"บริหารให้เลวเพื่อกู้"?

เพิ่งรู้.........

"มังกรทอง" ของแท้ที่ "ทำเนียบฯ" คือ "นายกฯ เศรษฐา" นี่เอง!

๑๐ กุมภา.เป็นวัน "ตรุษจีน"

เมื่อวาน (๕ กุมภา.) จึงเผยร่าง "มังกรทอง" ตัวจริงในชุดแดงให้เห็นที่ทำเนียบฯ นักข่าวเงี้ย...แทบฮือปิดทอง!

ตรุษจีน ก็ต้องแต๊ะเอีย เพราะอย่างนี้กระมัง....

ช่วงนี้ จึงเห็น "มังกรทอง-เศรษฐา" ตะกายกู้ ๕ แสนล้านมาแจก ชนิดที่เรียกว่า "ต้องเอาให้ได้" ทุกลมหายใจ!

วานซืน อ่านผู้จัดการออนไลน์ เขานำข้อความที่ท่านโพสต์เฟซลงเป็นข่าวไว้ว่า

"การที่เงินเฟ้อติดลบมา ๔ เดือนติดต่อกัน ย่อมเป็นสัญญาณความอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง

และเป็นการเตือนให้รู้ว่า นโยบายการคลัง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และนโยบายการเงินที่เป็นหน้าที่ของแบงก์ชาติจะต้องสอดประสานและเดินไปด้วยกัน ถ้าต่างคนต่างทำคงจะแก้ปัญหาได้"

ตรงข้อความ "ถ้าต่างคนต่างทำคงจะแก้ปัญหาได้" นี่

แฟนคลับ "Srettha Thavisin" ข้องใจครับ?!

นายกฯ โพสต์ย้ำอีกที ก็น่าจะดีนะ

ว่าท่านหมายความตามนั้น หรือเป็นเพราะผมไม่เข้าใจ "ภาษาสื่อ" ที่ท่านใช้ไปเอง?

ก็เว้นประเด็นนั้นไว้ คุยในประเด็นที่ท่านโพสต์ว่า "เงินเฟ้อติดลบมา ๔ เดือนติดต่อกัน ย่อมเป็นสัญญาณความอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง...." นั่นดีกว่า

คือ ผมสังเกตว่า ตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ ท่านนายกฯ หุ่น คือเศรษฐา นายกฯ น้อย คือหมอมิ้งค์ และนายกฯ ตัวจริง คือภูมิธรรม

ท่องเป็นสูตรคูณทั้งหลับ-ทั้งตื่น เงินเฟ้อติดลบ...เศรษฐกิจวิกฤต ต้องกู้มาแจก คนละหมื่นบาท รวม ๕ แสนล้านบาท

ฟังดู มันพิกลนะ!?

ก็เพื่อไทยเป็นรัฐบาลอยู่ตอนนี้มิใช่หรือ เห็นหาเสียงว่า ถ้าได้เข้ามา จะรีบแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน แก้ปัญหาเศรษฐกิจทันที

นี่ก็เข้ามาร่วมครึ่งปีแล้ว?

ทำไมไม่แก้ให้เศรษฐกิจมันดี ค้าขายดี ชาวบ้านมีกิน อย่างที่พูดหาเสียงไว้ล่ะ?

มันหมดเทศกาล "เสือหิว" หลอกคาบ "คนตาบอด" เป็นเหยื่อไปนานแล้ว!

ตอนนี้ มันเข้าสู่โหมดต้อง "เอาที่โม้มาทำ" ให้ชาวบ้านเห็นว่า "ทำได้จริง" ตามโม้แล้ว

ถ้าเป็นการทำนา เมื่อเข้าเดือนที่ ๖ กล้าที่ปักดำ ถึงยังไม่ออกรวง แต่ต้น-เห็นใบ มันต้องปรากฏ เป็นที่หวังได้แล้วว่า

๒-๓ เดือนข้างหน้า กล้าจะเป็นรวง จากรวงจะเป็นเงิน!

