ปูติน: ตะวันตกหลอกรัสเซียมาตลอด!

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียให้สัมภาษณ์พิธีกรชื่อดังจากอเมริกาทักเกอร์ คาร์ลสันที่มอสโกวเมื่อวันที่ 6 กุมภาฯที่ผ่านมา

เป็นการถาม-ตอบยาวนานถึง 2 ชั่วโมง

และกลายเป็นเรื่องถกแถลงอย่างร้อนแรงไปทั่วโลกว่าพิธีกรคนนี้ควรจะได้รับคำชื่นชมเพราะได้สัมภาษณ์พิเศษที่นักข่าวตะวันตกไม่เคยได้มาก่อนเลยโดยเฉพาะตั้งแต่สงครามยูเครนระเบิดเมื่อ 2 ปีก่อน

หรือควรจะถูกประณามว่ายอมเป็น “เครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ” ของปูติน

ประเด็นหลัก ๆ ของปูติน:

สหรัฐฯ พยายามทำให้รัสเซียอ่อนแอลงแต่กลับกลัวจีนมากกว่า

“ชาติตะวันตกกลัวจีนที่เข้มแข็งมากกว่ากลัวรัสเซียที่เข้มแข็ง เพราะว่ารัสเซียมีประชากร 150 ล้านคน และจีนมีประชากร 1.5 พันล้านคน และเศรษฐกิจของประเทศก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดหรือ 5% ต่อปี แต่ก่อนสูงกว่านั้นด้วยซ้ำไป”

สำหรับจีน ดังที่บิสมาร์ก (แห่งเยอรมันนี) เคยกล่าวไว้ ศักยภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ศักยภาพของจีนนั้นมีมหาศาล

“ทุกวันนี้ จีนมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของอำนาจซื้อ และขนาดเศรษฐกิจได้แซงหน้าสหรัฐอเมริกาเมื่อนานมาแล้ว และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว”

ปูตินกล่าวหาว่าสหรัฐฯ หลอกรัสเซียมาตลอด

“อย่ามัวเถียงกันเลยว่าใครกลัวใคร มาดูความจริงกันดีกว่า”

หลังจากปี 1991 (ปีที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย) รัสเซียคาดหวังว่า จะได้รับการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวพี่น้องของประเทศที่มีอารยธรรม ก็ไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น

“คุณหลอกเรา ผมไม่ได้หมายถึงคุณเป็นการส่วนตัว เมื่อผมบอกว่า 'คุณ' แน่นอนว่าผมกำลังพูดถึงสหรัฐอเมริกา”

คำสัญญาก็คือว่า NATO จะไม่ขยายออกไปทางทิศตะวันออก แต่เอาเข้าจริง ๆ เกิดขึ้นถึง 5 ครั้ง มีการขยายตัว 5 ระลอก

“เราทนได้กับทั้งหมดนั้น ตอนนั้นเราพยายามโน้มน้าวตะวันตกด้วยการชี้ให้เห็นว่าตอนนั้นเราก็เป็นชนชั้นกลางเหมือนคุณแล้ว! เราบอกตะวันตกว่ารัสเซียเป็นระบบเศรษฐกิจแบบตลาดและไม่มีอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์แล้ว”

ปูตินฟาดอเมริกาเรื่องใช้ดอลลาร์มาข่มขู่รัสเซีย...ซึ่งถือเป็นเป็นข้อผิดพลาดครั้งใหญ่

“คุณรู้ไหมว่าการใช้เงินดอลลาร์เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ด้านนโยบายต่างประเทศถือเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นโดยผู้นำทางการเมืองของสหรัฐฯ ผมไม่ต้องการใช้ภาษาที่รุนแรงใดๆ แต่นั่นเป็นการกระทำที่โง่เขลาและเป็นความผิดพลาดร้ายแรง”

ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้วันนี้ซิ: แม้แต่พันธมิตรของสหรัฐอเมริกาก็กำลังลดขนาดเงินสำรองที่ใช้ดอลล่าร์ลง เห็นแบบนี้ทุกคนก็เริ่มมองหาวิธีป้องกันตัวเอง แต่ความจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาใช้มาตรการที่เข้มงวดกับบางประเทศ เช่น การจำกัดการทำธุรกรรม การอายัดทรัพย์สิน ฯลฯ ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากและส่งสัญญาณไปทั่วโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ ก่อนหน้าปี 2022 ประมาณ 80% ของธุรกรรมการค้าต่างประเทศของรัสเซียเกิดขึ้นในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโร ดอลลาร์สหรัฐคิดเป็นประมาณ 50% ของธุรกรรมของเรากับประเทศที่สาม ในขณะที่ปัจจุบันลดลงเหลือ 13%

“ไม่ใช่พวกเราที่ห้ามการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ เราไม่มีเจตนาเช่นนั้น เป็นการตัดสินใจของสหรัฐอเมริกาที่จะจำกัดการทำธุรกรรมของเราในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

“ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องโง่เขลาโดยสิ้นเชิงจากมุมมองของผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และผู้เสียภาษี เมื่อมันสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และบ่อนทำลายอำนาจของสหรัฐฯ ทั่วโลก”

ว่าแล้ว ปูตินก็บอกว่าเงินสกุลหยวนของจีนกำลังมีความแพร่หลายมากขึ้นทุกที

ในอดีต ธุรกรรมของเราในสกุลเงินหยวนคิดเป็นประมาณ 3% ปัจจุบัน ธุรกรรมของเรา 34% เป็นสกุลเงินรูเบิล และมากกว่า 34% เล็กน้อยเป็นสกุลเงินหยวน”

เหตุใดสหรัฐฯ จึงทำเช่นนี้? สิ่งเดียวที่ผมเดาได้คือความมั่นใจในตนเอง พวกเขาคงคิดว่ามันจะนำไปสู่การล่มสลายอย่างสมบูรณ์ แต่เอาเข้าจริง ๆ ไม่มีอะไรพังสลายลงมาอย่างที่คาดหวัง

“ยิ่งกว่านั้น ประเทศอื่นๆ รวมถึงผู้ผลิตน้ำมัน กำลังคิดและยอมรับการชำระค่าน้ำมันเป็นเงินหยวนแล้ว

“คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นหรือไม่? มีใครในอเมริการู้เรื่องนี้บ้างไหม? คุณกำลังทำอะไร? คุณกำลังตัดตัวเองออกจากโลก ผู้เชี่ยวชาญทุกคนพูดแบบนี้ ถามคนฉลาดและมีความคิดในสหรัฐอเมริกาว่าเงินดอลลาร์มีความหมายต่อสหรัฐฯ อย่างไร คุณกำลังฆ่ามันด้วยมือของคุณเอง”

ชัดเจนว่าปูตินต้องการให้บทสัมภาษณ์นี้ส่งสารไปถึงสหรัฐฯและตะวันตกว่าการคว่ำบาตรรัสเซียหลังเกิดสงครามยูเครนนั้นเป็นเรื่องไม่ฉลาดเลย

แทนที่จะ “ลงโทษ” รัสเซียกลับกลายเป็นว่าสหรัฐฯและตะวันตกเองกลับโดนผลกระทลด้วยตัวเอง

อย่างนี้จะเรียกว่าเป็นนโยบายที่ชาญฉลาดได้อย่างไร?

(พรุ่งนี้: ปูตินจับมือจีนตั้งโลกขั้วใหม่ถ่วงดุลตะวันตก)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมียวดี: สงคราม, ทุนสีเทา, กาสิโน, มาเฟียและยาเสพติด

สงครามในเมียวดีตรงข้ามแม่สอดของจังหวัดตากของไทยซับซ้อนกว่าเพียงแค่การสู้รบแย่งชิงพื้นที่ระหว่างฝ่ายกองทัพพม่ากับฝ่ายต่อต้านเท่านั้น

งบมะกันก้อนใหม่จะช่วยยูเครน พลิกสถานการณ์สู้รบได้แค่ไหน?

แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะเปิดไฟเขียวให้งบประมาณช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ แต่ยูเครนก็ยังต้องดิ้นรนไม่ให้แพ้สงครามกับรัสเซีย

ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?

สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร