นายกฯสิงคโปร์ : ความขัดแย้งของ มหาอำนาจคือข่าวร้ายของชาวโลก

ผู้นำประเทศที่มาวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศที่กระทบถึงทุกมิติของประเทศตนเองให้ประชาชนฟังมีน้อยราย

ที่ทำเป็นประจำน่าจะเป็นนายกฯ สิงคโปร์หลี่เสียนหลง ที่ยอมรับว่าความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจจีน, สหรัฐฯ, รัสเซียและชาติที่เกี่ยวพันอื่นๆ นั้นทำให้ต้องมีการวางยุทธศาสตร์ของประเทศอย่างรอบด้าน

และเตือนให้คนสิงคโปร์ต้องอยู่ในภาวะตื่นตัวเสมอ

ในคำปราศรัยอันยาวเหยียดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาปีนี้ ทั้งภาษาจีน, มาเลย์และภาษาอังกฤษ ตอนหนึ่งนายกฯ หลี่ประเมินสถานการณ์เรื่องนี้อย่างนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งกำหนดทิศทางของกิจการระดับโลกกำลังถดถอย

อำนาจทั้ง 2 ถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายประเด็น–อุดมการณ์คู่ต่อสู้และระบบการปกครองของพวกเขา  อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในโลก

บวกกับปัญหาเฉพาะมากมาย เช่น ข้อพิพาททางการค้า การจารกรรมทางไซเบอร์ ทะเลจีนใต้ ฮ่องกง และล่าสุดความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าเป็นห่วงในไต้หวัน

แต่ทว่าสหรัฐฯ และจีนจำเป็นต้องทำงานร่วมกันในประเด็นเร่งด่วนระดับโลกมากมาย

รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาด และการแพร่กระจายของนิวเคลียร์

แต่ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างกันทำให้ความร่วมมือเหล่านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

นี่เป็นข่าวร้ายสำหรับชาวโลก

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้จัดวิดีโอคอลขนาดยาวเมื่อเร็วๆ นี้

และทั้งสองตกลงที่จะพบปะกันตัวเป็นๆ ในเร็วๆ นี้

แต่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้คาดหวังว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้นในไม่ช้านี้

ยิ่งไปกว่านั้น เราทุกคนต้องหวังว่าจะไม่มีการคำนวณผิดหรืออุบัติเหตุใดๆ ซึ่งจะทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนแล้ว การรุกรานยูเครนของรัสเซียยังมีนัยสำคัญต่อโลกและสิงคโปร์อีกด้วย

ประการแรก การรุกรานครั้งนี้เป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและหลักการพื้นฐานของอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

นี่เป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสิงคโปร์

ความมั่นคงของเรา แม้กระทั่งการดำรงอยู่ของเราขึ้นอยู่กับว่าประเทศต่างๆ จะร่วมกันยึดถือหลักการเหล่านี้

เราไม่สามารถทำให้การกระทำที่ผิดของรัสเซียถูกต้องตามกฎหมาย

รัสเซียอ้างว่าสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" ในยูเครนนั้นสมเหตุสมผลด้วย "ข้อผิดพลาดทางประวัติศาสตร์และการตัดสินใจที่เพี้ยนๆ ในอดีต"

ถ้าเรายอมรับตรรกะนี้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันหนึ่งคนอื่นใช้เหตุผลแบบเดียวกันนี้กับเรา

ประการที่สอง สงครามได้สร้างความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งระหว่างรัสเซียและรัฐอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในสหรัฐฯ และ NATO

ความสัมพันธ์พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ และต้องไม่ลืมว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็มีอาวุธพลังงานนิวเคลียร์

เป็นการยากที่จะจินตนาการถึงการยุติความขัดแย้งถึงจุดที่น่าพอใจ

 ประการที่สาม สงครามในยูเครนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนตึงเครียดขึ้นแล้ว รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและหุ้นส่วนของอเมริกาในเอเชีย เช่น ออสเตรเลียและญี่ปุ่น

เราจึงคาดได้ว่าจะมีการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้นในเอเชียแปซิฟิก

บางประเทศก็จะตัดสินใจเลือกข้าง

แต่ประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกดึงเข้าไปในสถานการณ์ของการแย่งชิงอำนาจกันของประเทศคู่แข่ง

ภูมิภาคของเรามีความสงบสุขมานานจนยากที่เราจะจินตนาการถึงสิ่งที่แตกต่างออกไป

แต่ดูสิว่าสิ่งต่างๆ ในยุโรปผิดพลาดอย่างไร ฉับพลันและรวดเร็วเพียงใด

เราแน่ใจหรือไม่ว่าสิ่งต่างๆ จะไม่ผิดพลาดเช่นนี้ในภูมิภาคของเราด้วย?

ดังนั้นเราต้องเอาจริงเอาจัง และเราต้องเตรียมจิตใจให้พร้อม

เราสามารถทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับอันตรายจากปัจจัยภายนอกเหล่านี้?

ประการแรก เราต้องยืนหยัดในหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ ทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎกติกาสากล

เช่น การที่เราแสดงจุดยืนของเราอย่างตรงไปตรงมาในที่องค์การสหประชาชาติ

หากเราหลบหลีกและเก็บงำความเห็นของเรา ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายเราเองในระยะยาว

จากนั้นเราก็ต้องเอาจริงกับเรื่องทางด้านความมั่นคงของประเทศ

เราต้องปกปักรักษาระบบการป้องกันประเทศอย่างจริงจัง และรักษา SAF และ Home Team ให้เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ ถ้าเราไม่ปกป้องตัวเอง ก็ไม่มีใครปกป้องเรา

ที่สำคัญที่สุด เราต้องเป็นหนึ่งเดียว สามัคคี อย่าปล่อยให้ตัวเราถูกแบ่งแยก ไม่ว่าตามเชื้อชาติ ศาสนา รายได้ ความแตกต่างทางสังคม หรือสถานที่เกิด

อีกทั้งเราต้องตระหนักถึงภัยอันเกิดจากบางประเทศที่จ้องมองหาการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของเรา และเพื่อโน้มน้าวคนของเราเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ผมพูดถึงเรื่องนี้ในคำพูดภาษาจีนด้วยว่าอย่าเชื่อว่าทุกสิ่งที่คุณอ่านออนไลน์ว่าเป็นความจริงเสมอ

หากเรายอมรับข้อมูลหลอกลวงออนไลน์ทั้งหลายก็จะเกิดความแตกแยก เราก็จะเสียโอกาส

เราจึงต้องร่วมใจกันเพื่อรับกับทุกปัญหาที่เข้ามาหาเราในทุกรูปแบบ

เขาเป็นประเทศเล็ก ต้องระแวดระวัง รักษาระยะห่างกับมหาอำนาจ และหากเกิดวิกฤตต้องพยายามพลิกให้เป็นโอกาส

อีกทั้งยังจะต้องสื่อสารกับประชาชนตลอดเวลาเพื่อให้ได้รับรู้แนวทางวิเคราะห์ร่วมกัน

ยิ่งหากประชาชน “รู้เท่าทัน” ทั้งเรื่องในประเทศและต่างประเทศ ก็จะเป็น “พลเมืองมีคุณภาพ” ที่นำพาประเทศให้ฟันฝ่าพายุร้ายจากทุกทิศทุกทางได้พร้อมกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร

จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้

วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้

บทเรียนสีหนุวิลล์สำหรับไทย

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของจีนกับกัมพูชามาในหลายรูปแบบ...และหนึ่งในนั้นคือการสร้างสีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิง หรือที่เรียกว่า Entertainment Complex