ถ้าจะวัดอารมณ์คนจีนจำนวนไม่น้อยต่อการมาเยือนไต้หวันของแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน ต้องดูการ์ตูนล้อการเมืองในสื่อของจีน
นี่เป็นตัวอย่างที่ตีพิมพ์ใน The Global Times ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงทางการจีนที่ออกมาชนสหรัฐฯ ตลอด
สื่อจีนภาษาอังกฤษที่เป็นทีวีก็คือ CGTN หรือ China Global Television Network ที่ออกมารายงานข่าวทั้งในประเทศของจีนและต่างประเทศอย่างดุเดือดและรุนแรงต่อต้านตะวันตก
ไม่ต้องพูดถึงสื่อภาษาจีนที่ร้อนแรงอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยการบอกว่าการกระทำของสหรัฐฯ เป็นเรื่อง “จงใจยั่วยุ” และ “แทรกแซงกิจการภายใน” ของจีนอย่างให้อภัยไม่ได้
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุชัดๆ ว่า
“แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะไปเยือนไต้หวันโดยไม่สนใจข้อกังวลที่ร้ายแรงและการต่อต้านอย่างแข็งกร้าวของจีน ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง บ่อนทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอย่างร้ายแรง เหยียบย่ำหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง ตลอดจนคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง”
เป็นที่มาของการที่ปักกิ่งประกาศระงับความร่วมมือกับสหรัฐฯ หลายด้าน แม้กระทั่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองและการทหาร เช่น เรื่องโลกร้อน
เพราะจีนถือว่าทุกมิติของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศล้วนโยงกับประเด็นการเมืองและความมั่นคงทั้งสิ้น
โฆษกสาวจอมกร้าว หัว ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศมาตรการตอบโต้หลายข้อ เช่น
ยกเลิกการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการพบปะหรือสนทนาหารือทางโทรศัพท์ และการประชุมระหว่างผู้นำด้านกลาโหมของจีนและสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอน แต่ขอบอกเลิกไปก่อน เพราะความตึงเครียดแห่งสถานการณ์
และการยกเลิกการประชุมกองทัพเรือประจำปี ภายใต้กลไกการปรึกษาหารือด้านการเดินเรือทหารจีน-สหรัฐฯ (China-US Military Maritime Consultation Mechanism)
อีกเรื่องหนึ่งคือ ระงับความร่วมมือในการส่งตัวผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศ ความช่วยเหลือทางกฎหมายในคดีอาญา และการต่อสู้อาชญากรรมข้ามชาติ
ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ การประกาศระงับความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดกับสหรัฐฯ
เพราะมีเรื่องระหองระแหงกันอยู่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
วอชิงตันไม่พอใจที่จีนไม่สามารถหยุดการลักลอบส่งออกสารสังเคราะห์ที่ออกฤทธิ์คล้ายฝิ่น หรือที่เรียกว่า synthetic opioids ไปอเมริกา
เพราะต่างฝ่ายต่างตีความระดับความร่วมมือต่างกัน
แต่เรื่องจะระงับการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี่ซิที่น่าแปลก
เพราะทั้งสองประเทศน่าจะได้ประโยชน์จากการลดภาวะโลกร้อน
แต่เมื่อจีนเห็นว่าจะต้อง “สั่งสอน” อเมริกา ก็ต้องเอาทุกเรื่องที่เห็นว่าจะมีผลกระทบต่อสหรัฐฯ ก็ต้องเอาใส่ในมาตรการตอบโต้นี้ด้วย
ไม่ใช่ว่าจีนไม่รู้ว่าตัวเองก็จะได้รับผลกระทบจากการระงับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในหัวข้อเหล่านี้ด้วย
แต่นี่เป็นจังหวะที่ต้องแสดงออกอย่างขึงขัง ต้องเจ็บบ้างก็ต้องยอมทน
เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า
แต่เปโลซีก็ยังไม่ยอมถอย
ในการแถลงข่าวที่กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายในการเยี่ยมเอเชียของเธอ เปโลซีก็ยังแสดงท่าทีท้าทายจีนอย่างเปิดเผย
เธอยืนยันว่าจีนพยายามโดดเดี่ยวไต้หวันออกจากประชาคมระหว่างประเทศ แต่ไม่อาจขัดขวางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ให้เดินทางไปไต้หวันได้
“เราจะไม่ยอมให้จีนโดดเดี่ยวไต้หวัน พวกเขาไม่ได้เป็นคนจัดตารางการเดินทางของเรา"
เธอยืนยันว่าการเยือนไต้หวันเป็นการรักษาสถานะปัจจุบัน (Status Quo) ไม่ได้ต้องการมายุให้ไต้หวันประกาศแยกตัวออกจากจีน
“มันเกี่ยวกับกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน (Taiwan Relations Act) นโยบายสหรัฐฯ-จีน กฎหมายและข้อตกลงทั้งหมดที่กำหนดความสัมพันธ์ของเราคือ เพื่อสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน และเพื่อธำรงไว้ซึ่งสถานะปัจจุบัน” เธอกล่าว
วันต่อมา รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ออกแถลงการณ์หลังพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่พนมเปญ ออกมาปะฉะดะจีนอีกรอบ
จึงเป็นอันยืนยันว่าทำเนียบขาวของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้นรู้เห็นเป็นใจกับเปโลซีเรื่องการเยือนไต้หวันครั้งนี้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าไบเดนจะบอกสี จิ้นผิง ระหว่างการพูดจาออนไลน์ในเรื่องนี้อย่างไร จีนก็คงไม่เชื่อ
เป็นที่มาของถ้อยประโยคแรงๆ จากรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ที่บอกว่าสหรัฐฯ เป็นชาติที่ “ไม่อาจจะไว้วางใจได้เลย”
อ่านการ์ตูนที่ควรจะขำขัน แต่ทำไมจึงสร้างความเครียดมากนักก็ไม่รู้
เพราะโลกยังต้องวุ่นต่อไปครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?
อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร
วิกฤตพม่าจากมุมมองของจีน
ถ้าถามว่าทำไมจีนจึงมีความกังวลกับสงครามในเมียนมาอย่างมาก ดูจากภาพนี้ก็จะเข้าใจ
จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้
วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้
บทเรียนสีหนุวิลล์สำหรับไทย
ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของจีนกับกัมพูชามาในหลายรูปแบบ...และหนึ่งในนั้นคือการสร้างสีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิง หรือที่เรียกว่า Entertainment Complex
อิหร่าน-อิสราเอล: ทุกฉากทัศน์ล้วนเสี่ยงสูง
คณะรัฐมนตรีสงครามหรือ War Cabinet ของอิสราเอลประชุมกันเคร่งเครียดมาหลายรอบ...สรุปได้เพียงว่าจะต้องตอบโต้อิหร่านแน่...แต่ไม่ระบุว่าเมื่อไหร่และด้วยยุทธการแบบใด
สิงคโปร์ผลัดใบการเมืองครั้งสำคัญ ‘หลี่’ (72) ส่งไม้ต่อ ‘หว่อง’ (52)
นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ Lawrence Wong ที่จะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ต้องถือว่ามาจากครอบครัวชนชั้นทำงานจริง ๆ