ลั่นกลองศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ หลังจากผู้สมัคร “ตัวเต็ง” จับได้หมายเลขประจำตัวกันครบแล้ว คนที่เฮงสุดคงเป็น วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่จับได้หมายเลข 1 ง่ายในเชิงการตลาดและภาพจำของฐานเสียง ขณะที่ “เดอะจั้ม” สกลธี ภัททิยกุล จับได้หมายเลข 3 ต้องพลิกแพลงการชูนิ้วเล็กน้อยเป็นสัญลักษณ์ “โอเค” แทนการชูสามนิ้วที่ถูกมองว่าอยู่กันคนละขั้ว ส่วน "ดร.เอ้" สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จับได้หมายเลข 4 ที่อาจไม่ค่อยได้ดั่งใจแม่ยก แต่ก็ยังมีข้อดีที่ได้เบอร์เป็นเลขตัวเดียว พอใช้ได้ในทางการตลาด ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จับได้หมายเลข 6 หลังจากตอนแรกที่งงๆ กับหัวหางเลข 9 แต่พลิกเป็นแคมเปญผู้ว่าฯ ปีที่ 6 ได้ในฉับพลัน ทางด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้หมายเลข 8 เป็นที่พอใจของทีมงานที่ได้เบอร์สวยมาขึ้นป้าย อย่างไรก็ตามบรรยากาศภาพรวมคึกคักรับฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งพรรค ทั้งกลุ่ม และผู้สมัครอิสระ แต่ที่ต้องย้ำให้ระวังเป็นพิเศษน่าจะเป็นข้อยกเว้นตามกฎหมายที่ทุกคนต้องศึกษา และระมัดระวังกันให้ดี ไม่เช่นนั้นจะ “ตายน้ำตื้น”
เดาทางกันเองว่า “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เทใจให้ใคร... หลังได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานครว่า “เขาคงไม่ได้เชียร์ตน คงไปเชียร์คนรับสมัครเลือกตั้งใช่หรือไม่ ขอให้ทุกคนใช้สติและปัญญาในการใคร่ครวญ การเลือกใครอะไรต่างๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญคือคนที่จะเข้ามารับหน้าที่เหล่านั้นเป็นคนที่มีคุณภาพหรือไม่ เป็นคนที่เป็นแบบอย่างสังคมหรือไม่ เป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีหรือไม่ เรื่องความความสามารถโอเคทุกคนเข้าเกณฑ์หมด อย่างที่ตนได้กล่าวมาแล้ว การคิดกับการพูดฟังแล้วดูดีถ้าเทียบกับการที่ตนพูด หลายคนบอกตนพูดได้ไม่ดี แต่ตนอยากรู้ว่าสิ่งที่พูดกับสิ่งที่คิดมันทำได้จริงหรือไม่ และสิ่งที่เขาทำมาจนถึงทุกวันนี้มันอยู่ตรงไหน ฉะนั้น ถ้าจะหาเสียงลองถามต่อไปสิว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง เขารู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อตรงนั้น หรือจะทำอะไรใหม่ ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร .....ฝากถึงประชาชน เราต้องเลือกนักปฏิบัติที่ทำงานได้จริง ทำงานได้สำเร็จ มีผลงานปรากฏไม่ว่าจะอาชีพใดก็แล้วแต่”
เหตุ ฟ้าผ่าที่สนามเป้า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จน“บิ๊กตี๋” พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ ต้องลุกจากเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 วันที่ 7 ก.พ.นี้ ตามคำสั่งของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ท่ามกลางกระแสข่าวภายนอกเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาระหว่าง “ผู้ผลิตรายการร่วม” กับ ททบ.5 ยังคลุมเครือ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ กองทัพบกเผยแพร่ข้อความขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแก้ไขให้มีการนำเสนอข่าวอย่างสมดุล ภายใต้นโยบายสื่อสาธารณะของสังคม วันเดียวกันยังปรากฏข้อความของ “เอ็ดดี้” อัษฎางค์ ยมนาค ที่แจ้งข่าวว่า “ท็อปนิวส์” ได้อยู่ทำข่าวกับ ททบ.5 ต่อไป จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยยกเลิกสัญญากับบริษัท กาแล็กซี่ มัลติมีเดียคอร์ปอเรชั่น หรือ GMC แล้วมาทำสัญญากับท็อปนิวส์โดยตรง อีกทั้งอนุญาตให้ท็อปนิวส์ทำข่าวได้ปกติเหมือนเดิม โดยจะมีการปรับผังรายการใหม่ และมีแนวโน้มว่าจะให้เวลาเพิ่มขึ้น ตบท้ายด้วยการวิเคราะห์ว่าเหตุที่เกิดเป็นปรากฏกาณ์เลื่อยขากันเอง หวังกำจัด ผอ.ททบ.5 ให้พ้นจากหน้าที่ พร้อมกับท็อปนิวส์ ที่ทำอะไรเกินหน้าเกินตาขาใหญ่เด็กลุง.....(อีกแล้ว)
ประชุมใหญ่สามัญพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา ยังไม่มี "บิ๊กเซอร์ไพรส์” เปิดตัวหัวหน้าพรรค ที่ว่ากันว่าล็อกชี่อ "ต.ตุ๋ย" พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค สายตรงตึกไทยคู่ฟ้าไว้แล้ว วาระเป็นการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไปพลางก่อน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าจะมีการเปิดตัวแกนนำสำคัญของพรรคในช่วงเดือน พ.ค. หรือ มิ.ย.65 หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้พรรค จะยังใช้โลโก้เดิม รวมถึงที่ทำการพรรคยังใช้ที่ทำการ จ.นครราชสีมา ไม่มีการย้ายที่ทำการพรรคมาที่ซอยอารีย์สัมพันธ์แต่อย่างใด.
วายุ เวฬุวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