แต่นี่อะไรกัน....

"รัฐบาลประยุทธ์" ถ้าเป็นคนตาย ป่านนี้ไปผุด-ไปเกิด อยู่วิมานชั้น ๑๔ หรือชั้นไหนๆ ตั้งนานแล้ว

ตัวเองมาเป็นรัฐบาล เสวยอำนาจ รวยยศ รวยตำแหน่ง กลับด่ารัฐบาลชาติที่แล้ว ว่าบริหารเฮงซวย

งั้นก็ ๖ เดือนนี่ รัฐบาลนี้ เอาแค่ "เฮงซวย" ให้ได้ซักเสี้ยวรัฐบาลประยุทธ์ ผมก็ว่าเก่งแล้ว

แต่นี่ มันยิ่งกว่าเฮงซวยซะอีก

ที่ตดให้หมาดมไว้ มีอะไรซักอย่างเอามาทำให้เห็นจริงได้ในทางแก้ปัญหาถาวรบ้าง?

พอชาวบ้านทวงสัญญา ก็โบ้ยไปโทษ "รัฐบาลประยุทธ์"

ทั้งที่้ตัวเองเข้ามาบริหารจะครึ่งปีแล้ว

อย่าลืมว่า....

เวลานี้..ขณะนี้..ชั่วโมงนี้..นาทีนี้ โทษใครที่ไหนเขาไม่ได้แล้ว เพราะเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล "เพื่อไทย" เต็มร้อยแล้ว

นโยบายไหน ที่ว่าดีกว่า ที่ว่าใช้แก้ปัญหาได้ "คิดใหญ่-ทำเป็น" ก็งัดมาแก้-มาทำซี

เอาเข้าจริง...ขอโทษ "สุนัขไม่รับประทาน"

วันๆ เอาแต่ท่อง "เศรษฐกิจวิกฤต ต้องกู้มาแจก"!

บริหารด้วยการ "กู้มาแจก"

แล้วทิ้งหนี้สาธารณะให้ประชาชนรับภาระใช้หนี้ตกทอดเป็นมรดกลูกหลาน

แบบนั้น ไม่ต้องให้ "เพื่อไทย-เศรษฐา" มาเป็นรัฐบาลก็ได้

ทำ "กล่องสุ่ม" ให้ชาวบ้านจับ ใครได้ ก็ให้มาเป็นนายกฯ ไม่ต่างกันตรงไหนเลย!

เป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ เขาให้มาแก้ปัญหา ไม่ใช่ให้เข้ามาสร้างปัญหา มาแก้ตัว และเอาแต่โทษรัฐบาลโน้น-นี้

ครั้นไล่ไป-ไล่มา รัฐบาลที่สร้างปัญหาให้บ้านเมืองไว้จริงๆ รัฐบาลไหนล่ะ?

ก็รัฐบาล "เพื่อไทย" ในระบอบทักษิณนั่นเอง!

โชคดีของอสัตย์ชาติ-กินเมือง ที่เกิดมาเป็นนักการเมืองระบบเลือกตั้งในสังคมประเทศ ที่เรียกว่า "ประเทศไทย"

เพราะคนไทย มีคำว่า "อะไรก็ได้" ประจำจิต

ต่อให้เรื่องชั่ว..เรื่องเลว เรื่องโกง เรื่องกิน เรื่องกังฉินเมือง เห็นๆ อยู่

คนไทยก็ยังบอก "ไม่เป็นไร...ใครๆ เขาก็ทำกัน"!?

เพราะอย่างนั้น พวกมีความรู้ทางเรียนสูง แต่มีสำนึกทางมนุษย์ต่ำ เขาจับทัศนคติทางสังคมได้ว่า

คนดี เป็นพวกไม่มีพิษ ไร้คนยำเกรง

สู้คนเลวไม่ได้ ยิ่งประเภท "เลวให้สุดขั้ว, ชั่ว...ชั่วให้สุดหาง"

ประเภทนี้ เกรด A ดังเปรี้ยงและได้ดี ล้านเปอร์เซ็นต์!

