หากไม่ปฏิวัติการศึกษา เราก็แข่งกับใครไม่ได้

ผมยืนยันได้ว่าหากรัฐบาลเศรษฐาไม่ยอมทำเรื่อง “ปฏิรูปการศึกษา” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไทยก็จะไม่มีทางแข่งขันกับเพื่อนบ้าน

และอีกไม่ช้าไม่นาน เราก็จะเป็นประเทศที่มีความสามารถด้านความรู้และทักษะเป็นอันดับสุดท้ายของอาเซียน

เพราะเมื่อมาตรฐานการศึกษาของเรารั้งท้าย เด็กไทยไม่ได้รับการฝึกสอนให้ “คิดวิเคราะห์” เป็น แต่พูดตามคนอื่นแบบนกแก้วนกขุนทอง ถูกจูงจมูกได้ง่าย เศรษฐกิจเราก็จะล้าหลัง

เพราะยุคดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างหนักหน่วงนั้นต้องการคนที่คิดเองได้ ทำเองเป็น

ประเภทที่ทำอะไรซ้ำๆ แบบเดิมจะถูกแทนที่โดย “ปัญญาประดิษฐ์” อย่างแน่นอน และความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหล่านี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด

เดิมเราเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ จะเกิดขึ้นทุก 10 หรือ 20 ปี

แต่จากนี้ไปโลกจะพลิกไปมาตลอดเวลา และเกือบทุก 6 เดือน เราจะเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

เรื่องของภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในประเด็นที่เราต้องเอาจริงเอาจัง

ตามมาด้วยการยกมาตรฐานของมหาวิทยาลัยที่ต้องเน้นสร้างคนที่มีวิสัยทัศน์, กรอบความคิดและจินตนาการที่ “สั่ง” AI ให้ทำตามที่เราต้องการ ก่อนที่จะถูกแทนที่โดยปัญญาประดิษฐ์

ตาราง 2 ชุดนี้สะท้อนถึงความล้าหลังของระบบการศึกษาไทยอย่างเห็นได้ชัด

ตารางหนึ่งสะท้อนถึงดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ (EF English Proficiency Index) ประจำปี 2023 ซึ่งประเทศไทยมีดัชนีต่ำสุดในบรรดา 8 ประเทศกลุ่มอาเซียนที่มีการวัดผล

ไทยถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 101 จาก 113 ประเทศ ด้วยคะแนน 416 ลดลงจากอันดับ 97 จาก 111 ประเทศทั่วโลก เมื่อปี 2022

อีกตารางหนึ่งยิ่งต้องทำให้เราหนักใจ เพราะเห็นได้ชัดว่านอกจากมหาวิทยาลัยจะแพ้สิงคโปร์และมาเลเซียมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว สถาบันอุดมการศึกษาชั้นสูงของเวียดนามยังแซงหน้าของไทยเราไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด

หนทางที่จะแก้ไขปัญหาทั้ง 2 คือต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานทางความคิด

และต้องไม่มองเฉพาะเรื่องของระบบการศึกษาเท่านั้น

แต่ต้องมองกว้างไกลกว่านั้น นั่นคือคุณภาพระบบการศึกษาและความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา

ความอ่อนแอของคุณภาพระบบการศึกษาเกิดจากหลักสูตรและวิธีการเรียนการสอนที่ยังล้าหลัง

แม้จะพยายามปรับปรุงแล้ว แต่คุณภาพครูก็ยังไม่ตอบโจทย์จริงๆ ได้

อีกทั้งกฎเกณฑ์กติกาของกระทรวงศึกษาธิการก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญในอันที่จะให้ครูต่างชาติเข้ามาสอนเด็กไทย

ทั้งๆ ที่ครูคนไทยที่จะสอนภาษาอังกฤษให้ได้มาตรฐานยังขาดแคลนอย่างหนัก

ต้องไม่ลืมว่าเด็กไทยไม่ได้มีจำนวนชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ แต่ผลการเรียนสะท้อนว่าชั่วโมงเรียนที่มากกว่า หรือแม้แต่ความขยันขันแข็งที่ไม่น้อยไปกว่าชาติอื่นก็ไม่อาจจะทำให้เกิดทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

แต่ที่เป็นปัญหาร้ายแรงไม่น้อยไปกว่ากันคือ ความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา

เด็กไทยจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพในระดับใกล้กัน

ไม่ต้องพูดถึงช่องว่างที่เพิ่มขึ้นทุกทีเมื่อเราเห็นเด็กไทยจำนวนหนึ่งมีโอกาสไปต่อต่างประเทศ หรือหากผู้ปกครองส่งเสียได้ก็เรียนในโรงเรียนนานาชาติ หรือเรียนในโรงเรียนที่จัดหลักสูตรภาษาอังกฤษที่เรียกว่า English Programme หรือ EP)

วันก่อนผมอ่านเจอข้อเสนอของ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ที่เคยทำ startup เรื่องการศึกษาเสนอวิธีปฏิรูปเรื่องนี้ 5 ด้านรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการสามารถดำเนินการได้ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนและเยาวชนทั่วประเทศ

