บันทึกหน้า 4

เรียกเสียงฮือฮามากโข สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) โดย "นพดล กรรณิกา" เสนอผลสำรวจ เรื่อง "ความสำเร็จของลุงตู่ ช่วงวิกฤตชาติ" จากคำถามความต้องการของประชาชน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปต่อ พบว่าสูงสุดหรือร้อยละ 53.0 คือต้องการให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ อยู่ดี กินดี รองลงมาคือ ร้อยละ 52.9 ระบุ ต้องการค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ถูกลง ร้อยละ 52.8 ต้องการค่าน้ำมัน พลังงานเชื้อเพลิงถูกลง ร้อยละ 52.5 ต้องการความปลอดภัยทางไซเบอร์ คอลเซ็นเตอร์ และโลกออนไลน์ ร้อยละ 52.1 ต้องการ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ร้อยละ 50.2 ต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 50.1 ต้องการความทันสมัย การสื่อสาร ยุคดิจิทัล ร้อยละ 48.7 ต้องการให้แก้ปัญหาบริการสาธารณสุข ร้อยละ 48.5 ต้องการให้แก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ร้อยละ 46.9 ต้องการให้ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน เพิ่มแหล่งทุน ให้ผู้ประกอบการรายย่อย รายย่อม ร้อยละ 46.8 ต้องการ การศึกษาของบุตรหลานที่ดี มีอนาคตดี ร้อยละ 45.0 ต้องการบัตรลดราคา สินค้าจำเป็นให้ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และร้อยละ 43.8 ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.8 มีความหวัง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปต่อ ในขณะที่ร้อยละ 42.2 เกิดความกลัว บทสรุปของโพลลุงตู่ ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่มีความนิยมสูงสุด แต่อยู่ที่ครึ่งๆ กลางๆ ให้ดู 2 ข้อหลัง ความหวังกับความกลัว บอกคำเดียวเลือกตั้งครั้งนี้ช่างหน้าเป็นห่วง พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ ส.ส.กี่คน เพียงพอที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ คงต้องลุ้นกันตัวโก่ง  ...๐

แต่กองหนุนอย่าง "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" ยังแข็งขัน ชี้จุดอ่อนของสลิ่มและ FC ลุงตู่ ก็คือเป็น passive fans ไม่เป็น active evangelists หมายความว่า รัก ชอบ ชื่นชม แต่ไม่สื่อสารใดๆ อ่าน post แต่ไม่กด like ไม่กด share และไม่เขียน comment ที่เป็นการพูดคุย ต่างจากอีกฝั่งปั่นตั้งแต่เช้ายันเช้าอีกวัน มีคน post สารตั้งต้น ก็จะมีคนพวกเดียวกันมากด like มากด share มา retweet มาใช้ # คือพวกเขาทำหน้าที่เป็น PR officers กันด้วย จึงมี high reach, high frequency

ดร.เสรีชี้ให้เห็นผลลัพธ์ว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ก็นั่งตกใจกันไปอีกนาน แล้วอาจจะต้องนั่งเสียใจหลังวันเลือกตั้ง ฉะนั้นต้องช่วยกันเป็น PR officer กันหน่อย โดย "ดร.เสรี" ทิ้งท้าย "ไม่กลัวได้นายกฯ คนอื่นเหรอคะ" ก็จริงตามที่ "ดร.เสรี" ให้ความเห็น เพราะการเลือกตั้งในปัจจุบัน เขาเปิดสงครามกันในโซเชียลเป็นหลัก ใครไม่มี หรือไม่เล่นโซเชียล โอกาสสอบตกแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ...๐

ไม่ทราบว่าข่าวจริง ข่าวปล่อยหรือข่าวลวง "ส.ตัวใหญ่" แคนดิดตนายกฯ ตัวจริงเป็นใคร เพื่อไทยแตกตื่นกันทั้งพรรค  "อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร" ถึงกับสำลักโอเลี้ยง ยืนยันยังไม่ผ่านกระบวนการพิจารณาพรรค ทั้งที่ทุกคนมีการคาดเดาว่าจะต้องเป็นอุ๊งอิ๊งแน่นอน แต่ทางพรรคยังไม่ได้มีการประกาศ เช่นเดียวกับ "ชลน่าน ศรีแก้ว" ยืนยันกระบวนการพิจารณาแคนดิเดตนายกฯ พรรค มีคณะกรรมการ มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทุกอย่างทำเพื่อประชาชน แต่ข่าวคราวจากดูไบไปคนละทิศคนละทาง เรื่องนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน และพรรคเพื่อไทยไม่มีสิทธิตัดสินใจ เพราะคนที่ทุบโต๊ะคือ "ทักษิณ ชินวัตร" สั่งมาแบบไหนต้องเอาแบบนั้น ฉะนั้นใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯขอพรรคเพื่อไทย ต้องรอสัญญาณจากดูไบ จากการค่อยเข้าสู่กระบวนการปลุกเสกที่พรรคเพื่อไทย ส.ตัวใหญ่ที่ว่า น่าจะเป็น "สุ๊งอิ๊ง แสทองธาร" เป็นแน่แท้เลยทีเดียว ...๐

วิเคราะห์ตรง เชื่อถือได้ "สกลธี ภัททิยกุล" ทำการเลือกตั้ง ส.ส.เขต กทม. จะคล้ายกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา มีการตัดคะแนนกันเยอะพอสมควร โดยที่เป็นฝั่งอนุรักษนิยมจะตัดคะแนนกันเยอะกว่า โอกาสก็เหนื่อย ผลอาจออกมาในแนวที่ฝ่ายเพื่อไทยอาจจะได้ ส.ส.เยอะขึ้น รวมถึงก้าวไกล ที่ก็เป็นไปได้ แต่พื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพฯ เรื่องกระแสเป็นสิ่งสำคัญ คือหากกระแสดี นโยบายดี คนกรุงเทพมหานครก็พร้อมที่จะสวิงเลือก ...๐

ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เปิด 3 เหตุผลที่ทำให้ 'นักธุรกิจต่างชาติ' เบื่อหน่ายราชการไทย” ล้วนเป็นเหตุผลเดิมๆ แก้ไขไม่ได้สักที 1.กฎระเบียบที่ไม่ชัดเจน ซ้ำซ้อน มีหลายฉบับ หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องเดียวกัน 2.ระบบราชการที่ถูกสร้างให้เป็นภาระในการติดต่อ ทั้งปัญหาเอกสาร การขออนุญาตอนุมัติ การทำงานล่าช้า 3.ข้าราชการมีอำนาจและโอกาสใช้ดุลยพินิจมาก แถมเรื่องเดียวกันยังตัดสินต่างกันได้ หากต่างคน ต่างสถานที่ หรือเวลา การจะให้เหตุผลสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนก็ทำได้ง่าย

"ดร.มานะ" สรุปว่า “การจ่ายสินบนเงินใต้โต๊ะแลกกับความสะดวก อาจเป็นเรื่องเข้าใจง่าย แต่การคุกคามด้วยกฎหมายเป็นเรื่องน่ากลัวเกินจะรับได้ คอร์รัปชันจึงเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่มากสำหรับการทำธุรกิจในประเทศไทย” นี่คือปัญหาใหญ่ที่รอรัฐบาลถัดไปนำไปแก้ไข แต่เราก็พูดแบบนี้ในรัฐบาลก่อนๆ ...๐

 

"ณ ประชาชื่น"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้

บันทึกหน้า 4

ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล

บันทึกหน้า 4

ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

บันทึกหน้า 4

บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น