'วันนี้ถือศีล-พรุ่งนี้ถือสาก'

เนื้อเรื่องเป็นการรำลึกถึงการเสียสละของ "ทหารผ่านศึกไทย" ที่เข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี เพื่อปกป้องเสรีภาพและธำรงไว้ซึ่งสันติภาพของเกาหลี

สงครามระหว่าง "เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้" เกิดขึ้นราวๆ ปี ๒๔๙๓ สู้รบกันเป็นเวลา ๓ ปีจึงสงบลง เมื่อ ๒๗ กรกฎาคม ๒๔๙๖

ทหารไทยรบสร้างเกียรติประวัติจารึกจำให้ชาวเกาหลี ถึงขั้นแม่ทัพสหรัฐตั้งฉายาให้ว่า "Little Tiger" หรือ "กองพันพยัคฆ์น้อย" เป็นการยกย่องความกล้าหาญของกองพันทหารไทย

และพี่น้องชาวเกาหลี....

มีคำกล่าวที่สะท้อนความรู้สึกต่อทหารไทยว่า

"ไม่มีทหารผ่านศึกไทย ไม่มีไอดอลเกาหลี"!

เพื่อการระลึกรู้นี้ "นายโจ แจอิล" ผู้อำนวยการ ในนาม "ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย"

และ "คาเคาเว็บตูน" ในนาม "บริษัทคาเคา" จากเกาหลี จึงเปิดตัวซีรีส์เว็บตูนเรื่อง “ข้ามเวลาตามหาเมน” เมื่อ ๒๔ ก.ย.๖๕

เค้าโครงเรื่อง ถอดจากการให้ปากคำอดีตทหารผ่านศึกไทย โดย "ศูนย์วัฒนธรรม" และผู้เขียนเกาหลี “เสือ คิม (Suea Kim)”

 ได้พูดคุยกับทหารผ่านศึกชาวไทยที่ยังมีชีวิตอยู่โดยตรง ด้วยตนเอง

จากนั้นมอบให้นักวาดการ์ตูนชาวไทย “fynnyx” ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต (สาขานิเทศศิลป์) ม.บูรพา วาดภาพประกอบ

ตามชื่อเรื่อง นวนิยายอิงประวัติศาสตร์แฟนตาซี เริ่มจากการหายตัวไปของ “เค” หัวหน้าวงเคป๊อปบอยแบนด์เกาหลียอดนิยม “Little Tiger ลิตเติล ไทเกอร์”

การมีตัวตนของเค ไม่อยู่ในความทรงจำของคนทั่วไป

แต่ในความทรงจำของแฟนตัวยงอย่าง “พิม” แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งแล้ว กลับเป็นคนเดียวที่จดจำเขาได้

มีเหตุการณ์ทำให้พิมต้องย้อนเวลากลับไปสู่อดีต ช่วงสงครามเกาหลีปะทุขึ้น       

การเดินทางของพิมเต็มไปด้วยการเผชิญหน้ากับทหารไทยรุ่นเยาว์และเห็นถึงความเสียสละของพวกทหารเหล่านั้น

"นายโจ แจอิล" ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีกล่าวว่า

 “แม้ว่ากระแส K-pop จะเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นไทย แต่พวกเขาแทบจะไม่เคยทราบถึงความเสียสละของทหารผ่านศึกไทยในสงครามเกาหลี ที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกาหลีในครานั้น”

 “การตระหนักรู้นี้ เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เราเปิดตัวซีรีส์คอมมิคเรื่องนี้ เพื่อให้พวกเขาจดจำทหารผ่านศึกไทยได้

ผมยังหวังว่า ซีรีส์คอมมิคเรื่องนี้ จะส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองประเทศ และจะเป็นความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จระหว่างเกาหลีและไทยอีกด้วย”

ครับ....

