่าวปิดท้าย.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กัดไม่ปล่อย
ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