แถมมีคนนับหน้า-ถือตา มาคารวะ ขอเซลฟี่ ลงเลือกตั้งท้องที่ไหน เสาไฟฟ้าว่าชัวร์ ยังสู้พวก "ชั่วสุดหางไม่ได้"

เห็นๆ กันอยู่มิใช่หรือ ทั้งตัวผู้และตัวเมีย!

เนี่ย....

พวกฉลาดเล่ห์ จึงทำเป็นเทิดทูนพิทักษ์ประชาธิปไตย

เพราะพวกนี้มันมองทะลุ

ว่าประชาธิปไตยสำหรับสังคมไทยคือ "ดอกไม้ในซอกเขาควาย"      

คนกลุ่มนี้จึงอาศัย "สร้างพรรค-สร้างอำนาจ" ด้วยการปั่นประเด็น เสรีภาพ...สิทธิมนุษยชน...ความเท่าเทียม เป็นดอกประชาธิปไตย

อาศัย "ซอกเขาควาย" หยั่งราก เพื่อยืนต้น!

"จอห์น ล็อก" ซ่อนหัวใจประชาธิปไตยไว้ที่ไหน รู้มั้ย?

ทำให้ "คนโง่" และปั่นให้ "แตกแยก" ไว้ ง่ายต่อการควบคุมและปกครอง

นี่คือ "หัวใจประชาธิปไตย" เอะอะจึงลงถนน ละเลงสีไง

ผมเห็น "เศรษฐา-เพื่อไทย" บริหารแล้ว อยากถีบตัวเอง ที่ดันอยู่ถึงยุค "ชีวิตบัดซบ"

อะไรของมัน (วะ) วันๆ ยิ่งกว่ายี่เก-จำอวด เนื้อหาสาระนำทิศ-นำทางสังคมประเทศสู่อนาคตคุณภาพ ควบคู่การบ่มเพาะทรัพยากรบุคคลคุณภาพ มันอยู่ตรงไหน?

เละเทะ เลื่อนไหล ไปแทบทั้งนั้น งานเป็นเนื้อ-เป็นหนังในทางจับต้องได้ ไม่มีเลย

วันๆ มีแต่ ต้อง "กู้มาแจก" กับกดดันให้แบงก์ชาติ "ลดดอกเบี้ย"!

ถ้ากู้มาแจกแล้ว ชาวบ้าน "ตั้งเนื้อ-ตั้งตัวได้" ลดดอกเบี้ยแล้ว เศรษฐกิจดี จีดีพีโต ๔-๕%

ถ้าเป็นได้จริงตามนั้น ทั้งโลก ไม่มีคนจน ทุกประเทศ เศรษฐกิจจะดี จีดีพีเป็น ๕ เป็น ๑๐% ขึ้นไปทั้งนั้น

ที่โพสต์-ที่พูด....

"เงินเฟ้อติดลบมา ๔ เดือนติดต่อกัน ย่อมเป็นสัญญาณความอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง"

ใช่ ตามตำรา เงินเฟ้อต่อเนื่องหลายเดือน สะท้อนความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ

ก็เศรษฐาเอง บริหารมาร่วม ๖ เดือน ปล่อยเงินเฟ้อติดลบ ๔ เดือนติดต่ออยู่ได้ไง แบบนี้ จะให้ชี้หน้าถุยใส่ใครดี?

ชาวบ้านรู้เรื่องมั้ย "เงินเฟ้อติดลบ" นั่นน่ะ?

ท่องไปซี "เงินเฟ้อติดลบ...เศรษฐกิจวิกฤต" จะได้ปลุกเร้าชาวบ้านให้เกิดกระแสหนุน "ต้องกู้ ๕ แสนล้าน" มากินกัน

เป็นรัฐบาลแบบไหน (วะ) บริหารคล้ายเจตนาให้ประเทศตกต่ำ-ฉิบหาย เพื่อจะใช้อ้าง

"กู้มาตำน้ำพริกเพื่อละลายแม่น้ำ"?

