บันทึกหน้า 4

ต้องเรียกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีนายแบบคนหนึ่งทีเดียวสำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” เพราะการแต่งตัวของนายกฯ โดยเฉพาะ การใส่เสื้อผ้านั้น แต่ละครั้งแต่ละทีช่างมีสีสันเข้ากับการลงพื้นที่เสียจริงๆ และเมื่อเห็นบ่อยๆ เข้า ก็ทำให้ ไพล่นึกไปถึงนายกฯ หญิงแคตวอล์กอย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อย่างช่วยไม่ได้ เพราะช่างละม้ายคล้ายกันอย่างยิ่ง เรียกว่า “สไตลิสต์ประจำตัว” ถอดแบบกันมาเลยก็ว่าได้ ...๐

แล้วที่คล้ายกันเข้าไปอีกก็คือ เรื่องการปล่อยไก่ในเรื่องคำพูดคำจา โดยเฉพาะ “ยิ่งลักษณ์” นั้นต้องบอกว่าในยุคนายกฯ หญิงมีคำนินทากาเลแทบจะนับไม่หวาดไม่ไหว ในขณะที่ยุคนายกฯ เศรษฐานั้น แม้จะไม่ใช่คำพูดปล่อยไก่ แต่มักจะจุดพลุเรื่องให้ไปไกล หรือแม้แต่สะท้อนความไม่รู้ของ “เสี่ยนิด” อย่างมาก โดยเฉพาะล่าสุดคือเรื่องกดมิเตอร์แท็กซี่ ที่บอกว่าเห็นใจ เพราะรถติดมิเตอร์ก็ไม่ขึ้น แสดงให้เห็นว่า “เศรษฐา” ที่มักอ้างเข้าใจประชาชน แท้จริงแล้วก็ไม่เคยขึ้นหรือใช้บริการรถสาธารณะแต่ประการใด ...๐

งานนี้ก็ยกประโยชน์ให้กับ “จำเลย” แล้วกัน เพราะถือว่าเกิดมาบนกองเงินกองทองและใช้ชีวิตหรูหรามาโดยตลอด แต่ที่สังคมสงสัยยามนี้คือเรื่องของชีพจรลงเท้าของนายกฯ นั่นแลว่าทำไมช่างถี่เสี่ยเหลือเกิน ที่สำคัญสวนทางกับที่เคยบอกรูปแบบการทำงานในตอนเข้ามารับตำแหน่ง ที่บอกว่าจะไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก จะจัดประชุม จะดูงานเป็นกรุ๊ปเล็กๆ แต่นี่ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศมีการใช้จ่ายงบประมาณในการเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งการลงพื้นที่ไปเท่าไหร่แล้ว มิพักเรื่องคณะยิ่งกว่าพญาเหยียบเมืองในแต่ละคราวอีก ก็ไม่รู้ว่าแบบนี้หรือที่เรียกว่ากรุ๊ปเล็กๆ ...๐

พูดถึง “เศรษฐา” หากไม่เอ่ยชื่อถึง “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าที่นายกฯ คนถัดไปที่จะมาแทนที่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ไม่ได้ เพราะล่าสุด “เว็บไซต์วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร” หรือ วปอ. ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 หรือที่เรียกว่าหลักสูตร “มินิ วปอ.” จำนวน 150 รายชื่อแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามคาดที่มีชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” โผล่มาด้วย นอกจากนั้นยัง มีนักการเมืองและลูกหลานนักการเมืองพาเหรดติดกันมาพึ่บพั่บใน 150 คน ไม่ว่าจะเป็น ชัยชนะ เดชเดโช สส.ปชป., รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล, คณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือเอิง ทีมงานนายกฯ และเพื่อนสนิทอุ๊งอิ๊ง, พชร นริพทะพันธุ์, ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์, อาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล, พสุ ลิปตพัลลภ, ณัฐธิดา เทพสุทิน และ รวิศ สอดส่อง เป็นต้น...๐

นี่ก็เรียกว่าสวนทางกับที่ “เศรษฐา” เคยปาฐกถาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น 1% ของอภิสิทธิ์ชน ที่ สำคัญงานนี้ส่วนใหญ่รายชื่อก็เป็นคนและญาติโยมของคนในรัฐบาลที่สร้างคอนเนกชันกันอีกต่างหาก ไม่รู้ว่า “นายกฯ” จะกล้าวิจารณ์เรื่องดังกล่าว หรือแค่ปล่อยให้คำพูดหายไปตามสายลม เพราะหากมีชื่อของอุ๊งอิ๊งที่ไรก็มักจะเงียบหายเสมอ เหมือนตอนเรื่องงบซอฟต์พาวเวอร์นั่นแลที่ออกมาโวยมโหฬาร แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ แค่ให้สัมภาษณ์แบบดูขึงขังเท่านั้นเอง...๐

แทบไม่ต่างจากกรณีความขัดแย้งระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่ประการใดในเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. เพราะออกข่าวมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วว่าได้หย่าศึกเกาเหลา 2 กระทรวงไปแล้ว แต่ดูเหมือนความจริงมันช่างตรงข้าม โดยเฉพาะล่าสุดเริ่มกลายเป็น “รักสามเส้า” เสียแล้ว เพราะ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถึงกับฟาดชิ่งไปยัง “กรมแผนที่ทหาร” ของกระทรวงกลาโหม ในเรื่องพื้นที่แนวกันชน ว่าไม่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พร้อมอัดเรื่องวันแมปด้วย ที่สำคัญ “ชัยวัฒน์” แมว 9 ชีวิตยังสำทับด้วยว่า ในหลักฐานชั้นศาลที่ใช้มากว่า 30 ปีไม่มีเรื่องแนวกันแต่ประการใด ร้อนฉ่าจนทำให้ “เศรษฐา” ต้อง โยนเผือกร้อนไปให้ “จตุพร บุรุษพัฒน์” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าเป็นคนไปเคลียร์แล้ว อ้าว แสดงว่าที่หย่าศึกที่ผ่านมาก็แค่ละครสั้นขั้นเวลาหรืออย่างไรมิทราบ และดูเหมือนพฤติกรรมแบบนี้ของผู้นำก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียด้วย หลายต่อหลายสถานการณ์เมื่อจนมุมจนแต้มขึ้นมาก็มักโยนขี้โยนบาป หรือไม่ก็ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เหมือนกับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” อย่างไรอย่างนั้นเสียจริง แหม! ก็ช่างมีการกระทำไม่ต่างจากนายกฯ คนที่ 28 เสียจริงๆ...๐

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.