รู้ไหมว่าไทยเรามีตลาดซื้อขาย ‘คาร์บอนเครดิต’สู้โลกร้อน?

เมื่อวานผมเขียนถึงความคืบหน้าเรื่อง “ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต” เพื่อช่วยลดโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรมที่ตกลงกันในรายละเอียดใหม่ๆ หลายประเทศ ณ ที่ประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์, สกอตแลนด์, สหราชอาณาจักร

คนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้ว่าประเทศไทยเราก็มีการทำเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว

เรียกชื่อเป็นเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network)

โดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.

มีคำอธิบายว่า "ตลาดคาร์บอน" (Carbon Market) หรือตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต เป็นหนึ่งในกลไกราคาคาร์บอนที่สำคัญซึ่งช่วยให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก   

โดยใช้มาตรการทางการตลาดเป็นเครื่องมือสร้างแรงจูงใจ

แล้วตลาดคาร์บอนอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือ?

อบก.บอกว่าตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แล้ว ตลาดคาร์บอนสามารถทำให้ก๊าซเรือนกระจกสุทธิลดลงด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด

และยังก่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม

อีกด้านหนึ่งยังมีส่วนช่วยการสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดภายหลังปี ค.ศ.2020 (NDC) อีกด้วย

ประเทศไทยมีโครงการลดก๊าซเรือนกระจกที่มีการขายคาร์บอนเครดิตในตลาดคาร์บอนภายในประเทศแล้ว

ชื่อโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction: T-VER) ที่ อบก.ได้พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557

เป้าหมายคือเพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้พัฒนาโครงการรายเล็ก มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ  

โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

นอกจากนี้ โครงการ T-VER ยังมีผลประโยชน์ร่วม (Co-benefit) ของการลดก๊าซเรือนกระจก  

เช่น ช่วยลดมลพิษ เพิ่มความร่มรื่น และพื้นที่สีเขียวลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้า

เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจในชุมชนและอื่นๆ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาอาชีพใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย

แต่ อบก.ยอมรับว่าถึงวันนี้การขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการของไทยในตลาดคาร์บอนภายในประเทศยังมีปริมาณไม่มาก 

เหตุเป็นเพราะตลาดคาร์บอนของไทยเป็นตลาดภาคสมัครใจ ซึ่งมีขนาดเล็กมีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 8.5 ต่อปี

ส่วนใหญ่การซื้อขายคาร์บอนเครดิตภายในประเทศไทยอยู่ในรูปแบบของการเจรจาต่อรอง (Over-the-Counter: OTC)

ถามว่าซื้อขายกันที่ราคาเท่าไหร่?

ราคาซื้อขายคาร์บอนเครดิตอยู่ระหว่าง 15-200 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

จึงทำให้เกิดเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network หรือ TCNN) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคท้องถิ่น/ชุมชน ในการยกระดับการลดก๊าซเรือนกระจก

เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตามเจตนารมณ์ของประชาคมโลกที่ปรากฏในเป้าหมายของความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การสร้างอุปสงค์คาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER จะช่วยสนับสนุน และขับเคลื่อนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศให้มีสภาพคล่องและขยายตัวมากขึ้น

มีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมคือ การสนับสนุนให้เกิดการปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกหลักที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน

แทนที่จะบริจาคเงินให้ชุมชนนำไปใช้ในการปลูกป่าโดยตรงเพียงอย่างเดียว            

สมาชิกเครือข่ายอาจช่วยซื้อคาร์บอนเครดิตที่เกิดจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกดูดซับไว้ในเนื้อไม้

รายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตจะกลับไปสู่ชุมชน

เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน เพื่อใช้ในการดูแลรักษาป่าต่อไป

สิ่งที่เกิดขึ้นอีกด้านหนึ่งคือ อบก. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันผลักดันและสนับสนุนการจัดตั้งตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศ โดยพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต (Thailand Carbon Credit Exchange Platform)

ด้วยการใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการแลกเปลี่ยนซื้อขายถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตของโครงการ T-VER

หากทำได้ตามเป้าหมายก็จะสนับสนุนให้ไทยมีกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด และสร้างมูลค่าเพิ่มจากคาร์บอนเครดิตของโครงการ T-VER ในประเทศ

ผ่านตลาดซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตที่มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือ สร้างราคาอ้างอิงที่ยุติธรรม สะท้อนต้นทุนอย่างแท้จริง สะดวก รวดเร็ว

เป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคท้องถิ่น/ชุมชน ในการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศโดยรวมให้ต่ำสุดได้ในที่สุด

ทุกครั้งที่เราเห็นข่าวการประชุมโลกร้อนระดับสากลมักจะมีคำถามว่ามีเกี่ยวอะไรกับคนไทย และคนไทยไปเกี่ยวอะไรกับเขา

หนึ่งในคำตอบคือเรื่อง “ตลาดซื้อขายคาร์บอนในประเทศ” ของไทยเรานี่เลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’

ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon  โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