‘มาครง’แห่งฝรั่งเศสเล่นบท‘หัวหอก’ พร้อมส่งทหารช่วยยูเครนรบรัสเซีย

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส  กำลังจะแสดงตนเป็นผู้นำยุโรปที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับรัสเซีย...ในยูเครน

ทุกประโยคที่มาครงเปรยในที่สาธารณะช่วงหลังนี้คือการส่งสัญญาณไปถึงมอสโกว่าถ้าทหารรัสเซียไม่หยุดรุกคืบในยูเครน ก็จะได้เห็นทหารจากฝรั่งเศสและหลายประเทศที่จะอาสาเข้าไปช่วยปกป้องยูเครน

วันก่อน มาครงปิดห้องคุยกับ สส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล เสนอนโยบายว่าถ้าทหารรัสเซียทะลวงผ่านแนวรบเข้ามาถึงเมืองท่าโอเดสซา หรือรุกเข้าถึงเมืองหลวงเคียฟของยูเครน ฝรั่งเศสและพันธมิตรก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องส่งทหารเข้าช่วยยูเครนสกัดรัสเซีย 

มาครงส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ในการประชุมที่ปารีสในสัปดาห์ครบสองปีของสงครามยูเครนด้วยการตอบคำถามนักข่าวว่า..."ทุกทางเลือกอยู่บนโต๊ะ"  

ความหมายคือไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปในฉากทัศน์ของสงครามในยูเครน

นักข่าวถามว่า นั่นแปลว่าอาจจะส่งทหารนาโตเข้าไปยูเครนอย่างนั้นหรือ?

มาครงตอบว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้...ขึ้นอยู่กับสถานการณ์”

เท่านั้นแหละ หลายประเทศในนาโตรวมถึงสหรัฐฯ ต่างก็ออกมาชี้แจงว่านั่นเป็นความเห็นของมาครงเอง ไม่ใช่มติของนาโต

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เองบอกว่ายูเครนขอเพียงอาวุธและงบประมาณ ไม่ได้ขอให้ส่งทหารเข้าไปช่วยรบ

แต่บางประเทศในยุโรป เช่น เช็ก, โปแลนด์, ลัตเวีย ก็มีทีท่าว่าพร้อมจะร่วมขบวนกับฝรั่งเศสหากถึงจุดที่จำเป็นต้องคิดถึงการส่งทหารเข้าไปถึงสนามรบในยูเครน

แต่หลายประเทศก็มองว่ามาครง “ล้ำเส้น” หรือไม่ก็ “หิวแสง”

เยอรมนียืนอยู่คนละข้างกับฝรั่งเศสเรื่องนี้

จนถูกมองว่ามีความลังเลมากกว่าใครทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่ยืนหยัดต่อต้านรัสเซียเรื่องสงครามยูเครนมาตั้งแต่ต้น

เยอรมนีออกมาบอกว่าเรื่องจะส่งทหารของนาโตไปยูเครนนั้นไม่น่าจะเป็นทางออกที่ดี

ถ้าฝรั่งเศสกับเยอรมนีงัดข้อกันเรื่องนี้ ก็น่าสงสัยว่าความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของยุโรปมีอันต้องบุบสลายแน่นอน

แต่เห็นได้ชัดว่าฝรั่งเศสกำลังผลักดันเรื่องนี้อย่างกระตือรือร้น

รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส Stéphane Séjourné เยือนลิทัวเนียและพบรัฐมนตรีต่างประเทศในทะเลบอลติกและยูเครน เพื่อสนับสนุนแนวคิดที่ว่ากองทหารต่างชาติเข้าไปในยูเครน

อาจจะเริ่มด้วยการส่งทหารเข้าไปช่วยเก็บทุ่นระเบิด

“ไม่ใช่หน้าที่ที่รัสเซียจะบอกเราว่าเราควรช่วยยูเครนอย่างไรในอีกไม่กี่เดือนหรือหลายปีข้างหน้า”  เซเจอร์เนกล่าวในการประชุมที่มีรัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย กาเบรียลอุส ลันด์สแบร์กิส เป็นประธาน

และมีรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดีมีโตร คูเลบา เข้าร่วมด้วย

“ไม่ใช่หน้าที่ที่รัสเซียจะจัดวางแนวทางปฏิบัติของเรา หรือกำหนดเส้นแดง ดังนั้นเราจึงตัดสินใจในหมู่พวกเราเอง”

รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสบอกว่าปฏิบัติระบุถึงภารกิจกวาดล้างทุ่นระเบิดหลายครั้ง

แปลความหมายว่าบุคลากรที่จะส่งเข้าไปนั้นอาจจะไม่ได้ทำการต่อสู้โดยตรง แต่เข้าไปช่วยเสริมศักยภาพด้านอื่นๆ ของยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย

การประชุมรอบนี้มีขึ้นในขณะที่ยูเครนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่

เป็นอุปสรรคต่อการสกัดกั้นการรุกคืบของรัสเซียในสนามรบยูเครน

                    “ตอนนี้ ยูเครนไม่ได้ขอให้เราส่งทหาร แต่ยูเครนกำลังขอให้เราส่งกระสุน” รัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าว                    "และเราก็เปิดทางสำหรับทุกๆ มิติ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"

