บันทึกหน้า4

เริ่มนับถอยหลังอีกไม่เกิน 7 วันสำหรับวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะใช้อำนาจในมือในการยุบสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่แปลกที่จะทำให้บรรดา นักการเมืองทั้งหลายที่เคยแทงกั๊กก็เริ่มจะหงายไพ่ของตัวเองขึ้นมาแล้ว ไล่มาตั้งแต่ “จุติ ไกรฤกษ์” รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2540 ก็โบกมือลาพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ของ “บิ๊กตู่” แล้วเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 แต่เพิ่งมาเฉลยกันในวันพุธที่ 15 มี.ค.นี้ ...๐

ส่วนขาแทงกั๊กอย่าง “ดูโอ” “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม

ที่ยักท่ามานานแสนนาน รัฐมนตรีเรียงหินก็ไปโพล่งกลางงานตรวจเรือนจำที่จังหวัดพิจิตรว่าย้ายพรรคใหม่ และจะเปิดใจในวันที่ 17 มีนาคมนี้ โดยเกริ่นนำแค่เบื้องต้นว่าลมฟ้าอากาศเปลี่ยนไป แหม! สงสัย “สมศักดิ์-สุริยะ” จะเป็นแฟนพันธุ์แท้กรมอุตุนิยมวิทยา จึงได้อ้างเรื่องลมฟ้าอากาศในการย้ายค่ายย้ายสังกัด งานนี้เลยบอกได้คำเดียวว่า “กลุ่มสามมิตร” กลายเป็นอดีตไปแล้วสำหรับพลังประชารัฐ เพราะต่างแตกฉานซ่านเซ็นกันไป ...๐

ไม่ต่างจากกลุ่ม 16 ที่มี “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นหัวหอก เพราะล่าสุดก็ประกาศลาออกไปซบพรรคใหม่ถอดด้ามอย่าง “พรรคเปลี่ยน” ที่มี “พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์” หรือ “นอท กองสลากพลัส” เป็นผู้นำ การประกาศของ “พิเชษฐ” ก็เล่นเอา “คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทยก็ต้องหน้าเสียกันเลยทีเดียว เพราะ ก่อนหน้านี้ “คฑาเทพ” ประกาศว่า “พิเชษฐ” และบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยจะย้ายมาซบ และล่าสุดถึงขนาดประกาศว่าได้จับมือ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือตี๋เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์เพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งกันแล้ว เพราะแค่สมาชิกพรรคคนดังที่ประกาศยังไม่ชัวร์แบบนี้ เป้าใหญ่ที่จะเป็นรัฐบาลสมัยหน้าก็ต้องบอกว่าเลิกฝันได้เลย ...๐

หันมาทางพรรคแลนด์สไลด์ 310 เสียงกันบ้าง เพราะพรรคประกาศก้องอยู่เสมอทั้งการแก้ไขปัญหาสารพัดอย่าง บอกว่าเลือกเพื่อไทยจะรวยกันจนตาไม่หลับ ลืมตาอ้าปากได้เพราะมี บุคลากรคับคั่งเต็มพรรคไปหมด แต่ทำมั้ยทำไมยังต้องเกาะชายกระโปรงคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อายุ 7-8 เดือนอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” หรืออุ๊งอิ๊ง กันด้วยเล่า ในเมื่อบอกว่ามีคนเก่งเต็มพรรคขนาดนั้น ก็ให้คุณแม่อิ๊งค์ดูแลสุขภาพอยู่บ้านเพื่อให้เชื้อสายตระกูลชินวัตรออกมาอย่างเข้มแข็งแข็งแรงไม่ดีกว่าเหรอ ...๐

แล้วที่ ขำไม่ออกเข้าไปอีกคือ กรณี “เศรษฐา ทวีสิน” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งไปลงพื้นที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างภาพนั่งกินข้าวกับชาวนา นั้น ก่อนให้สัมภาษณ์เรื่องหุ้นแสนสิริที่ถืออยู่ว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินงานทางการเมือง ได้โอนหุ้นให้แก่บุตรสาว “ชนัญดา ทวีสิน” บุตรที่บรรลุนิติภาวะทั้งหมดแล้ว เจ้าประคุณรุนช่อง เพิ่งรู้และตาสว่างกันคราวนี้ว่าพ่อโอนหุ้นให้ลูกแล้วบอกว่าจะได้เล่นการเมืองอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ...๐

พิโธ่! ถ้าพ่อจับพลัดจับผลูเป็นนายกฯ คนที่ 30 ขึ้นมา แล้วมีนโยบายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แล้วบังเอิญพูดคุยกับลูกในขณะกินข้าวหรือนั่งเล่นพักผ่อนกันในวันหยุดจะเกิดอะไรขึ้นเล่า ถ้า “แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย” ต้องการทำตัวให้บริสุทธิ์จริง ก็ควรเลียนแบบ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่เคยสวมหัวโขนเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในการโอนหุ้น-ทรัพย์สินเข้ากองทุน blind trust ก่อนลงสู่สนามการเมืองนะตัวเอง เพราะการโอนหุ้นให้ลูกแล้ว พยายามเอาเรื่องภาษีที่ต้องชำระมาเคลมว่าบริสุทธิ์นั้น มันคนละเรื่องเดียวกันเลย แล้วที่ชาวบ้านเขาข้องใจหนักหนาอีกเรื่องนั้นก็คือ การสร้างภาพติดดินไปกินข้าวกับชาวนาและรากหญ้าตามคำของพรรคเพื่อไทยนั้น ชาวบ้านเขาฝากถามกันมาว่า ทำไมไม่ชวนชาวนาและรากหญ้าไปกินข้าวที่บ้านของ “เศรษฐา” หรือ “อุ๊งอิ๊ง” กันบ้างเล่า หรือจะกลัวว่าเมื่อรากหญ้าตัวจริงไปแล้ว ภาพที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมาจะโป๊ะแตกกันล่ะจ๊ะ ...๐

ทิ้งท้ายด้วย “แอปหมอพร้อม” กันบ้าง เพราะชาวบ้านด่ากันขรมหลังการอัปเดตใหม่ในเรื่องประวัติสุขภาพที่แอปได้พยายามทำขึ้นมา คือเหมือนให้มีเมมโมรีเกี่ยวกับสุขภาพติดตัวจะได้ง่ายในการดูแลเรื่องสุขภาพ แต่ที่ชาวบ้านเขามึนคือทำไมต้องไปพิสูจน์ตัวตนถึงสถานพยาบาลกันด้วย เพราะ ขนาดแอปแบงก์ทั้งหลายที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายกันมากกว่า เขายังยืนยันผ่านระบบออนไลน์กันได้แล้ว นี่จะยกระดับทั้งที แต่ยังทำเหมือนยุคต้องไปรับบัตรคิวไปยืนยันตัวที่สถานพยาบาลกันอีก แล้วจะอัปเกรดไปให้เปลืองงบประมาณและภาษีประเทศไปทำไม ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.