ความเป็นมาของเรื่องประเภท "บุพเพสันนิวาส" ภาคเกาหลี ก็ประมาณนี้

หวังว่าแฟนๆ ขาประจำ-ขาจร คงจะติดตามและประทับใจ กับการ์ตูนที่ไทยโพสต์กับศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย นำเสนอนะครับ

เอาละ เข้าเรื่องการเมือง "ล่มบ้าน-ขายเมือง" กันต่อ

อย่าถามนะครับว่าโหวตนายกฯ และการตั้งรัฐบาลไปถึงไหน เพราะเจ้าภาพเองคือ "เพื่อไทย" ณ นาทีนี้ ก็ยังตอบไม่ได้ว่า ตกลง...ตูจะไปทางไหน?

เพราะคนตัดสินใจ ไม่ใช่อุ๊งอิ๊ง ไม่ใช่ชลน่าน ไม่ใช่ สส.เพื่อไทย ๑๔๑ คน และไม่ใช่คณะ "หลี่กงกง" ในห้องแอร์

โน่น คนตัดสินใจชื่อ "โทนี่ วู้ดซัม" อยู่นอกประเทศโน่น!

ถ้าใครบอกว่า....

"นี่เป็นการครอบงำพรรคจากคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค โทษถึงขั้นยุบพรรคนะ แบบนี้"

พูดได้ แต่...ไหนล่ะใบเสร็จ เอามาดูซิ?

ก็แหงแก๋ไป.....

เพราะกฎหมายไทยแค่มีเอาไว้บนพานรัฐธรรมนูญ ส่วนจะเอามาใช้ ต้องดูก่อนว่า "ใช้กับใคร" และคนของใครเป็นผู้ใช้!

ผมดูข่าวแต่ละวัน เห็นเก็บเอาหญ้าใต้ตีน ที่ย่ำแล้วย่ำอีกจนช้ำกลับมาเคี้ยวเอื้องหน้าจอ จนเอียน

พรรคนั้น-ผสมพรรคนี้, ขั้วนั้น-จับขั้วนี้ วนไป-วนมา อยู่แค่นั้น เหมือนหมอปลายอะไรนั่น พญายมมากระซิบ วันนี้..คนนี้นายกฯ, พรุ่งนี้..คนโน้นนายกฯ

กู..พญายอ ก็กระซิบได้ (วะ) แบบนี้!

เมื่อไหร่จะไปเป็นนายกฯ สมาคมผีพรายปลายกระซิบอยู่กับพญายมซะทีก็ไม่รู้

ช่างมันซะบ้างก็ดีนะ เรื่องตั้งรัฐบาล เรื่องใครนายกฯ ชาวบ้านจะได้ไม่เป็นโรคจิตตามไปกับพวกจริตข่าวรายวัน

ถึงเวลามันมีเองแหละ เพราะทุกอย่างมันมี "กรอบเวลา" ให้เดินอยู่แล้ว

จะร้อนรนกันไปไย โลกทั้งใบ ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องตั้งรัฐบาลให้ต้องนำมาพูดจากันเรื่องเดียวหรอก

ไปทีละขั้นตอนก็ได้....

อย่างพรุ่งนี้ ๓ ส.ค. เรื่องที่ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

รูปธรรมมีว่า "พิธาที่ตกไปแล้ว จะนำกลับมาเสนอเป็นนายกฯ ได้อีกหรือไม่?"

และศาลฯ นัดฟังคำสั่งว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องไว้พิจารณาวินิจฉัย

พรุ่งนี้ ก็จะชัดไปอีกเรื่อง แล้วรุ่งขึ้น ๔ สิงหา.รัฐสภาจะเปิดประชุม ให้เสนอชื่อคนเป็นนายกฯ ให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเลือก

ฉะนั้้น วันที่ ๒ วันที่ ๓ สิงหา. ใครจับขั้ว-ไม่จับขั้วกับใคร และจะเสนอใครเป็นนายกฯ มันก็ต้องชัดเจนออกมา เพื่อไปโหวตนายกฯ กัน วันที่ ๔ สิงหา.

