เป็นอะไรที่น่าสนใจมิใช่น้อย กับข้อมูลที่ระบุว่า ความสุขของคนไทยทุกวันนี้ลดน้อยลง!!!
นอกจากนั้นยังมีตัวเลขที่บ่งบอกว่า สุขภาพจิตคนไทยถดถอย มีสถิติในปี 2566 พบว่า มีผู้ป่วยจิตเวชมากถึง 2.5 แสนคน ในจำนวนนี้ต้องรักษาในโรงพยาบาลมากเกือบ 3 หมื่นคน
ปัญหาเรื่องของสุขภาพจิต หากเป็นประเทศตะวันตก ก็จะถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่พวกเขาจะเดินเข้าไปพึ่งพาปรึกษาหมอ แต่..ไม่ใช่เลย!! สำหรับบ้านเรา ..จริงไหม???
ในสังคมไทย โดยเฉพาะในระดับกลางๆ ลงไป หากบอกว่าไปพบจิตแพทย์ล่ะก็ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ทั้งๆ ที่โรคทางใจ ก็ถือเป็นอาการที่ควรจะมีหมอช่วยดูแลและวินิจฉัยเฉกเช่นเดียวกับโรคทางกายอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีบางส่วนเหมือนกัน ที่เข้าใจเข้าถึงการต้องใช้บริการหมอด้านจิตเวช เพื่อเยียวยารักษาใจ หรือแก้ปัญหาที่ตัวเองคิดไม่ตก แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่า ค่าใช้จ่ายสูงพอสมควรในการพบแพทย์แต่ละครั้ง หลายต่อหลายรายจึงเลือกทางออก ไปหาหมอดูหมอเดา ไปจนถึงหมอด้านสายมู ซึ่งราคาพอจะรับได้มากกว่า
วันนี้มนุษย์ป้าอยากจะชี้ทางออกให้กับสายมูทั้งหลายที่คิดว่า หมอดู อาจารย์สำนักต่างๆ ช่วยได้นั้น คิดใหม่เถิดจะเกิดผล อย่างน้อยที่สุด ลองค้นหา นวัตกรรมแชตบอต “ใส่ใจ” (Psyjai) ที่ทางมหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้เป็นช่องทางในการเยียวยาจิตใจของคนทุกเพศทุกวัยค่ะ
ระบบ AI ที่สามารถพูดคุยกับทุกเพศทุกวัย ช่วยประเมินสภาวะจิตใจและอารมณ์เบื้องต้น บรรเทาความเครียดด้วยหลักจิตวิทยา เปิดบริการแล้ววันนี้ให้เข้าถึงได้ง่ายในทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชม.
นวัตกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการดูแลคนไทยให้มีสุขภาพจิตที่ดี ผู้ใช้งานสามารถตระหนักรู้ถึงสภาวะอารมณ์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า และนำไปสู่การจัดการอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดความยากลำบากของประชาชนในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพจิต
ก็ลองดูนะคะ แชตบอตใส่ใจ (Psyjai) นี้ให้บริการผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) วิเคราะห์อารมณ์จากเนื้อหาการพูดคุย และมีระบบจัดการการสนทนา (Dialogue Management) สำหรับส่งข้อความโต้ตอบให้สอดคล้องกับอารมณ์และประเด็นปัญหาที่ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์หรือตรวจจับได้ ประหยัดทั้งเงินและเวลาแน่นอน แถมไม่โดนต้มด้วยค่ะ.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"



