
ไม่ได้ยินกับหู ไม่ได้ดูกับตา!
แต่..เห็นจาก “แนวหน้าออนไลน์” พาดหัวข่าว..พิธีกรรายการ 'แฉ' งานเข้า! ราชทัณฑ์เตรียมเอาผิด ปมอ้างมีคุก VIP-ใช้โทรศัพท์ในเรือนจำ
รายละเอียด..นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีหนึ่งในผู้ดำเนินรายการ “แฉ” ทางสถานีโทรทัศน์ GMM 25 ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 21.00 น.
ได้มีการกล่าวพาดพิงถึงกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับการควบคุมดูแลผู้ต้องขังคดี Forex-3D ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ ว่ามีสภาพความเป็นอยู่ที่สุขสบายและสามารถใช้โทรศัพท์ภายในเรือนจำได้นั้น
กรมราชทัณฑ์ขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการควบคุมดูแล และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังภายในเรือนจำ
ซึ่งแนวทางและนโยบายของกรมราชทัณฑ์ในปัจจุบันยังคงถือระเบียบปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มิได้ให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งตามที่สังคมเข้าใจแต่อย่างใด รวมถึงการใช้เครื่องมือสื่อสาร
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า ไม่มีการให้ผู้ต้องขังคนใดมีเครื่องมือสื่อสาร หรือโทรศัพท์มือถือไว้ใช้ภายในเรือนจำอย่างแน่นอน
โดยกรมราชทัณฑ์มีมาตรการเข้มงวดในเรื่องของการจู่โจมตรวจค้นอย่างจริงจัง รวมถึงมีบทลงโทษที่ชัดเจนกับผู้กระทำผิด
อีกทั้งการกล่าวอ้างว่ามีผู้ต้องขังบางรายได้รับสิทธิพิเศษได้อยู่อย่างสุขสบายเหนือกว่าผู้ต้องขังรายอื่นๆ นั้น ขอเรียนว่าผู้ต้องขังทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ตามหลักสิทธิมนุษยชน
จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อคำกล่าวอ้าง หรือคำบอกเล่าที่ไม่เป็นความจริง
ส่วนในกรณีของพิงกี้ หรือ น.ส.สาวิกา ไชยเดช ที่ถูกควบคุมอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางนั้น ขณะนี้ได้ย้ายจากแดนกันชนมาสู่แดนแรกรับแล้ว
โดย น.ส.สาวิกาได้ปฏิบัติตามระเบียบของทาง ทัณฑสถานฯ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ และได้ดำเนินการตัดผมเรียบร้อยแล้ว
สำหรับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตามปกติ และไม่ได้มีสิทธิพิเศษเหนือผู้ต้องขังรายอื่นๆ
รวมถึงไม่ได้มีเครื่องมือสื่อสารหรือโทรศัพท์ใช้ภายในเรือนจำแต่อย่างใด
“กรณีดังกล่าวเป็นการกล่าวพาดพิงและหมิ่นประมาทกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการนำข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยมีการเผยแพร่เป็นแบบสาธารณะ
ทำให้ประชาชนทั่วไปที่ได้รับฟังข่าวสารเกิดความเข้าใจผิด และสงสัยในการทำงานของกรมราชทัณฑ์อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 14 ของพระราชบัญญัติ
ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป"
ครับ..รุ่งอีกวันข่าวจากผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า คุณมดดำ-คชาภา ตันเจริญ ผู้ดำเนินรายการแฉ ได้ออกมากราบขอโทษถึงกรมราชทัณฑ์ ซึ่งผมขออนุญาตคัดลอกบางช่วงตอนมาพอสังเขป
คุณมดดำเผยว่า ตลอดรายการที่ ลีน่า จัง นำเสนอข่าวไป ทีมงานทั้งรายการไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง พร้อมบอกจากนี้ไปในรายการจะไม่มีการนำเสนอ ลีน่า จัง อีก
ในวันนั้นตนได้แย้ง “ลีน่า จัง” ตลอดว่าพูดเพ้อเจ้อเลอะเทอะ ตนไม่เชื่อว่าผู้ต้องขังคนดังจะได้รับสิทธิพิเศษ อยู่สุขสบาย
ในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้ดำเนินรายการ ต้องกราบขอโทษขอภัยต่อกรมราชทัณฑ์จริงๆ ที่ได้มีการนำเสนอไปจนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและเกิดความสงสัยต่อกรมราชทัณฑ์
กรมราชทัณฑ์ไม่เคยให้สิทธิพิเศษกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งในสังคมแต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่มีผู้ต้องขังคนใดมีเครื่องมือสื่อสารไว้ในเรือนจำอย่างแน่นอน คำว่าเข้าคุกไม่มีวีไอพีหรอกครับ”
ก็ไม่รู้ว่ารับผิด ยอมขอโทษ-ขอโพยอย่างนี้แล้ว กรมราชทัณฑ์จะให้อภัยหรือไม่อย่างไร แต่ก็มีคนคลางแคลงใจ
ในเมื่อคุณมดดำไม่เชื่อ แล้วทำไมยังปล่อยให้ลีน่า จัง เพ้อเจ้อไปได้มากมายขนาดนั้น
หรือคิดเอาว่า คนดูเชื่อ..หือ?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระวังจะโดนย้อนศร
เรื่องนี้ต้องขยาย.. ผมหมายถึง “ยอดคนตาย” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่น่ะ เพราะหลังจาก นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลง..
ต่างฝ่ายต่างโกง?
ดารา-นักแสดงถูกเบี้ยวค่าตัว! ความจริงก็ใช่ว่าเพิ่งมาเกิดเอายุคปัจจุบัน-ตอนนี้..สมัยนู้นนน ในยุคพระเอก-นางเอกคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์” และ “สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์”..
ความคิดหลุดโลก?
แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก.. “อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”
‘ตลก’ไม่ทิ้งกัน!
“เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว” นี่.. “นายกแป้น” คุณณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้บอกผู้สื่อข่าว หลังจากที่ประกาศก่อนหน้าว่า..
เขต 8 แดนเจอรัส?
น้ำลด..เขต 8 โผล่! ทีนี้ ก็เป็นหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” แล้วล่ะ จะปฏิบัติการกวาดล้างพวก “มนุษย์ขยะ” เฮงซวย-เส็งเคร็ง ที่สร้างความเสื่อมเสียให้ชาวเมืองหาดใหญ่กันอย่างไร?
‘กับดัก’ ความเชื่อมั่น?
สส.จังหวัดสงขลา มี 9 คน 9 เขต.. พรรคประชาธิปัตย์ยึดไป 6 เขต 6 คน ที่เหลือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย แบ่งกันไปเขตละคน


