แต่งตั้ง 'นายพล' ป่วน!

เอ๊ะยังไง! "ตำรวจ" งงกันทั้ง "กรมปทุมวัน" เมื่อจู่ๆ "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องรัฐบาลรักษาการต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายยุติการแต่งตั้ง ขรก. ควรให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ เพราะจะมีผลต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่ โดยอ้างสาเหตุในช่วงเวลานี้ เป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาบริหารประเทศ จากนั้น "อนุชา นาคาศัย" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาตอบโต้ว่าการแต่งตั้งโยกย้าย ตำรวจ-ทหารนั้น เป็นสิทธิของรัฐบาลเก่า คราวนี้คนที่งงก็เป็นข้าราชการซิ โดยเฉพาะตำรวจที่ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ล่าสุด

กำหนดให้การแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" ตำแหน่ง ผบ.ตร. ลงไปถึง ผบก.ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค. ยิ่งปีนี้ ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 2566 หากจะรอรัฐบาลใหม่เข้ามาและมีอำนาจเต็มโดยสมบูรณ์ ก็น่าจะลากยาวเลยปลายเดือนส.ค.ไปแล้ว เพราะตอนนี้ก็จะครึ่งเดือนเข้าไปแล้ว การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่เสร็จเรียบร้อย ยังไม่รู้ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะให้รอรัฐบาลใหม่มาแต่งตั้ง "ข้าราชการ" งานการต่างๆ ไม่สะดุด ไม่พังกันหรือ โดยเฉพาะตำแหน่งที่เป็น "หัวหน้าหน่วย"

ได้ใจ "ลูกน้อง" อักโข สำหรับ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. หลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจชุดอาวุธพิเศษ นปพ.เชียงใหม่ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปทำการสอนในหัวข้อ ACTIVE SHOOTER ให้แก่คณะครูและนักเรียน ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ระหว่างเดินทางเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเกิดความเสียหาย เพราะฝนตกถนนลื่น แต่ได้รับการปฏิเสธการช่วยเหลือจากผู้บังคับบัญชาที่สั่งการ ตำรวจชุดที่ไปต้องหาเงินซ่อมรถกันเอง  พอ "บิ๊กต่อ" รู้จึงได้สั่งให้ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน จึงควักเงินส่วนตัวจำนวน 60,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซ่อมรถ....คนเป็นนายต้องแบบนี้ซิถึงจะได้ใจลูกน้อง เหมาะเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่พวกฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน แบบนี้ขึ้นมาก็มีแต่เสียงยี้

“ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” อีกหนึ่งโครงการดีๆ เป็นสวัสดิการดูแลเพื่อสร้างอาชีพให้เด็กพิเศษอย่างยั่งยืน ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่ในปี 2566 "ผบ.เด่น" เป็นประธานมอบความช่วยเหลือ ครอบครัวข้าราชการตำรวจที่มีบุตรเป็นเด็กพิเศษ ร่วมกับนางสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ได้รับความร่วมมือจากประธานชมรมแม่บ้านตำรวจแต่ละกองบัญชาการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีกองบัญชาการที่มีครอบครัวตำรวจเข้าร่วมโครงการ 18 กองบัญชาการ 491 ครอบครัว รวมเป็นเงินทุนสนับสนุน 5,888,700 บาท โดยแนวทางการช่วยเหลือแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1.สนับสนุนการหาอาชีพที่เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ และความสามารถของเด็ก โดยให้เด็กพิเศษที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีความพร้อม สามารถเข้าทำงานกับบริษัทเอกชน ส่วนราชการในพื้นที่ รวมถึงการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน 10 ราย และ 2.สนับสนุนเงินทุน และอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการชีวิตประจำวัน เช่น รถเข็นไฟฟ้าแบบปรับเอน ที่นอน กางเกงผ้าอ้อม เครื่องปั่นอาหาร นมผงและของจำเป็นอื่นๆ 481 ราย

ปรบมือดังๆ ให้ 4 นักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่สร้างชื่อได้รับรางวัลรองชนะเลิศ จากการแข่งขันการประนอมข้อพิพาทระดับนานาชาติ ประกอบด้วย นรต.ณัฏฐกิตติ์ โตทัพ, นรต.ประวันวิทย์ จำปีทอง, นรต.ธีรพัฒน์ บูชารัมย์ และ นรต.กรธน ชิงดวง เข้าร่วมการแข่งขันการประนอมข้อพิพาทระดับนานาชาติ ที่สถาบันอนุญาโตตุลาการ จัดขึ้นเพื่อแข่งขันเจรจาข้อพิพาทในสถานการณ์จำลองเชิงพาณิชย์ โดยทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ส่งทีม THAC RPCA เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกในระดับนานาชาติ ซึ่งจากการแข่งขันทุกครั้งที่ผ่านมาไม่มีทีมจากประเทศไทยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีม THAC RPCA  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ และได้รับคำชื่นชมจากคณะกรรมการ คณะผู้จัดการแข่งขัน ตลอดจนผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากชาติอื่นเป็นอย่างมาก สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ล่าสุด "ผบ.เด่น" ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จำนวน 4 นายเรียบร้อยแล้ว

