'ทำไมทำกับน้องได้?'

เราเลือกการต่อสู้เพื่อ 'ล้มกฎหมาย' เผด็จการ

ยืนยัน 'พรรคเพื่อไทย' ไม่ได้รวมหัวกับ 'พรรคพลังประชารัฐ' เราคิดของเราก่อน แต่สุดท้าย 'พรรคอื่น' เข้ามาร่วมด้วย"

ก็จะแจ้ง...

"จากเพื่อไทย" ฝ่ายค้าน ระบอบทักษิณ ที่ต้องการหาร  ๑๐๐ เพื่อแลนด์สไลด์

กับ "พลังประชารัฐ" ฝ่ายรัฐบาล ระบอบประวิตร ที่โลไป เลมา จากเดิมหาร ๑๐๐ แล้วกลับไปหาร ๕๐๐
สุดท้าย ไม่รู้ผีห่าซาตานตนใดดลใจ ตวัดหางกลับไปหาร  ๑๐๐ อีก

จึงเกิด "ปฏิบัติการร่วม" ระบอบทักษิณ+ระบอบประวิตร "ล่มประชุมรัฐสภา" นัดที่แล้ว

หวังดึงให้เลยเวลา ๑๘๐ วัน "ร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง หาร ๕๐๐" จะได้ตกไป

เพื่อย้อนกลับไปเอา "ร่างเดิม" ที่หาร ๑๐๐ มาใช้แทน!

ชลน่านยืดอกพูดสง่างาม.....

นี่คือการต่อสู้ตามช่องทางรัฐธรรมนูญ เพื่อล้มกฎหมายเผด็จการ!

เอากะมันซี ด้านซะอย่าง พูดยังไงก็ได้

"โดดประชุม" เพื่อทำให้ "ประชุมรัฐสภาล่ม" แล้วยืดอกบอก นี่คือการต่อสู้ "ยับยั้งกฎหมายเผด็จการ"

กฎหมายโดยที่ประชุมรัฐสภาเนี่ยนะ "กฎหมายเผด็จการ" เออ...ช่างกล้าพูด!

แบบนี้ ก็ชัดเจน "ระบอบทักษิณ-ระบอบประวิตร" จับมือกันผสมพันธุ์เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตยโจรปล้นระบบรัฐสภา"

ฉะนั้น พี่น้องประชาชนทั้งหลาย จงมาดูเป็นสักขีพยาน

ว่า "ฝ่ายประชาธิปไตยโจรปล้นระบบรัฐสภา"

จะอ้าง "อำนาจประชาชน"....

ปล้นประชาธิปไตยไปแบ่งกัน "กินประเทศ" สำเร็จหรือไม่ ซึ่ง ๑๐ สิงหาจะเป็นวันชี้ชะตา หาร ๑๐๐ หาร ๕๐๐!

แล้วประชาชนจำไว้ เลือกตั้งใหญ่ ปี ๖๖

อย่าเลือก ส.ส.ในขบวนการ "ประชาธิปไตยโจรปล้นระบบรัฐสภา" เข้ามาเป็นอันขาด

"พลังประชารัฐ" ที่มีพลเอกประวิตรเป็นหัวหน้า ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จะหาร ๑๐๐ หาร ๕๐๐ ไม่มีใครว่า          แต่เขียน ๕๐๐ ด้วยมือแล้ว กลับไปลบด้วยตีน

ไปสมคบเพื่อไทย "ล่มรัฐสภา" เพื่อกลับไปหาร ๑๐๐ อีก

พลเอกประวิตรทำอย่างนี้ ด้วยเจตนาไหน?

เจตนา "ฆ่าน้อง" ในฐานะ "นายกพรรค" ให้เกิดภาพโลเล เชื่อถือไม่ได้ มากด้วยเล่ห์กล-กลับกลอก ทำให้คนดูชา หมาดูถูก อย่างนั้นหรือเปล่า?

เป็นการ "ฆ่าเกียรติยศ-ชื่อเสียง" ของน้องที่เป็นนายกฯ อย่างเลือดเย็น ทำอย่างนี้เพื่ออะไร หวังดีทักษิณ ประสงค์ร้ายน้อง

หรือตัวเอง อยากเป็นนายกฯ?

ก็เอา "พัชรวาท" มาเป็นเลขาฯ พรรคพลังประชารัฐตอนนี้ซะเลยเป็นไง ตอนเลือกตั้ง ก็ชูพลเอกประวิตรเป็น "นายกฯ บัญชีเลือกตั้ง" ของพรรค

พัชรวาท ในฐานะเลขาฯ จอง "ว่าที่มหาดไทย" ควบรองนายกฯ กำกับงาน "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" อีกแห่งไปเลย

เนี่ย...แบบนี้.......

พลังประชารัฐ+เพื่อไทยจะได้ "แลนด์สไลด์" ไปด้วยกัน  แลกกับการอัญเชิญวิญญาณ "สัมภเวสี" กลับบ้าน!

แบบนี้ ป้อม-แม้ว ก็จะ วิน-วิน ส่วนพลเอกประยุทธ์ นั้น  เมื่อพี่ใหญ่เขาหมดเยื่อใยแล้ว

น้องเล็กก็จะได้ "ไปตามทาง".....

ทางซึ่ง รู้-ไม่รู้ ก็ต้องเดินไป ตามที่ดวงพระวิญญาณบูรพมหากษัตริย์ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช"

ทรงกำหนดเส้นทาง "ต้องไป-ต้องทำ" ไว้ล่วงหน้าแล้ว

เชื่อว่า อย่างน้อยก็มีพรรค "รวมไทยสร้างชาติ" ของคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรคหนึ่งละ

ที่พร้อมยกท่านอยู่ในสถานะ "นายกฯ บัญชีเลือกตั้ง" ของพรรค!

เรื่่องรัฐสภา ส.ว. "คำนูณ สิทธิสมาน" โพสต์เฟซ เมื่อวานว่า "10 สิงหา-โอกาสสุดท้าย ก่อนสูตร ‘หาร 100’ จะกลับมาตามช่องทางพิเศษ!"

อนุญาตนำเผยแพร่และขอโทษท่าน ส.ว.คำนูณ "ที่นำลงบางตอน" ด้วยพื้นที่จำกัด

..................................

นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา

ตารางการนัดประชุมสภาช่วงก่อนหลัง 15 สิงหาคมจะเป็นประมาณนี้

8-9 สิงหาคม - ประชุมวุฒิสภา

10 สิงหาคม - ประชุมร่วมกันของรัฐสภา

11 สิงหาคม - ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

12-14 สิงหาคม - วันหยุดราชการ

15-16 สิงหาคม - ประชุมวุฒิสภา

17-19 สิงหาคม - ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วาระ 2-3

10 สิงหาคมจึงจะเป็นวันประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันสุดท้ายก่อน 15 สิงหาคม "วันครบกำหนด 180 วัน"

ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "ให้แล้วเสร็จ"

ถ้าไม่เสร็จ จะถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ "ร่างหลัก" ที่ใช้ในการพิจารณาวาระ 2

ทั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 132 (1) และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 101

ขอขยายความชัดๆ อีกครั้งนะครับ

เริ่มที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 132 (1)

 “ให้รัฐสภาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวัน…

ถ้าที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างที่เสนอตามมาตรา 131”

ต่อด้วยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ  101

 “ในกรณีที่รัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ประธานรัฐสภาให้บรรจุระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา

ให้ถือว่า รัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาในวาระที่สอง…”

กรณีนี้ต้องพิจารณาประกอบกัน เพราะข้อบังคับการประชุมเป็นกฎหมายลำดับรองที่ออกตามรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญกำหนดหลักการ

ข้อบังคับการประชุมขยายความในรายละเอียด ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ มีการเสนอเข้ามา 4 ร่าง มีหลักการใกล้เคียงกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 100

1.ร่างที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี ตามข้อเสนอของ กกต.

2.ร่างที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย

3.ร่างที่เสนอโดยพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล

4.ร่างที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล

ทุกร่างใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 100

รัฐสภามีมติรับหลักการทั้ง 4 ร่าง และได้มีมติให้ใช้ร่างที่ 1 เป็นร่างหลักในการพิจารณาในวาระ 2

ร่าง 1 คือร่างของคณะรัฐมนตรี

เป็นร่างที่เสนอมาเบื้องต้นจาก กกต.และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับแก้แล้ว

เป็นกรณีที่เข้าเกณฑ์ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ  101

นั่นหมายถึงการสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบ "หาร 100" ที่เสนอโดย กกต.จะกลับมาทันที

ในกรณีที่รัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "ไม่แล้วเสร็จ" ภายใน 180 วัน

ซึ่งเมื่อได้พิจารณาตารางเวลาแล้วแทบไม่มีอุปสรรคขวากหนามอีก

เพราะไม่มีวันเหลือให้นัดประชุมร่วมได้อีกแล้ว

เรียกว่าเป็นการกลับมาตาม "ช่องทางพิเศษ" ก็ว่าได้ !

........ฯลฯ .....

โอกาส "ครบองค์ประชุม" ให้ตลอดรอดฝั่งในวันที่ 10  สิงหาคม จึง "แทบเป็นไปไม่ได้"

ยิ่งมีปัจจัยเสริม ที่วันนั้นบังเอิญตรงกับ "วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน" ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่ง มีภารกิจที่นัดหมายไว้ล่วงหน้าต้องร่วมงานในพื้นที่

จึงแทบ "ปิดประตู" ไปเลยว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้งสูตรหาร 500 จะพิจารณาแล้วเสร็จจนผ่านวาระ 3

เอาแค่ในวันที่ 10 สิงหาคม สามารถเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ โดยไม่ล่าช้าเกินไปนัก

และสามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดเวลาการดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. …ได้จนจบวาระ 2-3

ก็ถือว่า "ประสบความสำเร็จ" แล้ว.....ฯลฯ......

-----------------------------

ผมถึงบอกไง ปัญหาบางปัญหา เราต้องแก้ แต่บางปัญหา เวลาเป็นตัวแก้

"ปัญหา" ฆ่าคนไม่ได้

แต่ "ตัณหา" ฆ่าทั้งคน ฆ่าทั้งความเป็นคน!

วันเสาร์ที่ปลายซอย