
เพราะมีข่าวหลายกระแสที่บ่งบอกไปในทิศทางที่ว่า ผู้นำทหารพม่ากำลังมองคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเป็น “แม่แบบ” ของการสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศที่พยายามจะกดดันให้ต้องยอมเสียงเรียกร้องให้กลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ย้อนกลับไปวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาฟ้องนายทาเคชิ เอบิซาวะ ผู้นำยากูซาของญี่ปุ่นในข้อหาลักลอบค้าวัสดุนิวเคลียร์ระหว่างประเทศจากเมียนมา
เอบิซาวะอยู่ในการควบคุมตัวของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว
เดือนเมษายน 2022 เขาถูกตั้งข้อหาในนิวยอร์กซิตีว่าค้าอาวุธและยาเสพติด
ต่อมามีการเพิ่มข้อหาร้ายแรงว่าพยายามค้าพลูโทเนียมเกรดอาวุธและผงเข้มข้นยูเรเนียมที่เรียกว่า “เยลโลว์เค้ก” ในนามของกลุ่มติดอาวุธนิรนามในเมียนมา
เพื่อแลกกับขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ (SAM) และอาวุธระดับสู้รบพลังทำลายสูงแบบอื่นๆ
นอกจากนี้ เอบิซาวะยังยืนยันว่าเขาสามารถเข้าถึงทอเรียม-232 ได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัม และเยลโลว์เค้ก 100 กิโลกรัม โดยมีรูปถ่ายเป็นหลักฐาน
เอบิซาวะถูกหลอก เพราะเชื่อว่าพูดคุยเรื่องการขายวัสดุนิวเคลียร์กับนายพลจากอิหร่าน แต่จริงๆ แล้วเขากำลังพูดคุยกับสายลับของ DEA หรือหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ
กลายเป็นว่า “ดีล” นั้นล้มไปเพราะถูกสายมะกัน “ล่อซื้อ”
แม้ว่าความพยายามในการทำธุรกรรมจะสลายหายไปต่อหน้าต่อตา แต่เรื่องราวนี้ตอกย้ำว่าภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ที่มาจากกลุ่ม “ไร้รัฐ” มีเป็นอันตรายต่อโลกมากขึ้นทุกวัน
ยิ่งทำให้เกิดความน่ากังวลว่าพม่ายังเดินหน้าพยายามวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ภายใต้การนำของมิน อ่อง หล่าย
ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเล่นกับไฟโดยขาดการกำกับดูแลขององค์กรนานาชาติ
ท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่มีความผันผวนอย่างรุนแรงมากขึ้นทุกวัน
ข่าวบางกระแสบอกว่าเมียนมาได้พยายามพัฒนาโครงการนิวเคลียร์อย่างเงียบๆ มาระยะหนึ่งแล้ว
ความพยายามครั้งแรกของเมียนมาที่จะใช้พลังงานนิวเคลียร์เกิดขึ้นด้วยการจัดตั้งศูนย์พลังงานปรมาณูแห่งสหภาพพม่าในปี 1955
ปี 1997 ถูกยกระดับเป็นสำนักงานพลังงานปรมาณู (DAE) ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (MST)
ปี 1955 พม่าเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยปรมาณูเพื่อสันติภาพ
ปี 1957 พม่าได้สถานภาพเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)
ปี 1992 หลังสงครามเย็น ท่ามกลางแนวโน้มการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เมียนมากลายเป็นรัฐภาคีที่ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)
ปี 1995 เมียนมาลงนามในสนธิสัญญากรุงเทพฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามุ่งมั่นที่จะไม่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ดูจากวิวัฒนาการเช่นนี้ก็สะท้อนว่าพม่าไม่ได้ต้องการจะพัฒนานิวเคลียร์ไปถึงขั้นเป็นอาวุธ
แต่ในปี 2001 รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (SPDC) ได้เจรจากับรัสเซียเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องปฏิกรณ์วิจัยนิวเคลียร์
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากการร้องขอเบื้องต้นของเมียนมาต่อ IAEA ของสหประชาชาติเพื่อให้ได้เครื่องปฏิกรณ์วิจัย
ปี 2000 หน่วยงานนี้กำหนดให้เมียนมาปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยของเครื่องปฏิกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านกฎระเบียบ
รวมถึงการตรวจสอบตามปกติ การปฏิบัติตามข้อกำหนดจะหมายถึงข้อจำกัดที่สำคัญเกี่ยวกับศักยภาพในการวางอาวุธของเทคโนโลยี
แต่กองทัพเมียนมาไม่ต้องการจะต้องยอมรับกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดของสหประชาชาติ
จึงหันไปรับความช่วยเหลือจากรัสเซียในการพัฒนาขีดความสามารถทางนิวเคลียร์