ฉะนั้น ไม่ต้อง "บ้าข่าว" ไปกับพวกกูรู จนเป็น "กูหลง" ตามเขาไป

เพื่อไทยเขาเป็นแกนจัดตั้ง ใน ๓ ว่าที่นายกฯพรรค "อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม" ใครคนใด-คนหนึ่งนี่แหละ จะได้รับการเสนอเป็นนายกฯ

เห็นเขาว่าเป็น "เศรษฐา"!

สิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่จะได้ ๓๗๖  เสียงขึ้นไปจากที่ประชุมรัฐสภาเป็น "นายกฯ" หรือไม่ ก็ต้องดู

๑.เพื่อไทยตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคไหนบ้าง?

๒.สว.ร่วมโหวตให้จนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา คือ ๓๗๖ เสียงขึ้นไปหรือไม่?

ก็ง่ายๆ แค่นี้ ถ้าเพื่อไทยมีพรรคก้าวไกล มีพรรคเป็นธรรมร่วม และไม่ประกาศให้ชัดเจนว่า จะแก้มาตรา ๑๑๒ หรือไม่ ก็อาจไม่ได้เสียงสนับสนุนจากสว.

เพราะต้องไม่ลืม.......

เพื่อไทยสนับสนุนการยกเลิก/แก้ไข มาตรา ๑๑๒ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในสภา-ในถนน มาตลอด

ลำพัง "สักแต่ว่าพูด" เพื่อหวังหลอกเอาเสียงจาก สว. จากนั้น ก็ไปร่วมกันเขียนรัฐธรรมนูญชนิด "ไม่ยกเลิกก็เท่ากับยกเลิก" กันทีหลัง

ตรงนี้ ก็อยู่ที่บรรดา สว.นั่นแหละว่า จะเข้าถึงคำพังเพยที่ว่า "ไก่เห็นตีนงู-งูเห็นนมไก่" และจับไต๋-รู้ทันในกลเกมการเมืองเรื่อง "คนตาบอดไม่กลัวเสือ" มากน้อยขนาดไหน?

ก็ต้องดูหน้างาน วันที่ ๔ สิงหา.นั่นแหละ

และมันก็มีโอกาสเป็นได้ เพื่อไทยประกาศไม่มีก้าวไกลร่วมก็จริง

แต่พอโหวต ก้าวไกลกลับโหวตนายกฯ ให้เพื่อไทย ในขณะที่ สว.บางท่านหลงเข้าใจว่าไม่มีก้าวไกลร่วม ก็โหวตให้เพื่อไทย จนคะแนน ทะลุเกิน ๓๗๖ ก็เป็นได้!

พอได้นายกฯ แล้ว เพื่อไทยกลับไปเอาก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาล มันก็เป็นสิทธิ์ของเพื่อไทย ไม่มีตรงไหนที่กฎหมายห้าม

มีตรงเดียวที่จะห้าม ตรงที่ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" น็อกมืด

จาก สว.ตีไพ่โง่!

ฉะนั้น ผมว่า โหวตนายกฯ ๔ สิงหา.อาจไม่จบ ถ้าเพื่อไทยไม่แสดงความ "จริงใจ-ใสโปร่ง" ในพรรคร่วม และพรรคร่วมไม่พูดจากับเพื่อไทยให้เคลียร์คัตในคำมั่น

ต้องไม่ลืม "การเมืองคือเรื่องสับปลับ" คำพูดคน ใช้หูฟัง แต่ใจคนนั้น ต้องใช้ใจเหนือโลภฟัง

ลำพัง "เศรษฐา" ใช่ว่าแท่งแก้วใสบริสุทธิ์ในแว่นขยายของ สว. ดังนั้น โอกาสรีเจกต์สูง

สูงเท่ากับโอกาส "โหวตรอบที่ ๓" ตามวรรค ๒ ของมาตรา ๒๗๒ ที่เปิดโอกาสให้เสนอ "คนนอก" เป็นนายกฯ ได้ นั่นแหละ

วันนี้เข้าพรรษา "ถือศีล"

พรุ่งนี้ มาดู "มุสา" การเมืองเรื่อง "หลอกกินเมือง" กันต่อ!    

คนปลายซอย