สัปดาห์นี้ต้องเรียกว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้ไม่ได้แต่งตัวโดยใจ Gen Alpha ไปโผล่ในที่ใดๆ ก็ตาม แต่จดหมายเปิดใจฉบับที่ 3 เมื่อวันจันทร์และฉบับที่ 4 เมื่อวันพุธ ก็ต้องบอกว่าเรียกเสียงฮือฮาให้กับสังคมไม่มากก็น้อยทีเดียว โดยฉบับที่ว่าก็มีวาทกรรมว่าด้วยกลุ่มอีลิทและกลุ่มนักการเมืองมาแล้ว แต่พอมาฉบับที่ 4 แม้เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นการย้อนและตอกย้ำในฉบับที่ 3 อีกครั้ง แต่ก็ มีวาทกรรมว่า “สำนึกอนุรักษนิยม” และ “ประชาธิปไตยเสรีนิยม” ผุดตามมาอีก ...๐
หากพินิจพิเคราะห์เจาะลึกทั้งฉบับที่ 3 และ 4 ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณกลายๆ นั่นเองว่า หาก “ลุงป้อม” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็มีโอกาสสูงที่พรรคพลังประชารัฐอาจมีการจับมือ “พรรคเพื่อไทย” เป็นแน่แท้ แม้ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ จะประกาศว่าไม่มีดีลลับระหว่างกันในเพลานี้ก็ตามที แต่เจ้าตัวก็บอกว่า พปชร.พร้อมทำงานกับทุกพรรค
เรียกว่าไม่มีการตอกฝาโลงว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น และยิ่งย้อนดูในห้วงเวลาที่ผันผ่านมา ก็จะเห็นว่า “บิ๊กป้อม” ทอดสะพานไปยัง “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่เนืองๆ นี่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ “โทนี่ วู้ดซัม” ที่สัปดาห์นี้ไม่โผล่ในเพจแคร์คิดเคลื่อนไทยเคยบอกไว้ว่า จะกลับมาอย่างเท่ๆ โดยไม่มีการแก้ไขกฎหมายให้โดยเฉพาะก็เป็นได้ …๐
ในขณะที่ “พี่ป้อม” ร่ายจดหมายเปิดใจผ่านเฟซบุ๊กอยู่นั้น ดูเหมือน “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สวมหัว ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ขยันในการทำหน้าที่ดังกล่าวเช่นกัน โดยเมื่อวันจันทร์ก็ไปสวมเสื้อให้สมาชิกพรรค 14 คน ล่าสุดในวันพุธก็ไปสวมเสื้อให้อีก 40 คน และเชื่อว่ายังคงมีอีกหลายโอกาสที่ “บิ๊กตู่” จะต้องไปทำพิธีกรรมดังกล่าว ...๐
ที่น่าสนใจเข้าไปอีกคือ พล.อ.ประยุทธ์เริ่มแสดงบทบาทการเป็นนักการเมืองที่อยู่เป็นมากขึ้น เพราะเมื่ออยู่ในพรรค รทสช.ถึงกับปากหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้า เพราะเอ่ยชมว่า “ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ผมยังไม่เคยผิดหวังอะไรที่ได้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติเลย” แล้วที่เด็ดสะระตี่มากก็คือ การยิงหมัดแย็บไปยังคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยอย่าง “เศรษฐา ทวีสิน” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยที่บอกว่า “เขาเด่นตรงไหนล่ะ เก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ แต่ประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” แหม! แบบนี้เรียกว่ายิงกระสุนนัดเดียวนกสะดุ้งทั้งรังทีเดียว ...๐
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ท่าทีใน การเปิดตัว “เศรษฐา” เพราะก่อนหน้านี้ต่างตีปี๊บโหมประโคมกันอย่างใหญ่โต โดยเฉพาะการปล่อยข่าวผ่านสื่อในเครือทั้งหลายแหล่ว่าอาจเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์หนึ่ง หรือไม่ก็เบอร์สอง แต่ทำมั้ยทำไมเวลาเปิดตัวกลับ มีแกนนำแถวสองแถวสามมาต้อนรับเล่า และยิ่งตอนหัวหน้าหุ่นเชิดอย่าง “ชลน่าน ศรีแก้ว” แถลงถึงคำสั่งแต่งตั้งก็ดูไม่กระตือรือร้นเท่าใดนัก และเมื่อ มีคนถามถึงเรื่องแคนดิเดต “ชลน่าน” ก็บอกเพียงว่าเป็นข้อชวนคิดเท่านั้น ซึ่งผิดปกติวิสัยขี้ใหม่หมาหอมอย่างแท้จริง หรือเพราะงานนี้ “เศรษฐา” มาแบบตัวและใจเท่านั้น ไม่ได้ลงทุนอะไร “สัมภเวสี” เลยไม่ถูกใจเท่าใดนัก ...๐
ในขณะที่ท่าทีของ “เศรษฐา” เองก็ไม่ได้ดี๊ด๊าเหมือนตอนลงพื้นที่เยาวราชแต่ประการใด ซ้ำร้ายยังสัมภาษณ์ให้ต้องตีความอีก ว่า “ยังไม่ 100% หรือไม่กับงานทางการเมือง ขอค่อยเป็นค่อยไป” งานนี้สงสัยเจ้าตัวกำลังชั่งน้ำหนักอยู่ว่าจะพร้อมถูกขุดถูกแฉหรือไม่หากโดดสู่สนามการเมือง โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ปั้นมากับมือ ...๐
แวะมาฝั่ง อัยการสูงสุดในยุค “น.ส.นารี ตัณฑเสถียร” กันบ้าง เพราะล่าสุดได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนและที่มีผู้มาร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีคณะทำงาน 5 คณะ ในการตรวจสอบ คดีเผาสวนงูภูเก็ต, คดี ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดกับพวก, คดีนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก, คดีมาวินเบต ดอทคอม, คดียาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 4 เเสนเม็ดที่ จ.นนทบุรี และคดีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก ตามหนังสือร้องเรียนของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ด้วย งานนี้ต้องปรบมือดังๆ ให้ อสส. ซึ่งชาวบ้านเขาบอกว่าขอให้ตรวจจริงและเช็กบิลจริง อย่าแค่สร้างภาพแบบขอไปที สุดท้ายปล่อยให้เรื่องเงียบไปสายลมเหมือนที่ผ่านมานะจ๊ะ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