ครั้งนั้น แนวทางนี้นำโดยอดีตเอกอัครราชทูตพม่าประจำสหรัฐอเมริกา อูตอง และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ที่ได้รับการฝึกอบรมจากสหรัฐฯ เต็ง พาว ซอว์
ความเชื่อมโยงระหว่างพม่ากับรัสเซียในกรณีนี้ ทำให้เกิดข้อสังเกตว่ามีอะไรละม้ายกับที่เกาหลีเหนือมีความร่วมมือกับรัสเซียในลักษณะที่ละม้ายคล้ายกัน
เพราะเครื่องปฏิกรณ์เพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ที่ผลิตโดยรัสเซียซึ่งทางการพม่าต้องการซื้อนั้นมีความคล้ายคลึงกับเครื่องปฏิกรณ์วิจัยขนาด 5 เมกะวัตต์ที่สหภาพโซเวียตในขณะนั้นติดตั้งที่ยองบยอนในเกาหลีเหนือในปี 1965
เพราะต่อมาเกาหลีเหนือสกัดพลูโทเนียมเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์นิวเคลียร์จากอุปกรณ์เช่นว่านี้
กรณีพม่ากับรัสเซียเรื่องนี้ไม่ได้เดินต่อ จะด้วยเหตุผลใดไม่ชัดแจ้ง
แต่ความกังวลเกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของเมียนมาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อพม่าสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับเกาหลีเหนืออีกครั้งในปี 2007
นับตั้งแต่นั้นมา มีการคาดเดาและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับความร่วมมือทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในเมียนมา
เกิดเหตุระเบิดที่กรุงย่างกุ้งในปี 1983 ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่คณะรัฐมนตรีชาวเกาหลีใต้ 16 คนในเมืองหลวงขณะนั้นของเมียนมาเสียชีวิต
เมียนมาตัดความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ
แต่ด้วยการปกครองของทหารที่ยืดเยื้อ และผลสะท้อนจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของการปฏิวัติ 88 พม่าเองก็กลายเป็นรัฐนอกกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ ภายใต้คำแนะนำของพลโท Thein Htay รัฐบาลทหารของ Than Shwe จึงได้ติดต่อกับเกาหลีเหนือในช่วงต้นทศวรรษ 2000
อดีตเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลาโหม บรูซ เบชทอล อ้างว่าเมียนมาส่งช่างเทคนิค 30 คนไปยังเกาหลีเหนือเพื่อศึกษาเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์ในปี 2003
ระหว่างปี 2003 ถึง 2006 มีการกล่าวหาว่าช่างเทคนิคชาวเกาหลีเหนืออยู่ในเมียนมาเพื่อช่วยในการสร้างอุโมงค์ใต้กรุงเนปยีดอ
ปี 1997 เกาหลีเหนือกับเมียนมาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอีกรอบ
เอกสารลับที่รั่วไหลออกมาบอกว่ามีการเยือนเกาหลีเหนืออย่างลับๆ ของคณะผู้แทน SPDC ในเดือนพฤศจิกายน 2008
ในระหว่างการเยือนครั้งนั้น นายพลพม่าได้พบกับคิม คยอกซิก เสนาธิการเกาหลีเหนือ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความสัมพันธ์ทางทหาร
ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงที่เน้นการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการขุดอุโมงค์
ข้อกล่าวหาเรื่องการค้าอาวุธผิดกฎหมายระหว่างสองประเทศนี้มีอยู่ต่อมาอีกอย่างไม่หยุดยั้ง
ประชาคมระหว่างประเทศสังเกตเห็นเมื่อเรือ Il-62 ของเกาหลีเหนือที่กำลังเดินทางจากมัณฑะเลย์ไปยังอิหร่านถูกอินเดียสกัดกั้นในเดือนสิงหาคม 2008
กองทัพเรือสหรัฐฯ ไล่ตามเรือของเกาหลีเหนือที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมียนมาในทะเลจีนใต้ในเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่แยกกันในปี 2009 และ 2011
ในปี 2009 มิเชล ชาน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำเมียนมา ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลพม่ายืนยันว่าความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของตนมี “จุดประสงค์เพื่อสันติภาพเท่านั้น”
และยืนยันว่าบทบาทของรัสเซียในการช่วยเมียนมาพัฒนานิวเคลียร์มุ่งเน้นไปที่ "ซอฟต์แวร์และการฝึกอบรม" ในขณะที่เกาหลีเหนือมุ่งเน้นไปที่ "ฮาร์ดแวร์"
นอกจากนี้ในปี 2009 รายงานใน Sydney Morning Herald กล่าวหาว่าเมียนมาได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียและเกาหลีเหนือ
โดยคาดว่าจะมีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และอาวุธร่วมกัน
(พรุ่งนี้: จุดเชื่อมโยงของคิม จองอึน กับมิน อ่อง หล่าย).
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