รัฐมนตรีในทะเลบอลติกยกย่องฝรั่งเศสว่ามีแนวคิด "นอกกรอบ" ที่น่าชื่นชม

เดือนที่แล้วประธานาธิบดีมาครงยกเรื่องความเป็นไปได้ที่ทหารตะวันตกอาจต้องถูกส่งไปยังยูเครนในลักษณะ “โยนหินถามทาง”

หะแรก ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ รวมถึงเยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก และโปแลนด์ รีบบอกว่ายังไม่มีแผนแบบที่ฝรั่งเศสนำเสนอ

แต่ก็เห็นชัดว่าความเห็นเริ่มจะไม่ไปในทิศทางเดียวกัน

เพราะประเทศแถบบอลติกทั้งสามที่เสี่ยงกับการถูกโจมตีจากรัสเซียมากที่สุดหากมอสโกประสบความสำเร็จในสนามรบในยูเครนต่างก็บอกว่า “เปิดใจกว้างไว้” ต่อแนวคิดนี้

โปแลนด์ซึ่งเป็นประเทศที่รัสเซียมองว่าสนิทกับยูเครนมากที่สุดประเทศหนึ่ง ก็กำลังทำท่าว่าจะกำลังทบทวนจุดยืนเรื่องนี้เหมือนกัน

ตอนแรกก็ออกตัวว่า “การปรากฏตัวของกองกำลังนาโตในยูเครนเป็นเรื่องที่คาดคิดไม่ถึง”

นั่นคือคำกล่าวของราดอสลาฟ ซิกอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์

แต่ก็ไม่ลืมที่จะเสริมว่าเขาชื่นชมความคิดริเริ่มของมาครง

“เพราะความคิดนี้ตอกย้ำว่าปูตินต้องกลัวเรา ไม่ใช่พวกเราที่กลัวปูติน”

รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนที่เข้าร่วมประชุมด้วยยืนยันว่า ประเทศยุโรปต้องยอมรับความจริงที่ว่าถ้ารัสเซียยึดยูเครนได้ ประเทศอื่นๆ ในยุโรปก็ไม่มีวันปลอดภัย

เขาบอกว่า “โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับ … ความกลัวของบางประเทศที่ว่าถ้าช่วยยูเครนรบมากขึ้นสงครามจะบานปลาย”

เขาย้ำว่าปัญหาของฝั่งนี้คือยังมีคนที่คิดถึงสงครามครั้งนี้ในแง่ของความกลัวว่าจะบานปลาย 

เขาประกาศว่า "คุณกลัวการบานปลายแบบไหนล่ะ? ต้องเกิดอะไรขึ้นกับยูเครนอีกเพื่อให้คุณเข้าใจว่าความกลัวเช่นนี้ไร้ผล? คุณคาดหวังให้ปูตินทำอะไร

ยูเครนต้องการจะกระตุ้นยุโรปให้ตัดสินใจกระโดดเข้าช่วยยูเครนอย่างไม่ลังเล เพราะสงครามกำลังเข้าสู่จุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่มีความเสี่ยงที่จะแพ้หรือชนะพอๆ กัน

เมื่อมาครงแห่งฝรั่งเศสประกาศตนเป็น “หัวหอก” ของการเตรียม “ลุย” เราก็กำลังเห็นสงครามยูเครนเข้าสู่มิติใหม่ที่อาจจะบานปลายอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ ในอีกไม่นานข้างหน้านี้ค่อนข้างแน่นอน!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เวียดนามกวาดล้างโกงกิน ระดับนำร่วงคนที่ 3 ในปีเดียว

เวียดนามเขย่าระดับสูงอย่างต่อเนื่อง...เป็นการยืนยันว่าจะต้อง “ชำระสะสาง” ให้สามารถจะบอกประชาชนและชาวโลกว่ายึดมั่นเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใสอย่างจริงจัง

สี จิ้นผิงบอกบลิงเกน: จีน-มะกัน ควรเป็น ‘หุ้นส่วน’ ไม่ใช่ ‘ปรปักษ์’

รัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเกนไปเมืองจีนครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนเจอกับ “เล็กเชอร์” จากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นชุด

สมรภูมิยะไข่: อีกจุดเดือด กำหนดทิศทางสงครามพม่า

หนึ่งในกองกำลังชาติพันธุ์ที่กำลังกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางว่าได้ปักหลักสู้กับรัฐบาลทหารพม่าอย่างแข็งแกร่งคือ “อาระกัน” หรือ Arakarn Army (AA) ในรัฐยะไข่ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ติดชายแดนบังคลาเทศ

ส่องกล้องสนามรบทั่วพม่า : แพ้ไม่ถาวร, ชนะไม่เบ็ดเสร็จ

แม้ว่าการสู้รบในเมียวดี ตรงข้ามกับแม่สอดดูจะแผ่วลง เพราะมีการต่อรองผลประโยชน์สีเทากันระหว่างกลุ่มต่างๆ แต่สงครามในเขตอื่นๆ ทั่วประเทศพม่ายังหนักหน่วงรุนแรงต่อไป