เผลอ..หลุดพ้นตัวกู-ของกู?

จำเริญๆ ร่ำรวยยิ่งๆ ขึ้นเถิดพ่อคุณ!

ผมหมายถึงฝรั่งนักบุญนาม “บิล เกตส์” มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ น่ะ!

หลายวันมาแล้ว เห็นข่าวที่ผู้จัดการออนไลน์รายงาน..มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ ซึ่งก่อตั้งมูลนิธิบิลแอนด์เมลินดาเกตส์ ในปี 2000 กล่าวว่า..

มูลนิธิจะเพิ่มการใช้จ่ายจาก 6 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในปัจจุบัน เป็น 9 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในปี 2026

“เพื่อทำให้สามารถเพิ่มการใช้จ่ายได้ตามนี้ ผมจะโอนเงินเข้ากองทุนของมูลนิธิ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนนี้" เกตส์ประกาศทางทวิตเตอร์ และอธิบายต่อว่า

"เมื่อผมมองไปยังอนาคต ผมมีแผนที่จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดของผมให้มูลนิธิ ผมจะได้ออกจากรายชื่อบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกเสียที

ผมมีหน้าที่จะต้องคืนทรัพย์สมบัติของผมแก่สังคมเพื่อช่วยลดความทุกข์ยากและพัฒนาชีวิตให้ได้มากที่สุด

และผมหวังว่าผู้ที่มีทรัพย์สมบัติและสิทธิพิเศษคนอื่นๆ จะก้าวออกมาในเวลานี้ด้วยเช่นกัน”

ครับ..ตั้งแต่เกิดจากท้องแม่ เพิ่งจะครั้งแรกนี่แหละที่ได้ยิน.. “ผมมีหน้าที่จะต้องคืนทรัพย์สมบัติของผมแก่สังคมฯ” จากปากมนุษย์คนหนึ่ง

ไม่ได้เกี่ยวกับรวย-จนหรอกนะ แต่มันทำให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่หลุดพ้นแล้วจาก “ตัวกู ของกู” ดังท่านอาจารย์พุทธทาสได้เทศนาย้ำอยู่ตลอดจวบจนมรณภาพ..

“ตัวกู-ของกู เป็นตัวการของความทุกข์ คือความรู้สึกที่เห็นแก่ตัว โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือความผิดชอบชั่วดี เป็นต้นเหตุหรือตัวการที่บันดาลให้ความทุกข์ทั้งปวงเกิดขึ้นในโลกนี้”!

นี่..ที่หยิบมาคุยก็ไม่ได้จะดรามา แต่ถ้าเศรษฐีผู้มีเงินทองทรัพย์สินศฤงคารกินจนชั่วลูกชั่วหลานเหลนโหลนไปอีกโคตรๆ ได้คิด-ทำเสียสักนิดนึง..

ก็คงไม่ต้องหนีคุก ระเห็จระเหิน เร่ร่อน เป็นผีไม่มีศาล เป็นมารให้คนเขาเกลียด เขาด่า สาปแช่งอยู่อย่างทุกวันนี้!

และไม่แต่เฉพาะเศรษฐีคนนั้น..บรรดาคนรวยในเมืองไทยอีกก่ายกอง หากจะได้หลุดพ้นเหมือน “บิล เกตส์” บ้างสักรายสองราย…

ก็น่าจะพอช่วยลดความทุกข์ยาก และพัฒนาชีวิตคนไทยได้ไม่มากก็น้อยนะ!

หรือกระทั่งวัด (แวะหานรกจนได้) ที่มีทรัพย์สินเงินทองเก็บอยู่มากมาย หากเหลือใช้จากการบูรณะ-จรรโลงพุทธศาสนา จะคืนให้แก่สังคมเสียหน่อย ก็จะเป็นแบบอย่างการหลุดพ้น..

เจ้าอาวาสก็ไม่ต้องคอยแบกทุกข์อยู่กับ “ตัวกู-ของกู” ให้หนักอึ้งเหมือนดัง (บางวัด) ที่เป็นอยู่!

ส่วนนักการเมืองน่ะ ผมเห็นจะไม่ขอ เพราะทุกวันนี้พวกท่านก็ได้ชื่อเป็น “ผู้เสียสละ” เพื่อประชาชน และดูจะหลุดพ้นตัวกู-ของกูกันแทบทั้งสภา..

ไม่มีใครแบกทุกข์ ไม่มีใครที่เห็นแก่ตัว คำนึงถึงศีลธรรม-จริยธรรม และความรับผิดชอบชั่วดีอยู่ในจิตใจตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นยันหลับ (ในสภา) อีกอย่างที่เห็นเป็นประจักษ์..

แต่ละท่านไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย ขนาดข้าวปลาอาหาร (ฟรี) ก็ยังแอบขนเอากลับบ้านไปฝากลูก-ฝากเมีย-ฝากผัวอยู่เลย ช่างน่าเวทนานัก!

อย่างงี้.. จะไปเรียกร้องให้พวกท่านผู้ทรงเกียรติบริจาคเงิน-บริจาคทองอีก ก็ดูจะเห็นแก่ได้มากไป แค่ยอมเสียสละ-อุทิศตัว อาสาเป็นผู้แทนเข้าไปนั่งในสภา..

เพื่อเป็นปาก-เป็นเสียงให้กับประชาชน ไม่สนเรื่องกล้วย ไม่แคร์เรื่องตำแหน่ง-อำนาจ ก็ถือเป็น “บุญคุณ” ที่ต้องจดจำอยู่ในใจตลอดกาล!

เอ้า..ผมหลุดพ้นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระวังจะโดนย้อนศร

เรื่องนี้ต้องขยาย.. ผมหมายถึง “ยอดคนตาย” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่น่ะ เพราะหลังจาก นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลง..

ต่างฝ่ายต่างโกง?

ดารา-นักแสดงถูกเบี้ยวค่าตัว! ความจริงก็ใช่ว่าเพิ่งมาเกิดเอายุคปัจจุบัน-ตอนนี้..สมัยนู้นนน ในยุคพระเอก-นางเอกคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์” และ “สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์”..

ความคิดหลุดโลก?

แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก.. “อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”

‘ตลก’ไม่ทิ้งกัน!

“เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว” นี่.. “นายกแป้น” คุณณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้บอกผู้สื่อข่าว หลังจากที่ประกาศก่อนหน้าว่า..

เขต 8 แดนเจอรัส?

น้ำลด..เขต 8 โผล่! ทีนี้ ก็เป็นหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” แล้วล่ะ จะปฏิบัติการกวาดล้างพวก “มนุษย์ขยะ” เฮงซวย-เส็งเคร็ง ที่สร้างความเสื่อมเสียให้ชาวเมืองหาดใหญ่กันอย่างไร?

‘กับดัก’ ความเชื่อมั่น?

สส.จังหวัดสงขลา มี 9 คน 9 เขต.. พรรคประชาธิปัตย์ยึดไป 6 เขต 6 คน ที่เหลือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย แบ่งกันไปเขตละคน