ทางด้าน “โผทหาร” เริ่มมีการทยอยส่งบัญชีรายชื่อจากเหล่าทัพไปที่ กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหมแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามช่วงเวลาปกติที่มีแนวทางปฏิบัติไว้ไม่เกินวันที่ 15 ส.ค.นี้ ไม่ได้ช้าหรือเร็วตามจังหวะก้าวของการเมือง คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะของ รมว.กลาโหม และเป็นประธานบอร์ดปรับย้าย จะเรียกประชุมกรรมการที่ประกอบไปด้วย รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ ในสัปดาห์ถัดไป หรือ สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นเดือน ส.ค. ดังนั้นยังมีโอกาสที่ “โผ” จะพลิกจากชื่อที่เสนอขึ้นไปได้ แต่ที่ดูนิ่งสนิทตั้งแต่ต้นจนจบคือ ชื่อของว่าที่ ผบ.ทบ. ที่ชื่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ชื่อดังกล่าวก็จะผ่านฉลุยตามการเห็นชอบของทุกฝ่าย เช่นเดียวกับ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่ชื่อนิ่งในทำเนียบว่าที่ ผบ.ทหารสูงสุดมาพักใหญ่ เตรียมรับไม้ปรับทัพ ปรับนโยบายของกองบัญชาการกองทัพไทย ใน “ลุกส์อินเตอร์” เน้นการทูตทางการทหารรับทิศทางยุทธศาสตร์โลก

ในส่วนของการปรับย้ายตำแหน่งกองทัพภาค ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 คาดว่าจะมีการขยับ พล.ท.สวราชย์ แสงผล ขึ้นมาติดยศพลเอก ก่อนเกษียณอายุราชการในปีหน้า โดยมีการเสนอชื่อของ พล.ต.บุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ขณะที่กองทัพภาคที่ 3 พล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร  แม่ทัพคนปัจจุบันเกษียณ โดยมีการเสนอชื่อของ พล.ต.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน รองแม่ทัพภาคที่ 3 ที่สายปากน้ำโพ เคยดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.4 ก่อนข้ามฟากมาจากศูนย์การทหารราบ (ศร.) ปีที่แล้ว กลับมาเป็นรองแม่ทัพฯ เพื่อจ่อขึ้นแม่ทัพภาคที่ 3 ในโผนี้ ว่ากันว่าในทำเนียบฯ ชื่อของทหารหลายคนที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.เห็นฝีไม้ลายมือก็มาจาก ศร. หน่วยที่ “บิ๊กบี้” เคยแฉลบไปทำงานอยู่พักใหญ่ ทำให้คุ้นเคยกับอดีต ผบ.หน่วยที่นั่น รวมถึงกำลังพลระดับหัวกะทิ และอาจรวมถึง “เสธ.หยอย” พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ที่ขยับจากเจ้ากรมยุทธการทหารบก ขึ้นมาเป็นเสนาธิการทหารบก ซึ่งเจ้าตัวยังเหลืออายุราชการอีกหลายปี

ส่วนว่าที่ ผบ.ทอ.แว่วว่าชื่อที่เสนอขึ้นไปนั้นไม่ได้อยู่ในทำเนียบแคนดิเดต เพราะ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน ตัดสินใจฝ่าใช้สูตรฝ่ากระแสคลื่นแรงของเหล่าบรรดา ตท. 23 ที่ตีคู่กันมาถึง 3 คน ไปเลือก ตท. 24 ที่มีอายุราชการมากกว่า 1 ปี เพื่อมาทำโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ให้เกิดความต่อเนื่อง เลยเป็นข่าวสะพัดว่าชื่อของ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผช.ผบ.ทอ. เป็นชื่อที่ พล.อ.อ.อลงกรณ์เสนอขึ้นไป แต่ต้องไปลุ้นในระดับบอร์ด 7 เสือ กห.ว่าจะมีพลิกหรือไม่ เพราะครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะมี “ข้อมูลใหม่” ทำให้ชื่อของ พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา รอง ผบ.ทอ.มาแรงในโค้งสุดท้าย นอกจากโปรไฟล์ในทอ.ที่โดดเด่นแล้ว ในภาคของธุรกิจที่นั่งเป็นบอร์ดพลังงานก็ทำให้แรงหนุนเสียงดังขึ้น ส่วนกองทัพเรือ พล.ร.อ.เชิงชายชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร.คนปัจจุบันจัดโผแบบ “ปิดลับ” เนื่องจากศึกภายในวังเดิมในช่วงที่ผ่านมาหนักหนาสาหัส มีทั้งเกมใต้ดินบนดิน เปิดปฏิบัติการแฉความไม่ชอบมาพากลภายใน หากชื่อว่าที่หลุดที่กระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย ก็เชื่อได้ว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกได้ จึงต้องลุ้นว่าชื่อที่ออกมาจะตรงจากที่เสนอไปหรือไม่ เพราะแคนดิเดททั้ง 3 คน  ได้แก่ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผช.ผบ.ทร. พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสธ.ทร. และ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กองเรือยุทธการ ยังอยู่ในข่ายที่มีความหวังด้วยกันทั้งสิ้น แต่สุดท้ายและท้ายสุด โผส่งท้ายรัฐบาลนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะร่วมจัดวางให้เข้าที่เข้าทางแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' ชี้ตำรวจไซเบอร์ยังต้องทำงานหนัก แม้ภาพรวมจับเว็บพนันได้เยอะขึ้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ก.ตร. ไฟเขียวแต่งตั้ง 43 นายพลสีกากี 'สุรพงษ์ ชัยจันทร์' ผงาดที่ปรึกษาพิเศษตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ

ไฟไหม้ห้องทำงาน รองผอ.รร.เมืองตลุงพิทยาสรรพ์  คาดอากาศร้อนทำเบรกเกอร์ช็อต

เกิดเหตุไฟไหม้ห้องรอง ผอ.โรงเรียนมัธยม อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์ ลามไหม้ห้องวิชาการ  เสียหายทั้ง 2 ห้อง  ตรวจสอบพบเบรกเกอร์เครื่องปรับอากาศในห้องรอง ผอ. มีรอยไหม้ คาดไฟฟ้าลัดวงจร บวกกับอากาศที่ร้อนจัด

สายหื่นระวัง 4 ภัยมิจฉาชีพหลอกให้ตกเป็นเหยื่อ

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบัน