ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด เมื่อวันอังคาร บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นั่งเป็นประธานที่ประชุม ครม. ก่อนจะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริการะหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.นี้ ตามคำเชิญของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษครั้งที่ 2 ณ กรุงวอชิงตัน ขณะที่กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ จัดรายการเวทีสาธารณะ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เรื่อง “อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน" แม้รัฐบาลจะมั่นใจว่านายกฯ ไม่ถลำเลือกข้างฝ่ายใดจนนำพาชาติไปสู่ความขัดแย้ง และเป็นเวทีส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ แต่ยุทธศาสตร์สหรัฐต้องการประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนตั้งป้อมล้อมจีนอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามองในเชิงบวก การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนก็เป็นผลดีที่รัฐบาลนำไปต่อรองถ่วงดุลได้ว่าคนไทยไม่ใช่ลูกไล่อเมริกา...0
วันที่ 12-13 พ.ค.นี้ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ได้เป็นนายกฯ สำรองแล้วในฐานะรองนายกฯ ลำดับที่ 1 เมื่อนายกฯ ประยุทธ์ไปเยือนต่างประเทศ ลุงป้อม ก็รักษาราชการแทน ส่วนนายกฯ คนนอกที่จะมาตามรัฐธรรมนูญ ม.272 วรรค 2 คงยังอีกไกล ส่วนที่ฝ่ายค้านเสี้ยมพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะถอนตัว แต่แกนนำพรรคร่วมก็ไม่รับมุกด้วย และมั่นใจว่ามี ส.ส.เกิน 250 เสียง ส่วน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อ้างว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย จะไปร่วมวงกินข้าวกับพรรคเล็กและฝ่ายค้าน แม้ ลุงป้อม จะบอกว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส แล้วเขาไม่ไป แต่ก็ต้องรอดูว่า ร.อ.ธรรมนัสจะว่าอย่างไร?...0
กรณีแพลตฟอร์มสินค้าออนไลน์ ลาซาด้า ลงโฆษณาไม่เหมาะสมจนเกิดกระแสต่อต้าน กระทั่ง ผบ.เหล่าทัพนำโดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ประกาศบอยคอตลาซาด้า ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญหรือไร้เดียงสา เพราะผู้บริหารลาซาด้าและบริษัทเอเยนซีโฆษณามีจุดยืนทางการเมืองแบบเดียวกับ กลุ่ม 3 นิ้ว และ พรรคก้าวไกล ที่ชูธงปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงมีเจตนาต้องการเลือกข้างทางการเมืองหรือไม่ ขณะที่แกนนำกลุ่ม 3 นิ้วและนักการเมืองพรรคก้าวไกลก็ออกมาปกป้องลาซาด้า เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายอานนท์ นำภา, นายเพชร กรุณพล แสดงว่าบุคคลเหล่านี้เห็นด้วยกับการบูลลี่ ละเมิดสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ย้อนแย้งกับที่พวกตัวเองชอบอ้างเรื่อง ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน คนเท่ากัน และยิ่งเป็นการบูลลี่สถาบันเบื้องสูง คนไทยส่วนใหญ่คงสุดจะทน เท่ากับปลุกความเกลียดชัง สร้างเงื่อนไขความรุนแรง ยึดอัตตาตนเอง เดินหลงเข้าสู่จุดอับเรื่อยๆ...0
สังคมไทยคงป่วยกันทุกวงการ แม้แต่วงการพระสงฆ์ หลังเกิดข่าวฉาว "สมีกาโตะ" เสพเมถุนยักยอกเงินวัดไปใช้ส่วนตัว ล่าสุดที่ จ.ชัยภูมิมีผู้ตั้งตนเป็นพระบิดา รับรักษาโรคทุกชนิดโดยการให้ผู้ป่วยกินปัสสาวะ กินอุจจาระ มีสาวกหลงเชื่อจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวใน ครม.ว่า “ผมไม่เข้าใจพวกพระบิดาอะไรเนี่ย ที่เอาอะไรไปให้กินกัน ทั้งน้ำเน่า ทั้งอะไรต่ออะไร ทุเรศ ทำไปได้อย่างไร สร้างความเสียหาย ไม่เข้าใจว่าทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ ทำไมถึงยังมีคนเชื่ออยู่” ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวติดตลก “ชาวบ้านเรียกพระบิดา แต่ศรีธัญญาเรียกว่าคนไข้” ทำให้ที่ประชุม ครม.ต่างพากันหัวเราะชอบใจ เรื่องดังกล่าวเท่ากับประจานความล้าหลังของกลไกราชการ ที่ปล่อยให้ "หมอผี-หมอปลา" นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง-ตำรวจบุกเข้าไปตรวจ และเจอร่างผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย บรรจุอยู่ในโลงศพ แล้วที่ผ่านมา จนท.มุดหัวอยู่ที่ไหน ครม.ไม่คิดจะขันนอตระบบราชการให้เป็นที่พึ่งของประชาชนบ้างหรือ แทนที่จะให้ไปพึ่ง หมอผี หรือว่า ครม.ป่วยเหมือนกัน?...0
เช่นดียวกับคดีการเสียชีวิตของ แตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง หลังตำรวจภูธรภาค 1 สรุปสำนวนส่งอัยการ แล้วอัยการตีกลับให้สอบสวนเพิ่มเติม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แถลงเปิดโปงข้อพิรุธการเสียชีวิตของแตงโม แฉว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายบิดเบือนข้อมูลช่วยเหลือผู้ต้องหา และมีการขโมยศพเป็นฆาตกรรมอำพราง พร้อมกับร้อง ปปป.เอาผิดหมอนิติเวช รพ.ตำรวจออกเอกสารเท็จ แม้จะจินตนาการเกินไป แต่เมื่อประชาชนไม่เชื่อตำรวจก็หันไปเชื่อนายอัจฉริยะ เพราะพึ่งพากลไกราชการไม่ได้ ส่วน ลุงตู่ ก็เอาแต่บ่นพึมพำมา 8 ปี ไม่ได้ทำให้ระบบราชการเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ จึงหันไปพึ่ง หมอผี-หมอความ กันอย่างที่เห็นๆ...0.
แซมซาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น
บันทึกหน้า 4
ยังไม่ถึงเวลา! วันศุกร์นี้ "รัฐบาลอนุทิน" ยังคาดเข็ดขัดนิรภัยต่อ แม้ "นายกฯ หนู" จะบอกว่าพร้อมยุบสภาทุกเมื่อ เตรียมพระราชกฤษฎีการอไว้แล้ว ถึงจะเลื่อนเร็วขึ้นจากไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค. 69 แต่ไม่ใช่ 12 ธ.ค.


