"อันซีนอุทัยธานี"

สำหรับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นอกจากทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติและขับเคลื่อนงานการเมืองเพื่อนำความเดือดร้อนต่างๆ ของชาวบ้านไปสู่การแก้ไขได้แล้ว โดยประกาศว่า “ชีวิตที่เหลือเพื่อชาวอุทัยฯ”

ล่าสุดยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการเปิดอันซีนเมืองอุทัยธานีมาเป็นจุดขาย โดยร่วมมือกับชาวบ้านวังทอง หมู่ 6 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าไม้ ชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมพลังปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ภายใต้สโลแกน "เที่ยวชมวิถีชีวิต ล่องเรือใกล้ชิดธรรมชาติ ชมสัตว์ป่าทับเสลา กินปลาเผาห้วยระบำ เลิศล้ำมรดกโลกห้วยขาแข้ง"

ส.ส.อุทัยฯ หลายสมัย กล่าวว่า นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวเขาป่าห้วยขาแข้ง กับแหล่งกักเก็บน้ำเขื่อนระบำที่มีความกว้างมากกว่า 11,200 ไร่ ได้พักผ่อนหย่อนใจแบบธรรมชาติ นอนพักกางเต็นท์ รับประทานอาหารริมอ่างเก็บน้ำ ล่องเรือชมธรรมชาติและสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้เปิดมุมมอง เห็นความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ทั้งช้าง กวาง วัวแดง เสือ เป็นต้น และเมื่อเวลาเย็นพระอาทิตย์ตกดินจะได้เห็นบรรยากาศทิวเขาที่สวยงามมาก เหนือกว่าบางประเทศที่มีการโปรโมตกันด้วยซ้ำ

 “ส.ส.ชาดา" กล่าวว่า ผมต้องการให้คนที่เฝ้าป่าแห่งนี้มีรายได้จากป่าโดยที่ไม่ไปรบกวนป่า และที่สำคัญก็คือส่งเสริมให้เกิดความรัก-หวงแหนป่า เพื่อให้เกิดเป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างป่ากับคนที่อยู่กับป่า ให้รักษาธรรมชาติ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดูแลสัตว์ป่า ตามผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก UNPD

หลังจากทำสถานที่ตรงนี้แล้วก็จะต่อยอดทำสกายวอล์กเดินดูสัตว์ป่าต่อไปด้วย จะค่อยๆ ดำเนินการไป โดยจะมีศูนย์เรียนรู้คอยให้เด็กเยาวชนได้มีความรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเผยแพร่ห้วยขาแข้งอันเป็นป่าที่พวกเราภาคภูมิใจ ซึ่งการดำเนินการจะเป็นไปในลักษณะให้ชาวบ้านมีส่วนบริหารจัดการ ส่วนราชการเป็นพี่เลี้ยง

 “หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ จะเป็นอีกไฮไลต์หนึ่งที่ว่า ถ้ามาเมืองไทยต้องมาที่นี่ โดยจะพยายามทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอุทัยธานี และของประเทศไทยต่อไปในอนาคตให้ได้” ส.ส.ชาดากล่าว

เมื่อรวมกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีอยู่ รับรองเมืองอุทัยฯ จะเป็นหมุดหมายของนักเดินทางอย่างแน่นอน.

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัดไม่ปล่อย

ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