ผมคิดว่าน่าสนใจและตรงกับที่ผมเชื่อว่าควรจะเป็นแนวทางที่รัฐบาลจะต้องนำไปพิจารณา นั่นคือ

 1.ออกแบบหลักสูตร การสอน การประเมินวิชาภาษาอังกฤษใหม่ เช่น ปรับหลักสูตรวิชาภาษาอังกฤษ ให้เน้นด้านทักษะการสื่อสารหรือการ “ใช้” ภาษาเป็นหลัก มากกว่าเน้นแค่เพียงหลักภาษาและไวยากรณ์

ต้องช่วยกันทำให้ห้องเรียนภาษาอังกฤษเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ที่ช่วยให้ผู้เรียนกล้าลองผิดลองถูกในการใช้ภาษา และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เพิ่มสัดส่วนวิชาและกิจกรรมในโรงเรียนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ดำเนินการพร้อมกับการออกแบบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ด้านภาษาอังกฤษ ที่เน้นการพัฒนาทักษะและสมรรถนะ มากกว่าเพียงการอัดฉีดเนื้อหา

2.ยกระดับการอบรมทักษะภาษาอังกฤษของครูไทย เช่น เพิ่มความเข้มข้นในการอบรมครูไทยด้านภาษาอังกฤษทั้งในระดับสถาบันผลิตครู (pre-service training) และการพัฒนาทักษะในงาน (in-service training)

อีกทั้งต้องเน้นการกระจายงบอบรมครูที่ปัจจุบันกระจุกอยู่กับส่วนกลางทั้งหมด ไปเป็นการให้งบตรงไปที่โรงเรียนและครูแต่ละคนในการซื้อคอร์สพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์ด้านที่ตนเองต้องการพัฒนา

3.ทำ MOU กับประเทศหรือเมืองอื่นๆ เพื่อให้มีโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างครูสอนภาษาอังกฤษในต่างประเทศและครูไทยที่สอนภาษาอังกฤษ เช่น เพิ่มสภาพแวดล้อมที่นักเรียนไทยได้ฝึกสื่อสารภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติที่มาสอนในประเทศไทย ยกระดับทักษะครูไทยที่จะมีประสบการณ์ไปสอนในโรงเรียนที่ต่างประเทศ

4.ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียน เช่น พิจารณาจัดสรร “คูปองเปิดโลกเรียนรู้” สำหรับเด็กและเยาวชนในการเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งอาจรวมถึงคอร์สหรือกิจกรรมที่มีการใช้ภาษาอังกฤษ จัดทำแพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่รวบรวมคอร์สพัฒนาทักษะ เช่น คอร์สภาษาอังกฤษ จากผู้ผลิตเนื้อหาในภาคเอกชนและภาควิชาการ โดยเปิดให้ประชาชนทุกคนเรียนได้ฟรีไม่จำกัด เพิ่มจุดที่ประชาชนได้สัมผัสกับภาษาอังฤษในชีวิตประจำวัน เช่น การเพิ่มบทบรรยายภาษาอังกฤษใต้ภาพ (subtitles) สำหรับข่าวสาร ละคร รายการในโทรทัศน์

5.รณรงค์ให้สังคมไม่มีค่านิยมที่ให้ความสำคัญมากเกินไปกับเรื่องสำเนียง (accent) จนทำให้เด็กหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ไม่กล้าสื่อสารภาษาอังกฤษ เช่น สร้างความเข้าใจว่าการออกเสียง (pronunciation) ให้ชัดถ้อยชัดคำเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการให้คู่สนทนาเข้าใจสิ่งที่เรากำลังสื่อสาร แต่สำเนียงไม่ควรถูกมองว่าเป็นสาระสำคัญ

เนื่องจาก “สำเนียงที่ถูกต้อง” แม้ในเชิงทฤษฎี ก็อาจไม่มีอยู่จริง ในเมื่อภาษาอังกฤษได้กลายเป็นภาษาที่ถูกใช้กันโดยคนในหลายประเทศทั่วโลกด้วยสำเนียงที่หลากหลาย หรือแม้แต่คนในประเทศสหราชอาณาจักรเอง ที่ถูกมองว่าเป็นต้นตำรับภาษาอังกฤษ ก็ยังมีหลายสำเนียงที่แตกต่างออกไปในแต่ละภูมิภาค

นอกเหนือจาก 5 ข้อนี้แล้ว ผมคิดว่าแต่ละท้องถิ่นมีปัญหาที่แตกต่างกันไป รัฐบาลและเอกชนจะต้องร่วมมือกันสร้างรูปแบบการพัฒนาการเรียนการสอนทั้งหลักสูตรหลักและภาษาต่างประเทศให้สอดคล้องกับสภาพของแต่ละชุมชนให้จงได้

หาไม่แล้วเราจะกลายเป็น “คนป่วยของเอเชีย” แห่งยุคสมัยทีเดียว!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’

ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon  โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