การหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ แต่ดูแล้วการหาเสียงคงเข้มข้นมากขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะช่วงสองสัปดาห์สุดท้าย ระหว่างนี้แต่ละคนก็เร่งหาเสียงเก็บคะแนนกันไปก่อน แม้ล่าสุดผลสำรวจของ "นิด้าโพล” จะออกมาแบบเดิมอีกรอบว่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระยังคะแนนนำเช่นเดิม ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังไงก็ทำให้ผู้สมัครอิสระรู้สึกใจแป้วพอสมควร โดยเฉพาะคนที่คะแนนหลังสมัครแล้วไม่ดีดขึ้นเท่าที่ควร โดยรายละเอียดของนิด้าโพลดังกล่าวระบุว่า เป็นการสำรวจเรื่อง สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 65 รอบที่ 1 สำรวจระหว่างวันที่ 5-7 เม.ย.2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,362 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
....ผลสำรวจออกมาว่า จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.84 ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (อิสระ) เพราะเป็นคนเก่ง มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ ตั้งใจในการทำงาน และลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 26.58 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 3 ร้อยละ 10.06 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (อิสระ) เพราะเป็นคนมีประสบการณ์ บริหารงานเก่ง และสามารถสานต่องานได้อย่างต่อเนื่อง อันดับ 4 ร้อยละ 6.83 ระบุว่าเป็น ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ และสามารถพัฒนาให้กรุงเทพฯ มีความเจริญก้าวหน้าเทียบเท่าต่างชาติได้ อันดับ 5 ร้อยละ 6.02 ระบุว่าเป็น ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน.
...ส่วนคนที่คะแนนนิยมรองๆ ลงมาก็ตามนี้คือ อันดับ 6 ร้อยละ 2.94 ระบุว่าไปลงคะแนน ไม่เลือกใคร (Vote NO) อันดับ 7 ร้อยละ 2.28 ระบุว่าเป็นนายสกลธี ภัททิยกุล (อิสระ) เพราะมีประสบการณ์ในการบริหารงาน และช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง อันดับ 8 ร้อยละ 2.06 ระบุว่าจะไม่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง อันดับ 9 ร้อยละ 1.98 ระบุว่าเป็น น.ส.รสนา โตสิตระกูล (อิสระ) เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์ ทำงานดี มีผลงาน และเป็นคนมีวิสัยทัศน์ อันดับ 10 ร้อยละ 1.47 ระบุว่าเป็น น.ต.ศิธา ทิวารี (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะชื่นชอบนโยบายและเชื่อมั่นในพรรคไทยสร้างไทย และร้อยละ 0.94 ระบุว่าอื่นๆ ได้แก่ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล (อิสระ) น.ส.วัชรี วรรณศรี (อิสระ) นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ (อิสระ) ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ (อิสระ) ดร.ประยูร ครองยศ (อิสระ)นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ (อิสระ) และ ดร.ภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ (อิสระ)...อย่างไรก็ตาม เมื่อการแข่งขันยังอยู่ ยังไม่หมดเวลา ผู้สมัครแต่ละคนก็คงไม่หมดหวัง และคงเร่งหาเสียงโกยคะแนนต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในอันดับรองๆ ต่อจากชัชชาติ ที่ยังหวังจะเจาะคะแนน "กลุ่มผู้ยังไม่ตัดสินใจ” เพราะคาดหวังว่าเกมอาจพลิกในช่วงโค้งสุดท้าย
...ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ครบรอบเหตุการณ์ 10 เม.ย.53 ที่กลุ่มนักการเมือง อดีตแกนนำเสื้อแดง มีการจัดกิจกรรมกันที่อนุสรณ์สถานสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน แต่ที่อาคารพีซทีวี ซอยรามอินทรา 40 ก็มีการจัดเช่นกัน เพราะแกนนำ นปช.ตอนนี้แตกออกไปสองกลุ่มหลักคือ กลุ่มของจตุพร พรหมพันธุ์ กับกลุ่มของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งการจัดงานที่อาคารพีซทีวี จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพใหญ่โดยมีการทำบุญถวายสังฆทานพระสงฆ์ 9 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว
...จากนั้น เดอะตู่-จตุพร วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองครั้งแรกหลังออกจากเรือนจำครั้งล่าสุด ว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ จะต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนสภาเปิด ปัญหาคือฝ่ายค้านอย่าผิดสัญญา ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 23 พ.ค. เพราะแน่นอนที่สุดถ้ายื่นไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถยุบสภาได้ แต่ถ้ายืดไปเดือน ส.ค. สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนอีก พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีวันอยู่ครบ 8 ปี เหตุผลนั้น พล.อ.ประยุทธ์รู้แก่ใจมากที่สุด ว่าท้ายที่สุดนั้นการเมืองภายใต้ผลประโยชน์ที่เอื้อต่อทุนจนประเทศอยู่ในสภาพที่ยากลำบากที่สุดเป็นปัจจัยภายในที่เลวร้ายที่สุด และย้ำว่า “ผมไม่ได้หายไปไหน แต่คิดอยู่ว่าจะออกมาเมื่อไหร่ บัดนี้พร้อมแล้ว และพร้อมจะต่อสู้เพื่อให้ประเทศเกิดความเปลี่ยนแปลงตามความฝัน ตามเจตนารมณ์ของวีรชน ไม่ว่าจะในเหตุการณ์ใด”....ก็เป็นมุมวิเคราะห์การเมืองของจตุพร ที่หลายครั้งก็วิเคราะห์ไม่ตรง อ่านสถานการณ์ผิด โดยเฉพาะเวลาออกมาวิเคราะห์แต่ละรอบว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่รอด ในหลายช่วงหลายตอน แต่สุดท้ายก็รอดฉลุยทุกครั้ง...
หินกลิ้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