เงินเฟ้อติดลบ มันก็คือ "เงินฝืด"

นำไปสู่การเจ๊งในระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เมื่อไม่มีการผลิต คนก็ตกงาน เมื่อตกงาน คนก็ไม่มีเงิน เมื่อไม่มีเงิน ก็ไม่มีการจับจ่ายใช้สอย                

ธนบัตร จะมีค่าเท่ากระดาษชำระ!

"ดีมานด์-ซัพพลาย" พังด้วยกัน ก็คือ "พังทั้งประเทศ" นั่นแหละ

ถามว่า เวลานี้ "เศรษฐกิจไทย" มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ?

ก็ไม่

"นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์" ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า" ให้ความเข้าใจที่ถูกต้องไว้ดีมาก เมื่อวาน

 “เรื่องเงินฝืด มีคำถามมา ๒-๓ เดือนแล้ว ก็อย่างที่บอก มันเป็นตัวชี้วัดหนึ่ง ที่บอกว่าลบติดต่อกัน ๓ เดือน เป็นเงินฝืด

แต่ก็ต้องไปดูว่าสินค้าส่วนใหญ่ลดลงหรือเปล่า ก็มีสูงขึ้น ลดลง คงที่ และยังต้องไปดูที่เงินเฟ้อ

มันเฟ้อโดยตัวของมันเอง หรือมีกลไกแทรกแซง?

ซึ่งมีการแทรกแซง โดยเฉพาะนโยบายลดค่าครองชีพ ทั้งน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ที่เป็นตัวหลัก

สรุปคือ ยังไม่ฝืดหรอกครับ ยังไม่น่าเป็นห่วง”

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกุมภา.๖๗ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก มาตรการลดค่าครองชีพด้านพลังงาน ได้แก่

การตรึงราคาค่ากระแสไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน ๓.๙๙ บาท/หน่วย ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน ๓๓ หน่วย/เดือน

ซึ่งมีประชาชนได้รับประโยชน์ ๑๗.๗๗ ล้านราย

และมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน ๓๐บาท/ลิตร จนถึง ๑๙ เม.ย.๖๗

และผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญลดลง รวมถึงทำให้ค่าระวางเรือและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญปรับตัวสูงขึ้น เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น"

กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี ๖๗ อยู่ระหว่างร้อยละ (-๐.๓.) – ๑.๗ (ค่ากลางร้อยละ ๐.๗)

ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันและหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง"

เห็นมั้ย.......

เงินเฟ้อติดลบ เพราะปัจจัยสงคราม ทำต้นทุนพลังงาน ขนส่งสูง กับปัจจัยรัฐบาลแทรกแซงเป็นตัวบิดผัน

มีข้าราชการทำงาน "มั่นคง-เป็นหลัก" อย่างนี้บ้าง ค่อยอุ่นใจ

จับตาดูไว้ ถ้า "นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์" ถูกย้ายเพราะขวางทางกู้ของรัฐบาลจากการแถลงครั้งนี้ละก็

ต้องช่วยกัน อย่าให้คนไม่ดีมาทำร้ายท่านได้เชียว!.

-เปลว สีเงิน

๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความหวังคนกรุง ยกระดับ'รถเมล์ไทย'

ปัญหารถโดยสารประจำทางหรือ”รถเมล์” ยังเป็นที่พูดถึงมาทุกยุคสมัย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการเดินทางด้วยรถเมล์ ผู้โดยสารมีทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ว่าจะคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา คนต่างจังหวัดมาทำงานในเมือง คนแก่ คนพิการ ที่ใช้บริการรถเมล์ไทยสู่จุดหมายทั่วมุมเมือง

'เศรษฐา' กับ 'อนาถา'

ยุค "นักโทษ" เป็นใหญ่ "ปรับ ครม.เพื่อไทย" จะแจก-จะริบ "อาหารเม็ด" หมาในคอกตัวไหน?